น้ำอาร์ซีฟื้นฟูร่างกาย
จากพฤติกรรมการกินผิด และความเครียดที่มีอย่างต่อเนื่อง กลางปี 2545 ร่างกายที่เคยแข็งแรงดีของคุณเชาว์ พงศ์พิสุทธิ์ ผู้บริหารวัย 59 ปี ก็เกิดอาการผิดปกติขึ้นที่ระบบขับถ่าย แม้จะพยายามแก้ไขด้วยตัวเอง แต่อาการก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเข้ารับการรักษา คุณเชาว์ก็ได้รับข่าวร้ายว่าป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
หลังจากเข้ารับการผ่าตัด เรื่องร้ายๆ ก็ยังไม่ผ่านพ้นไป เพราะคุณเชาว์ยังต้องเจอกับมรสุมลูกใหม่ที่ตามมาติดๆ นั่นคือ การรับยาเคมีบำบัดอีก 6 คอร์ส
“คีโมคอร์สแรก กินแล้วแพ้นิดหน่อย มือและปลายนิ้ว ผิวจะบางๆ ที่ฝ่าเท้าก็จะมีน้ำคั่งอยู่ แต่โชคดีที่ช่วงนั้นพี่สาวกับลูกซื้อหนังสือของอาจารย์สาทิสมาให้ พอได้อ่าน มีความหวังขึ้นมาเลย เราไม่ตายแล้ว และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักกับน้ำอาร์ซี”
ตลอดเวลาที่คุณเชาว์ต้องต่อสู้กับโรคร้าย คุณมะปราง พงศ์พิสุทธิ์ ภรรยา ก็ได้ทำหน้าที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของสามี เธอตั้งอกตั้งใจทำความความเข้าใจกับองค์ความรู้ต่างๆ จากหนังสือโดยละเอียด ซึ่งก็ได้พบคำตอบว่า สามารถใช้วิธีนี้ควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบันได้ เมื่อความมั่นใจเกิด ทั้งสองคนจึงเดินหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ในที่สุดน้ำอาร์ซีก็ถูกนำมาใช้แทนอาหารขณะที่การรักษาด้วยเคมีบำบัดเข้าสู่คอร์สที่ 2
“พอเข้าคอร์สที่ 2 เราเริ่มเบื่ออาหาร กินอะไรไม่ได้เลย ผลักจานออกตลอด คอร์สที่2 คอร์สที่ 3 เราแย่มากเลย”
คุณมะปรางเห็นว่าคุณเชาว์มีอาการเบื่ออาหาร ไร้เรี่ยวแรง จึงให้ความสนใจกับเครื่องดื่มเป็นพิเศษ น้ำอาร์ซีอุ่นๆ ถ้วยแรกก็ถูกเสิร์ฟให้กับคนป่วยซึ่งขณะนั้นกินอะไรไม่ได้เลย และในที่สุดก็กลายเป็นอาหารหลักที่คุณเชาว์ดื่มทดแทนอาหารปกติ
“ชิมรสชาติครั้งแรกมันไม่ค่อยอร่อย แต่พอได้กินแล้วดี กลับมีแรง กระปรี้กระเปร่า สำหรับผมแล้ว ผมดื่มน้ำอาร์ซีเอนไซม์ ไม่กินข้าวยังได้เลย”
หลังจากพ้นช่วงวิกฤต คุณเชาว์ยังคงดื่มน้ำอาร์ซีในปริมาณมากเช่นเดิม แล้วก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายชัดเจนยิ่งขึ้น “หลังจากให้เคมีบำบัดช่วงแรกๆ เราจะดื่มแทนน้ำเลย ต้มชุดแรกก็ดื่มตั้งแต่ตีห้าถึงเที่ยงวัน แล้วก็ต้มชุดที่สองไว้สำหรับดื่มช่วงบ่ายถึงค่ำ ข้าวอาร์ซีเราก็เอามาทำข้าวต้มบ้าง เอามาหุงบ้าง ช่วยได้เยอะ ทำให้ฟื้นตัวเร็ว ช่วยให้มีกำลังมากพอที่จะเดินเหินได้ พอร่างกายฟื้นดี ผมก็กลับมากินข้าวกินปลาได้เหมือนเดิม”
เพียงไม่นานอาการแพ้ที่เกิดขึ้นก็บรรเทาเบาบางลง ทั้งอาการไวต่อสัมผัสที่ปลายนิ้วมือ และอาการมีน้ำที่ฝ่าเท้า อย่างไรก็ดี แม้สุขภาพจะดีขึ้นตามลำดับ คำพูดของคุณหมอที่ว่า “ต้องคอยติดตามดูอาการต่อไปสัก 5 ปี ต้องระวังไม่ให้กระจาย ถ้าคุณสามารถผ่านไปได้ก็มีโอกาสหายสูง แต่ถ้ากลับมาเป็นอีก ก็มาว่ากันอีกที” ก็ยังอยู่ในใจของคุณเชาว์ตลอด
ดื่มอาร์ซีต้านมะเร็ง
อาการของคุณเชาว์ค่อยๆ ดีวันดีคืน แต่หลังจากผ่านการให้เคมีบำบัดมาเพียงไม่กี่เดือน คุณเชาว์ก็ต้องเจอกับอาการพังผืดขึ้นในบริเวณลำไส้ เนื่องจากไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง ซึ่งการผ่าตัดในครั้งนี้ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงไปมากกว่าคราวที่แล้ว
“หมอสั่งให้งดอาหาร โซเลย น้ำหนักลดไปหลายกิโล เพราะเขาต้องการให้พังผืดที่ลำไส้คลายตัวเอง แต่ครั้งนี้เรามีกำลังใจ ไม่กลัวเลยเพราะรู้ว่ามีของดีอยู่กับตัวแล้ว คิดว่าผ่าเสร็จ เราก็กลับมาดื่มอาร์ซี มากินอาหารชีวจิต ร่างกายก็คงไม่มีปัญหา หลังผ่าตัดดื่มน้ำอาร์ซีแทนน้ำไปเลย ก็ปรากฏว่าหลังจากผ่าตัดคราวนี้ ร่างกายฟื้นตัวเร็วมากกว่าคราวที่แล้วอีก ออกจากโรงพยาบาลวันนี้ นั่งรถกลับที่ทำงานที่โคราช วันรุ่งขึ้นก็ไปทำงานได้เลย”
หลังจากการผ่าตัดครั้งนี้คุณเชาว์พกกระติกน้ำอาร์ซีติดตัวไปทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงาน ไปดูงานต่างจังหวัดไกลๆ หรือเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพ เพราะช่วยให้รู้สึกสดชื่นตลอดวัน ที่สำคัญคุณเชาว์บอกว่าสามมารถทำงานได้โดยไม่เหลือคราบคนเป็นมะเร็งแม้แต่น้อย
คุณเชาว์ยังบอกเคล็ดลับสุขภาพที่น้ำอาร์ซีให้ประโยชน์ในทางอ้อมอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง ซึ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการต้านมะเร็งด้วยว่า
“การดื่มน้ำอาร์ซี ช่วยเพิ่มกำลังวังชาให้เราออกกำลังกายได้เต็มที่ จึงช่วยให้ร่างกายมีภูมิชีวิตที่ดีอีกทางหนึ่ง ก่อนออกวิ่งก็กินหนึ่งแก้ว กลับมาถึงบ้านก็กินอีกหนึ่งแก้ว ดื่มแล้วเราจะมีแรง ทุกวันนี้เช้ามาก็วิ่งในบริเวณที่ทำงานชั่วโมงครึ่ง รำกระบอง แถมเย็นอีกครึ่งชั่วโมงได้สบายๆ รู้ได้เลยว่าภูมิชีวิตเราดีขึ้นจริงๆ ดูง่ายๆ จากการที่เราไปวิ่งกับคนที่รุ่นราวคราวเดียวกันหรืออายุน้อยกว่าเรา เขาออกกำลังกายสู้เราไม่ได้ เขาวิ่งไม่ถึงรอบก็ไม่ไหวแล้ว ผมก็ยังวิ่งสบายๆ”
“ไปตรวจตามที่หมอนัดก็ไม่พบ เราก็มั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ปีที่สาม หมอตรวจแล้วพูดติดตลกว่าใกล้นั่งรถเบนซ์แล้ว ปีที่ 4 แกก็บอกว่าจวนแล้วๆ พอปี 5 แกก็บอกว่านั่งรถเบนซ์แล้วนะ เราก็โล่งพอปีที่ 6 ก็ตรวจไม่พบอีก หมอก็บอกว่าสบายแล้ว”
ปีนี้จึงเป็นปีแรก ที่คุณเชาว์ อาจพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่ามะเร็งร้ายได้โบกมือลาจากชีวิตเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับสุขภาพโดยรวมในตอนนี้ทั้งคุณเชาว์และคุณมะปรางพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แข็งแรงกว่าตอนที่ยังไม่ได้เป็นมะเร็ง และส่วนหนึ่งทั้งสองคนเชื่อว่ามาจากการดื่มน้ำอาร์ซีนี่เอง
ประสบการณ์วันนี้ น้ำอาร์ซีแสดงตัวตนในฐานะผู้ช่วยเยียวยามะเร็ง แต่เชื่อแน่ว่าความมหัศจรรย์ของข้าว 9 ชนิดนี้ยังมีอยู่อีกมากมาย ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ
ข้อมูลเรื่อง ” น้ำอาร์ซีต้าน มะเร็งลำไส้ ” จากนิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ …