อาการบาดเจ็บ, วิ่ง, ออกกำลังกาย

5 อาการบาดเจ็บ ที่มักเกิดกับนักวิ่ง

อาการบาดเจ็บ ที่มักเกิดกับนักวิ่ง แก้ไขได้ แค่รู้จักต้นตอ

อาการบาดเจ็บ มักเป็นของคู่กันกับนักวิ่ง วันนี้ เรามี 5 อาการที่หลายคนกำลังพบเจอ ไม่ว่าจะเป็น เอ็นร้อยหวายอักเสบ กระดูกอ่อนข้อเข่าอักเสบ และปวดหัวเข่าด้านนอก พร้อมทั้งวิธีดูตัวเองให้วิ่งได้อย่างไร้กังวล

TOP 5 RUNNING INJURIES

1. กระดูกหักล้ากระดูกหักล้า

หรือ Stress Fracture ส่วนใหญ่เกิดกับนักวิ่งมาราธอนหรือนักวิ่งเทรล เพราะร่างกายออกกําลังหนักเกินไป หรือวิ่งบนพื้นผิวที่ร่างกายไม่คุ้นเคย ทําให้กล้ามเนื้อล้า ไม่สามารถรองรับแรงกระแทกต่อไปได้ แรงจึงตกที่กระดูกจนทําให้กระดูกหัก ส่วนใหญ่เกิดกับกระดูกหน้าแข้ง หรือกระดูกเท้า ถ้าเกิดขึ้นแล้วต้องพักการวิ่งนาน 3-4 เดือน กว่าอาการจะดีขึ้น

2.กระดูกอ่อนข้อเข่าอักเสบ

มักเกิดกับผิวกระดูกอ่อนสะบ้าด้านในเริ่มเสื่อม เพราะรับแรงกระแทกจากการวิ่งมากเกินไป จึงเริ่มมีอาการเสียว ขัด และปวดไม่มาก แต่เป็นๆ หายๆ ถ้าเป็นมาก อาจมี อาการบวมตามมา และหากไม่รักษาแต่เนิ่นๆ จะเกิดภาวะเข่าเสื่อมถาวรตามมา

3.ปวดหัวเข่าด้านนอก

อาการปวดหัวเข่าด้านนอก หรือ ITBS (IliotibialBandSyndrome) เกิดจากการวิ่งมากเกินไป ทําให้กล้ามเนื้อที่เชื่อมระหว่างกระดูกช่วงเอวกับขาท่อนล่าง เสียดสีกับกระดูกอย่างรุนแรง ในจังหวะเหยียดและงอเข่า โดยเฉพาะการวิ่งทางชันหรือขึ้น–ลงเขา หากปล่อยไว้นาน อาจทําให้ขาโก่งหรือข้อเท้าบิดเข้าด้านในได้

4.เอ็นร้อยหวายอักเสบ

เกิดจากการวิ่งบ่อยเกินไป หรือวิ่งโดยสวมรองเท้าแข็งเกินไป ทําให้เอ็นร้อยหวายเกิดการเสียดสีมาก จึงอักเสบหรือเกิดฉีกขาด ยิ่งฉีกขาดกว้าง ยิ่งปวดมาก หากเกิดขึ้นแล้วต้องพักให้หายก่อนลงวิ่งอีก

5.รองช้ํา

รองช้ํา หรือPlantarFasciitis คืออาการเอ็นรองฝ่าเท้าอักเสบจากการรับแรงกระแทกมากเกิน หรือลงแรงกระแทกผิดท่า ทําให้เอ็นฝ่าเท้าอักเสบและฉีกขาด จึงเกิดอาการปวดฝ่าเท้าโดยเฉพาะส้นเท้า

คิเนซิโอเทป ช่วยลดปวดคืออะไร

อ่านต่อหน้า 2

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.