สมุนไพรแก้โรค 7 ชนิด ดังไกลทั่วโลก
สมุนไพรแก้โรค ปัจจุบันกระแสดังไกลไปทั่วโลก ตัวไหนดี ตัวไหนเด็ด เรารวบรวมมาให้ครับ ดังนี้
1.หัวปลี
คนไทยนิยมกินหัวปลีเป็นผักแนมในเมนูผัดไทย หรือนำมาใส่ในแกงเลียงที่รสชาติเผ็ดร้อน ซดโล่งคอ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาน้ำนมมาน้อย แต่ในอีกฟากโลกฝั่งยุโรปในประเทศเยอรมัน เหล่าชาววีแกนนิยมนำหัวปลีมาประกอบอาหารแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะเชื่อว่าหัวปลีเป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอด
Research Prove: ข้อมูลจาก Nutritionix Database ระบุว่า หัวปลี 1 เสิร์ฟ หรือปริมาณ 103 กรัม ให้พลังงานทั้งหมด 55 แคลอรี ประกอบด้วย โปรตีน 3 กรัม ใยอาหาร 5.9 กรัม นอกจากนี้อุดมด้วยวิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็กที่สูงอีกด้วย จึงไม่แปลกที่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ ช่วยบำรุงเลือด บำรุงน้ำนมได้
2.ผักชี
ในประเทศไทยอาจจะเป็นเเค่ผักโรยหน้าในอาหาร แต่สำหรับคนญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นผักซูเปอร์ฟู้ดยอดฮิตเป็นอย่างมาก โดยนำมาแปรรูปเป็นอาหารมากมายหลายประเภท เช่น เท็มปุระ ไอศครีม และเมนูข้าวปั้น เพื่อให้กินได้ง่ายขึ้น
Research Prove: ผักชีมีฤทธิ์ลดการอักเสบและลดระดับน้ำตาลในเลือด สามารถป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และสามารถยับยั้งเชื้อโรคได้
อ่านเพิ่มเติม : ผักชี สมุนไพรยอดฮิตจากไทย ดังไกลถึงญี่ปุ่น
3.มะรุม
เข้าใจกันไม่ผิดหรอก มะรุม สมุนไพรแก้โรค ที่เราชอบนำฝักมาแกงส้มนี่แหละ ถูกขนานนามว่าเป็น 1 ในซูปเปอร์ฟู้ดจากทุกทั่วมุมโลก ที่มีประโยชน์ครบครัน มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและประโยชน์ทางยา แหล่งพฤษเคมีชั้นยอดช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้
Research Prove : งานวิจัยหลายฉบับ ระบุว่า ใบมะรุมมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก แถมในแง่การรักษาสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และยังสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้เล็กน้อย และที่สำคัญยังพบว่าอุดมด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และป้องกันความเป็นพิษจากสารหนูได้
4.ใบเตย
อีกหนึ่ง สมุนไพรไทย ถ้าใครเคยได้ตามข่าวดังจากเกาะอังกฤษ ครั้งหนึ่งใบเตยถูกจัดขนานนามว่าเป็น “ชาเขียว” แห่งตะวันออก สามารถเบียดชาเขียวต้นตำรับและอะโวกาโดจนตกอันดับลงได้ เพราะใบเตยสามารถให้สารสีเขียวที่มีหวามหอมเฉพาะตัว จนเหล่าผู้ดีอังกฤษนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารมากมาย โดยเฉพาะการนำมาทำขนมเค้ก
Research Prove : งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารสกัดจากใบเตย ประกอบด้วยกลุ่มสารฟินอลิคและสารแอนติออกซิแดนท์ สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยที่ชาชงใบเตยมีฤทธิ์ป้องกันดีกว่าการดื่มน้ำใบเตยต้ม
อ่านเพิ่มเติม : สมุนไพรมาเเรงเเซงทางโค้ง 4 สูตรใบเตยหอม บำรุงหัวใจ ช่วยห่างไกลเบาหวาน และช่วยขับถ่าย
5.กระเจี๊ยบมอญ
ทำไมคนโอกินาวา แห่งเกาะญี่ปุ่นถึงได้อายุยืน ก็เป็นเพราะว่าคนโอกินาวากินพืช ผักสมุนไพรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะดอกกระเจี๊ยบมอญ หรือคนญี่ปุ่นเรียกว่า Okra โดยสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ซุป เทมปุระ และสลัดญี่ปุ่น ก็อร่อยได้ทุกเมนู
Research Prove : ฝักกระเจี๊ยบมอญ เป็นทั้งสมุนไพรไทย อาหารที่อุดมด้วยใยอาหารสูง สารเมือกในกระเจี๊ยบมอญ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้หลากหลาย เช่น โรคทางเดินอาหาร โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด
และที่สำคัญคือโรคเบาหวาน เพราะมีงานวิจัยพบว่า หนูทดลองที่ถูกทำให้เป็นโรคเบาหวาน เมื่อได้รับผงจากเปลือกและเมล็ดกระเจี๊ยบมอญ พบว่ามีระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดลดลงมากว่าหนูที่ไม่ได้รับ
6.เปล้าน้อย
ย้อนกลับไปในอดีตเปล้าน้อย เป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกกันมากแถวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านชอบนำมาเคี้ยวกินแก้อาหารไม่ย่อย รักษาอาการท้องเสีย และโรคกระเพาะอาหาร แต่ก็ไม่วายที่ประเทศญี่ปุ่นนำเปล้าน้อยไปต่อยอดและจดลิขสิทธิ์สารสำคัญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้ชื่อว่า เปลาโนทอล (Plaunotol)
Research Prove : สารสำคัญเปลาโนทอล มีคุณสมบัติสามารถรักษาโรคกระเพาะ โดยออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคต้นเหตุของโรคกระเพาะอาหาร (Helicobacter pyroli ) กระตุ้นการหลั่งและสังเคราะห์สารสร้างเมือกในกระเพาะอาหาร ( gastric-mucosal prostaglandin ) ได้
7.ผักเชียงดา
อีกหนึ่งผักพื้นบ้านของไทยที่ เป็นสมุนไพรไทย และราชินีแห่งผักทางภาคเหนือ นิยมนำมาปรุงเป็นแกงพื้นเมือง กินในช่วงฤดูร้อน เพราะสามารถช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ แต่ปัจจุบันได้ถูกจดลิขสิทธิ์โดยประเทศญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สามารถใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวานได้
Research Prove : งานวิจัยระบุว่า สารสกัดจากใบเชียงดา สามารถยับยั้งการดูดซึมของน้ำตาลกลูโคสในลำไส้เล็กได้ การศึกษาในคน พบว่า คนที่กินชาผักเชียงดาหลังจากกินกลูโคส 15 นาที พบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าผักเชียงดาลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
สมุนไพรแก้โรค และผักพื้นบ้านของไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกว่าไหมครับ