ความเชื่อเรื่องการกิน ที่เกินจริง แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นความจริง
วันนี้ผู้อ่านมีข้อมูลน่าสนใจ เกี่ยวกับ ความเชื่อเรื่องการกิน ที่อาจจะเกินจริงไปหน่อย แต่มีหลายคนเชื่อสนิทใจ เลยขอนำมาขยายถึงที่มาที่ไป และข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมที่ควรรู้ไว้ มาอ่านกันเลยค่า
หมากฝรั่งต้องใช้เวลา 7 ปี ในการย่อย
เรามักได้ยินคำเตือน เกี่ยวกับหมากฝรั่งที่หากกินเข้าไป ต้องใช้เวลาถึง 7 ปีในการย่อย (ด้วยกระบวนการของร่างกายมนุษย์) ที่มาที่ไปยังไม่ชัดเจนว่าความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่เมื่อใด แต่คุณควรรู้ไว้ว่า หากคุณเผลอกลืนหมากฝรั่งเข้าไป มันก็จะเข้าไปสู่ระบบย่อยอาหารเดียวกันกับอาหารชนิดอื่นๆ เอนไซม์จะย่อยสลายเนื้อหมากฝรั่งส่วนใหญ่ และที่เหลือก็จะถูกกำจัดไปเช่นเดียวกับอาหารที่เรากิน ไม่ได้มีผลเสียอะไรร้ายแรง
จากข้อมูลของ American Academy of Pediatrics มีกรณีตัวอย่างน้อยมากในเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารจากการกลืนหมากฝรั่ง แม้การเผลอกลืนเข้าไปเป็นครั้งคราวไม่ใช่เรื่องอันตราย แต่การกลืนบ่อยๆ ก็ไม่ควรทำเช่นกัน
ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
แน่นอนว่าทุกคนมักตั้งเป้าดื่มน้ำให้ได้ 8 แก้วต่อวัน เพราะน้ำนั้นไม่มีแคลอรี ช่วยปรับสมดุลอุณหภูมิของร่างกาย และอื่นๆ แต่การดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวันเป็นเพียงการประมาณไว้อย่างคร่าวๆ ไม่ใช่ข้อบังคับ
ความต้องการของเหลวในร่างกายต่อวันของแต่ละคนขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกัน ทั้งอายุ เพศ น้ำหนัก กิจกรรมที่ทำ และสภาพอากาศ
ข้อมูลจาก National Academies of Engineering and Sciences ระบุว่า คนรักสุขภาพส่วนมาก ใช้วิธีให้ความกระหายเป็นตัวบอกว่าจะดื่มน้ำมากน้อยเพียงใด รายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้หญิงทั่วๆ ไปจะดื่มน้ำประมาณ 11 ถ้วยครึ่ง จากอาหารและเครื่องดื่มต่อวัน
สำหรับผู้ชายจะอยู่ที่ประมาณ 15 ถ้วยครึ่งต่อวัน ดังนั้นควรกินอย่างเหมาะสมและอย่าปล่อยจนรู้สึกกระหาย
การปรุงผักให้สุก ทำลายสารอาหาร
กำลังคิดจะกินอาหารแบบ raw food อยู่หรือเปล่า ด้วยความคิดที่ว่า ผักที่ผ่านความร้อนจะเสียคุณค่าทางอาหาร วิธีนี้ดูจะเป็นวิธีที่ช่วยให้ได้ประโยชน์จากผักมากที่สุด แต่เดี๋ยวก่อน อย่างน้อยๆ วิธีนี้ก็ใช้ไม่ได้กับแครอทและมะเขือเทศ ในบางกรณี การปรุงสุกทำให้สารอาหารออกมามากขึ้น ไม่ใช่ลดลง
จากการศึกษาของ National Center of Biotechnology Information แนะนำว่า แครอทนึ่งจนเริ่มสุกปานกลางสามารถเพิ่มปริมาณเบต้าแคโรทีนได้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ และการศึกษาอื่นๆ พบว่า มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนมีปริมาณไลโคปีนที่เพิ่มมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความร้อนไปทำลายผนังเซลล์ที่คอยกักสารอาหารอย่างเบต้าแคโรทีนและไลโคปีนให้พังลงนั้นเอง ดังนั้น การกินทั้งผักสดผักสุกปนๆ กันจะช่วยให้ได้รับสารอาหารหลากหลาย ครบถ้วนมากกว่า
เกลือ ไม่ดีต่อสุขภาพ
เกลือไม่ได้เป็นอันตรายต่อคุณ ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ดีมาก อย่างแรกเลย ในเกลือแกงจะมีโซเดียม เกลือหนึ่งช้อนชา มีโซเดียม 2,300 มิลลิกรัม ร่างกายของคุณต้องการโซเดียมเพื่อจัดการปริมาณเลือดและความดันโลหิต คงสภาพการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ซึ่งจำเป็นต่อกระบวนการทำงานของร่างกายมนุษย์
แล้วทำไมเกลือถึงดูเป็นผู้ร้ายนักล่ะ The Centers or Disease Control and Preventionระบุว่า คนอเมริกันมักกินเกลือเกินกว่าความต้องการ (มากกว่า 3,400 มิลลิกรัม ต่อวัน) การกินโซเดียมมากไปก่อให้เกิดความดันโลหิตสูง และความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจ
น้ำผลไม้ก็คือน้ำหวาน
น้ำพันช์ผลไม้ หรือน้ำผลไม้รูปแบบต่างๆ มักมีการแต่งสีเลียนแบบสีผลไม้นั้นๆ รวมไปถึงแต่งกลิ่น รสชาติ และเติมน้ำตาล บางครั้งน้ำพวกนี้แทบไม่มีผลไม้จริงอยู่เลย
โชคดีที่ ในน้ำผลไม้แท้ 100% นั้นต่างออกไป ไม่เพียงแต่จะมีแค่ผลไม้ ยังมีส่วนประกอบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และหากผลไม้นั้นเป็นผลไม้ที่นำมาทำน้ำผลไม้ได้ทั้งเปลือก จะยิ่งมีประโยชน์มากขึ้น มีใยอาหาร และมีสารสำคัญต่างๆ ที่ช่วยป้องกันโรคอย่างโรคหัวใจได้ด้วย
อย่ากินไข่แดง
กินแต่ไข่ขาวโดยไม่กินไข่แดงก็เหมือนใส่กางเกงไม่ใส่เสื้อ มันไม่ครบ แล้วทำไมถึงควรกินใครทั้งฟองรู้ไหม
เพราะคุณจะได้โปรตีนคุณภาพดีจากไข่ขาว และได้คอเลสเตอรอลดีจากไข่แดง ทั้ง โคลีน ลูทีน โอเมก้า-3 และได้โปรตีนอีกนิดหน่อย
จากข้อมูลของ Office of Disease Prevention and Health Promotion ระบุว่า คอเลสเตอรอลจากอาหารไม่มีผลกระทบต่อระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี(LDL)ในเลือด แต่ไขมันทรานส์กับไขมันอิ่มตัวในอาหารจะส่งผลกระทบได้
ดังนั้นการกินไข่แดงไปพร้อมกับไข่ขาวไม่ใช่เรื่องแย่ ไม่จำเป็นต้องแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว เพราะจะเสียโอกาสได้รับคุณค่าทางสารอาหารมากมายที่จะได้จากไข่แดงไป
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ไขข้อข้องใจ น้ำผึ้งกับผู้ป่วยเบาหวาน กินได้หรือไม่ มากน้อยเท่าไร
คลายสงสัย ความร้อนทำลายสารอาหาร ในอาหารหรือไม่
กินวิตามินตอนไหน ดีสุด ได้ประโยชน์สุด คุ้มค่าเงิน
ตอบปัญหา เราสามารถรับฮอร์โมนเพศหญิง จากอาหารได้หรือไม่