ตรวจเช็กร่างกาย ควรออกกำลังกายไหม
หลายท่านอยากออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก แต่ไปวิ่งแล้วใจสั่น เหนื่อยแทบขาดใจ พอหยุดวิ่งก็มีอาการหน้ามืด อ่อนเปลี้ยเพลียแรงอยู่หลายวัน นพ.กรกฎ พานิช มีแบบทดสอบการประเมินร่างกายเบื้องต้นก่อนออกกำลังกาย ว่า ควรออกกำลังกายไหม เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บและเป็นอันตรายจากการออกกำลังกายดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 สำรวจตัวเองว่าท่านเคยมีอาการเหล่านี้หรือไม่
- จุกแน่น หนัก หน้าอก ร่วมกับมีอาการร้าวไปที่ต้นคอ กราม แขน ขณะออกแรง เช่น ขึ้นบันได ยกของ เบ่งอุจจาระ หรือขณะออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งขณะที่ไม่ได้ออกแรง
- เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หอบ หายใจลำบาก ขณะที่ไม่ได้ออกแรง หรือแม้ออกแรงเพียงเล็กน้อย
- เวียนศีรษะ หรือวูบหมดสติ
- นอนราบแล้วเหนื่อย ต้องใช้วิธีนั่งหลับ นอกจากนี้ขาและข้อเท้าทั้งสองข้างบวมน้ำ
- รู้สึกหัวใจเต้นแรง เร็ว ผิดปกติ หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
- ปวดร้าวหรือเป็นตะคริวที่น่องเวลาเดิน แม้ระยะทางสั้นๆ
หากท่านมีอาการหนึ่งอาการใดใน 6 ข้อที่กล่าวมาแล้ว ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพหาสาเหตุของอาการก่อนออกกำลังกาย หรือก่อนกลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง หากท่านหยุดออกกำลังกายไปสักระยะหนึ่งแล้ว หากไม่มีอาการใดๆใน 6 ข้อข้างต้น ให้ตอบคำถามขั้นตอนที่ 2 ต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 สำรวจความฟิตของร่างกายท่าน ณ ปัจจุบัน
ท่านได้ออกกำลังกาย เช่น เดินเร็ว วิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมอื่นๆที่ทำให้ท่านรู้สึกเหนื่อยระดับปานกลาง (Moderate Intensity Exercise) ร่วมกับการนับอัตราการเต้นของหัวใจ โดยอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 40 – 60 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด (อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด คำนวณโดยสูตร 220 –อายุ เช่น อายุ 40 ปี จะเท่ากับ 220 – 40 = 180 ครั้ง /นาที)
ดังนั้น 40-60 เปอร์เซ็นต์= 72 – 108 ครั้ง/นาที ด้วยความเหนื่อยดังกล่าว ท่านได้ออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วันในช่วง 3 เดือนนี้หรือไม่
[]ใช่ []ไม่
ขั้นตอนที่ 3 สำรวจระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด ว่าท่านมีหรือ เคยมีภาวะเหล่านี้หรือไม่
- ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
- ผ่าตัดหัวใจ สวนหลอดเลือดหัวใจ หรือขยายหลอดเลือดหัวใจ
- ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ
- ภาวะหัวใจล้มเหลว
- ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
- โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- โรคเบาหวาน
- โรคไต
การประเมินในขั้นตอนที่2 และขั้นตอนที่3
- ตอบ ใช่ ในขั้นตอนที่ 2 และไม่มีภาวะใดๆในขั้นตอนที่ 3 ท่านสามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรมีการวอร์มอัพและคูลดาวน์เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกครั้ง
- ตอบ ใช่ ในขั้นตอนที่ 2 และมีภาวะใดๆในขั้นตอนที่ 3 ท่านสามารถออกกำลังกายได้ในระดับเบาถึงระดับปานกลาง (Light to Moderate Intensity Exercise ประมาณ 30 – 60 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) หากท่านต้องการออกกำลังกายหนักกว่านี้(High Intensity Exercise) ควรพบแพทย์ก่อน
- ตอบ ไม่ ในขั้นตอนที่ 2 และมีภาวะใดๆในขั้นตอนที่ 3 ควรพบแพทย์ก่อน
ที่กล่าวมาคือกระบวนการลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดขณะออกกำลังกาย ในกรณีที่ท่านจำเป็นต้องไปพบแพทย์ หลังจากพบแพทย์แล้ว หากจะออกกำลังกายควรเริ่มต้นในระดับเบา ประมาณ 30 – 40 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด แล้วค่อยปรับความหนักขึ้นตามสภาพร่างกาย