หากเรามีหัวใจที่แข็งแรง สุขภาพกายดี สุขภาพของจิตใจที่มีความสัมพันธ์กับร่างกายย่อมดีขึ้นไปด้วย ไม่ต้องเกิดความเครียด ความกังวล ทำให้จิตใจต้องเศร้าหมอง วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราควรหันมาดูแลหัวใจของเราให้แข็งแรงมากขึ้น
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคหัวใจเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ ที่ทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตสูงถึงปีละ 17.1 ล้านคน จึงได้จัดตั้งวันที่ 29 กันยายนของทุกปีเป็นวันหัวใจโลก (World Heart Day) เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพตนเองจากโรคหัวใจ
ใครที่ไม่อยากป่วยเป็นโรคหัวใจก่อนวัย หันมาดูแลตัวเองกันก่อนดีกว่าค่ะ เพื่อหัวใจที่แข็งแรง สุขภาพจิตดี ไม่เจ็บป่วยง่าย ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
7 วิธีดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคหัวใจ
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค มีคำแนะนำดีๆ ห่างไกลจากโรคหัวใจ ไว้ดังนี้
- เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และได้สัดส่วนปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงกินอาหารหวาน มัน เค็ม แต่หันมาเน้นกินผัก ผลไม้ที่หวานน้อย และธัญพืชเพิ่ม
- เพิ่มกิจกรรมการเคลื่อนไหวของร่างกายมากขึ้น โดยออกกำลังกายสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 5 วัน ๆละ อย่างน้อย 30 นาที
- อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใส และสามารถจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม
- งดสูบบุหรี่ รวมถึงเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่จากคนรอบข้างด้วย
- งดการดื่มสุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- พยายามควบคุมน้ำหนักตัว รอบเอว ค่าความดันโลหิต และค่าน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี และสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น การวัดความดันโลหิตอย่างเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ หรือความเสี่ยง ให้รีบพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย วางแผนการรักษา และการดูแลที่ถูกต้องได้อย่างทันท่วงที
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจไม่ต้องเสียใจไปค่ะ เรามีวิธีการดูแลตัวเองของผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจมาแนะนำด้วย ดังต่อไปนี้
6 วิธีดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ
ข้อมูลจาก ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ผู้ป่วยโรคหัวใจเริ่มต้นมักไม่มีอาการแสดง แต่เมื่ออาการหนักขึ้น จะรู้สึกแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับทรวงอกเยื้องไปทางด้านซ้าย บางรายอาจแน่นร้าวไปยังบริเวณอื่น เช่น ร้าวไปถึงหัวไหล่ แขน หรือรู้สึกจุกแน่นที่คอ จุกแน่นที่กรามด้านซ้าย รวมถึงอาการจุกแน่นตรงยอดอกบริเวณลิ้นปี่
ดังนั้น ผู้ป่วยในกลุ่มโรคหัวใจนี้ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องค่ะ
- ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น เหนื่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ เจ็บแน่นหน้าอก ประกอบกับมีภาวะปัจจัยเสี่ยง สิ่งที่ควรทำอย่างแรกให้รีบพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ซักประวัติ หรือตรวจวินัจฉัยเพิ่มเติม
- ผู้ป่วยโรคหัวใจโดยทั่วไปสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ รวมถึงสามารถเล่นกีฬาได้เหมือนคนทั่วไป ยกเว้นในกรณีที่คนไข้มีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบอุดตันเฉียบพลัน หรือในคนไข้ที่มีภาวะหัวใจโต หัวใจล้มเหลว การออกกำลังกายควรอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรเลี่ยงอาหารประเภทที่มีไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานซ์ เช่น เนย มาการีน ครีม และเกรวี่ ฯลฯ
- เลือกใช้น้ำมันประกอบอาหารชนิดที่มีไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันถั่วเหลือง
- เลือกกินอาหารโปรตีนประเภทที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลา หรือเนื้อไม่ติดมัน โปรตีนจากพืช (ถั่วประเภทต่างๆ) งดการกินเครื่องในสัตว์ และไข่แดง
- กินผักและผลไม้ที่มีกากใยมากขึ้น เช่น ผักผลไม้สด ข้าวไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท ข้าวซ้อมมือ ข้าวโอ๊ต ซึ่งอาหารเหล่านี้มีเส้นใยอาหาร และยังมีวิตามินเกลือแร่หลายชนิดอีกด้วย
สุดท้ายที่จะขาดไม่ได้คือ หมั่นตรวจเช็กวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำด้วยตนเองที่บ้าน เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดโรคหัวใจได้ ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องวัดความดันโลหิตที่สามารถวัดได้ด้วยตนเองที่บ้าน ใช้ง่าย สะดวกสบาย แถมมีความแม่นยำสูงอีกด้วย นอกจากนี้เครื่องวัดความดันในปัจจุบัน ทันสมัยมากขึ้น สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อการแสดงผลข้อมูลที่รวดเร็วมากขึ้น และเรียลไทม์ สามารถบันทึกประวัติค่าความดันโลหิตได้อีกด้วย
เลือกเครื่องวัดความดันโลหิตที่โดนใจที่สุด
วันนี้เรามีผลิตภัณฑ์ของออมรอนมาแนะนำค่ะ มีให้เลือกกัน 3 แบบ โดนใจแบบไหน ตัดสินใจเลือกซื้อเก็บไว้ใช้ที่บ้านได้เลย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ สะดวกสบาย และแม่นยำค่ะ
1. เครื่องวัดความดันโลหิตสุดสมาร์ท รุ่น HEM-7600T
- ใช้ระบบเทคโนโลยี Intellisense ที่มีเฉพาะในออมรอน ช่วยให้จอภาพตรวจจับการเปลี่ยนแปลง
ความดันโลหิตได้อย่างรวดเร็ว และปรับแรงบีบของแผ่นรัดอัตโนมัติในขณะวัด สะดวกสบาย รวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำในการอ่านผลทุกครั้ง - ผ้าพันแขนอัจริยะ เทคโนโลยีที่ปราศจากสาย ไร้ท่อ ทำให้สามารถใช้งานได้ 360 องศา ใช้งานง่ายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียวด้วยการออกแบบที่มีความทันสมัย
- และไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็สามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ เพราะมีฟังก์ชั่นเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน
ทำให้เครื่องวัดความดันโลหิต ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของคุณได้ง่ายขึ้น
2. เครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ รุ่น HEM-7130 Standard
- มีไฟแสดงการรัดต้นแขน เพื่อแนะนำให้ผู้ใช้รัดต้นแขนให้ถูกต้องโดยแสดงไฟเตือน “OK” เพื่อให้แน่ใจว่าวัดค่าความดันโลหิตได้แม่นยำและเชื่อถือได้
- การตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย กระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้งานวัดค่าใหม่เมื่อเกิดความผิดพลาดเนื่องจากมีการขยับตัว
- ตัวบ่งชี้ระดับความดันโลหิต แปลผลความดันโลหิตง่าย โดยค่าความดันโลหิตอ่านจากที่บ้านซึ่งความดันบน-ล่างเกิน 135/85 mmHg หมายถึงความดันโลหิตสูง
- การตรวจจับการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจที่แตกต่างกันมากกว่า 25% จากการเต้นของหัวใจโดยเฉลี่ยซึ่งตรวจพบขณะเครื่องทำการวัดความดันโลหิต หากตรวจพบจังหวะการเต้นผิดปกติมากกว่าสองครั้งในการวัด แนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพของคุณ
- เก็บค่าวัด 60 ครั้งในหน่วยความจำ
- เฉลี่ยค่าที่อ่านได้ 3 ค่าล่าสุดภายใน 10 นาที
3. เครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติรุ่น JPN500 (Deluxe)
- ไฟแสดงการรัดต้นแขน เพื่อแนะนำให้ผู้ใช้รัดต้นแขนให้ถูกต้องโดยแสดงไฟเตือน “OK” เพื่อให้แน่ใจว่าวัดค่าความดันโลหิตได้แม่นยำและเชื่อถือได้
- การตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย กระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้งานวัดค่าใหม่เมื่อเกิดความผิดพลาดเนื่องจากมีการขยับตัว
- ตัวบ่งชี้ภาวะความดันโลหิตสูง มีสัญลักษณ์รูปหัวใจเต้นจะติดขึ้นหากค่าความดันบนหรือล่างเกินมาตรฐาน (ค่าความดันบนเกิน 135/ค่าความดันล่างเกิน 85)
- การตรวจจับการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจที่แตกต่างกันมากกว่า 25% จากการเต้นของหัวใจโดยเฉลี่ยซึ่งตรวจพบขณะเครื่องทำการวัดความดันโลหิต หากตรวจพบจังหวะการเต้นผิดปกติมากกว่าสองครั้งในการวัด แนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพของคุณ
ที่นี่ที่เดียวโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับวันหัวใจโลก เมื่อซื้อเครื่องวัดความดันออมรอน รุ่น HEM – 7121, HEM – 7130, HEM – 7130L และ JPN 500 รับปิ่นโต Care your heart จากออมรอน มูลค่า 290 บาท ฟรี!! ตั้งแต่วันนี้ – 30 ก.ย. 62
สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของออมรอนได้ที่ร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ หรือสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัท ออมรอน เฮลธแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด
- Website : https://www.omronhealthcare-ap.com/th/
- Facebook : https://www.facebook.com/OMRONHealthcareThailand/
- Line : @omronhealthcare
- Call Center : 02-021-5555