เจ้าพ่อวิตามิน
เอลเมอร์เวอร์เนอร์ แมคคอลลัม (ELMER VERNER McCOLLUM) ซึ่งเกิดเมื่อปี ค.ศ.1879 ที่ฟอร์ทสกอต มลรัฐแคนซัส เป็นผู้ค้นพบวิตามิน A เขาได้ประกาศต่อโลกอย่างท้าทายว่า “เรื่องกิน (ให้ถูก) เป็นเรื่องใหญ่ และต้องกินให้ครบ ถ้ากินไม่ครบก็ป่วย แล้วก็ตาย”
เป็นการประกาศที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน และโดยเหตุที่เขาไม่ใช่แพทย์ เป็นแต่เพียงนักเคมีซึ่งจบจากมหาวิทยาลัยแคนซัสใหม่ๆ การประกาศท้าทายของเขาในเรื่องวิตามินจึงไม่มีใครเชื่อ ตรงกันข้าม เขาถูกโจมตีและคัดค้านอย่างรุนแรงจากวงการแพทย์ จนกระทั่งเกือบจะต้องลาออกจากงานที่เขาทำอยู่ในฐานะอาจารย์แผนกเกษตรกรรมของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน
เอลเมอร์ แมคคอลลัม ไม่ได้ท้อถอย เขาปลีกตัวเองออกจากสังคมที่เต็มไปด้วยการแบ่งแยก เล่นพรรคเล่นพวก และเต็มไปด้วยการอิจฉาริษยา เขาซุ่มทำงานค้นคว้าของเขาต่อไปเงียบๆ จนกระทั่งอีก 5 ปี ต่อมา เขาก็ค้นพบและพิสูจน์ได้ว่า วิตามิน A นั้นมีอยู่จริง และการขาดวิตามิน A จะทำให้ป่วยและตายได้
เขามีชื่อเสียงก้องโลก กลายเป็นเจ้าพ่อผู้ให้กำเนิดวิตามินมาแต่ครั้ง กว่า 88 ปีล่วงมาแล้ว
แต่แมคคอลลัมไม่ได้สนใจต่อชื่อเสียงและสมญานาม “เจ้าพ่อวิตามิน” ที่เขาได้รับเขากลับประกาศว่า ที่เขาทำงานค้นพบวิตามิน A ได้สำเร็จเพราะแม่ของเขาเอง
เมื่อเขามีอายุได้หนึ่งขวบ เขาเกือบจะตาย ร่างกายของเขาผ่ายผอม จนกระทั่งทุกคนในครอบครัวเชื่อว่าเขาคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งปี
ถ้าเขาเกิดมาสมัยใหม่ วงการแพทย์ด้าน ORTHOMOLECULAR จะวินิจฉัยได้ทันที เขาป่วยเป็นโรคขาดวิตามินหลายตัวและเขาต้องตายแน่ถ้าไม่ได้รับการรักษาด้วยการให้วิตามินโดยด่วน
แต่สมัยโน้นในวงการแพทย์ยังไม่มีใครรู้จักวิตามิน ไม่มีคำว่า “วิตามิน” ในพจนานุกรมการแพทย์ด้วยซ้ำ และตัวแมคคอลลัมเองก็กำลังจะตายด้วยโรคที่ไม่มีใครรู้จัก ตายด้วยการขาดวิตามิน ซึ่งต่อมาเขาจะต้องเป็นผู้ค้นพบและประกาศต่อโลกว่า “นี่ไง เจ้าวิตามินซึ่งถ้าคนไม่มีในร่างกาย เขาต้องตายแน่นอน”
คงจะเป็นโชคชะตาที่ต้องการให้เขาอยู่รอดจากความตายเพื่อมาค้นพบวิตามินตัวแรกของโลกนี้ วันหนึ่งแม่ของเขากำลังปอกแอ๊ปเปิ้ล โดยมีลูกน้อยซึ่งเจ็บหนักนอนอยู่บนตัก ลูกน้อยนั้นกำลังร้องงอแง แม่เขาไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยลองเอาเปลือกแอ๊ปเปิ้ลใส่ในปาก ลูกน้อยนั้นหยุดร้องและทำท่าท่าว่าจะชอบกินเปลือกแอ๊ปเปิ้ลด้วย
แม่ของแมคคอลลัม–มาร์ธา– มีความเชื่อมาแต่โบราณว่า “อะไรที่เด็กชอบกินแสดงว่าสิ่งนั้นร่างกายต้องการ”
นับแต่นั้นมามาร์ธาก็ป้อนเปลือกแอ๊ปเปิ้ลให้ลูกน้อยกินทุกวัน ชั่วเวลาเพียง 3-4 วัน อาการของลูกน้อยดีขึ้นเห็นทันตา
โชคดีที่แมคคอลลัมมีแม่เป็นคนฉลาดและรู้จัดคิด มาร์ธามีความคิดว่าถ้าเปลือกแอ๊ปเปิ้ลมีประโยชน์ต่อลูกของเธอ ผลไม้อื่นๆ และผักสดน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเอลเมอร์ลูกของเธอด้วย มาร์ธาจึงเพิ่มผักสดและคั้นน้ำสตรอว์เบอร์รี่ป่าให้ลูกของเธอกินด้วย นอกเหนือไปจากอาหารประจำวันตามธรรมดา
และนั่นคือการค้นพบอาหารซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน C ซึ่งไม่มีใครรู้จักในสมัยนั้น และช่วยให้ลูกน้อยของเธอรอดตายจากการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง โลหิตจาง และมีเลือดออกตามไรฟัน (SCURVY)
เอลเมอร์ แมคคอลลัม รอดตายจนกลายมาเป็นเจ้าพ่อวิตามินได้ ก็เพราะการรู้จักคิดรู้จัดค้นคว้าของแม่ของเขาด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยประการฉะนี้