ชี้แล้ว ” แอลกอฮอลล์” สาเหตุการเสียชีวิตของ ลัลลาเบล
ได้ผลชันสูตรทางการแพทย์เป็นที่เรียบร้อย กับคดีการเสียชีวิตของพริตตี้สาว ลัลลาเบล ผลพบว่าการเสียชีวิตนั้นมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เกินขนาด ส่งผลให้มีแอลกอฮอลล์ในเลือดสูงมาก ส่งผลให้เสียชีวิตตามลำดับ เรามาดูสาเหตุกันว่า แอลกอฮอลล์จะก่อโทษให้ร่างกายได้อย่างไรบ้าง โดยอ้างอิงข้อมูลจากรายการ “คับข่าวครบประเด็น” ช่อง MCOT

แอลกอลฮอลล์กับผลต่อร่างกาย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ สหภูมิ ศรีสุมะ จากคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ “คับข่าวครบประเด็น” เกี่ยวกับการถึงแนวโน้มความเป็นไปได้ของการเสียชีวิตเพราะดื่มแอลกอฮอลล์ในปริมาณที่มาก โดยกลุ่มที่ดื่มปริมาณมากจะส่งผลกระทบ 3 ประเด็นทั้งระยะฉับพลันและระยะยาว
ระยะฉับพลัน ทำให้หมดสติ หลับลึก มีปัญหาระบบทางเดินหายใจตก ทั้งทางเดินหายใจตีบ-แคบ หายใจลำบาก ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิต เพราะผู้ที่เมาหนักจะไม่สามารถตื่นมาหายใจเองได้ในภาวะที่การหายใจติดขัด นอกจากนี้การดื่มหนักจะกระตุ้นหัวใจให้ทำงานหนัก อาจเต้นผิดจังหวะ หากรุนแรงมากอาจเสียชีวิต ส่วนในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาการติดแอลกอฮอลล์จะส่งผลทำให้ตับแข็ง ทำลายหัวใจ และเป็นพิษต่อร่างกาย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สหภูมิฯ ระบุว่า อัตราการตอบสนองต่อแอลกอฮอลล์ของแต่ละคนไม่เท่ากันที่จะทำให้เกิดอาการมึนเมา แต่ตามหลักการแล้วส่วนใหญ่หากมีแอลกอฮอลล์ในเลือดมากกว่า 50 – 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะทำให้มีอาการมึนงง หากเกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะทำให้การควบคุมตัวเองแย่ลง และหากทะลุ 200 – 250 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะมีปัญหาเรื่องการรับรู้ของสติสัมปะชัญญะ และเสี่ยงถึงแก่ชีวิต หากระบบทางเดินหายใจตก