Q & A ถาม – ตอบ ข้อสงสัยโรคมะเร็งเต้านม
หลายคนอาจจะกลัวโรคมะเร็งเต้านม หรือบ้างก็สงสัย เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ละเอียดและถูกต้อง ชีวจิตมีข้อมูลจากมูลนิธิถันยรักษ์ ศูนย์วินิจฉัยมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลศิริราช ตรวจเช็คมะเร็งเต้านม ด้วยแมมโมแกรม มาบอกค่ะ
1 : Q :: การทำ Mammogram มีประโยชน์อย่างไร และช่วยลดอัตราการเสียชีวิตที่เกิดจากมะเร็งเต้านมได้มากน้อยเพียงใด ?
A :: การทำ Screening Mammogram มีประโยชน์มาก และปัจจุบันถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะค้นพบมะเร็งเต้านมในระยะแรก ซึ่งมีผลการวิจัยและสถิติระบุชัดเจนว่า การพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกช่วยทำให้การรักษาได้ผลดี เพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้สูงขึ้น ในสหรัฐอเมริกาผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งได้รับการรักษาและรอดชีวิตได้นั้นเป็นผลมาจากการทำ Screening Mammogram เป็นประจำมากกว่า 30 % หรือประมาณ 15,000- 20,000 คนต่อปี และกว่า 2.6 ล้านคนใช้ชีวิตเป็นปกติได้ ปัจจุบันทั้งในสหรัฐอเมริกาและในยุโรปยังมีการทำ Screening Mammogram อย่างแพร่หลายเพราะประโยชน์ดั่งกล่าว
2 : Q :: ตรวจเช็คมะเร็งเต้านม แมมโมแกรม ( Mammogram) เป็นประจำทุกปีเป็นการตรวจที่เกินความจำเป็นหรือไม่ ?
A :: ในสหรัฐอเมริกามีการทำ Screening Mammogram โดยแนะนำให้ผู้หญิงเริ่มทำตั้งแต่อายุ 40 ปี และทำทุก 1 – 2 ปี ที่ศูนย์ถันยรักษ์ได้แนะนำให้มีการตรรวจเป็นมาตรฐานดังนี้
– อายุ 20 ปีขึ้นไป เริ่มตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน ( ในช่วงอายุนี้ไม่จำเป็นต้องทำแมมโมแกรม )
– อายุ 35 ปี ควรตรวจแมมโมแกรมเป็นพื้นฐาน และควรตรวจทุก ๆ 2 ปี
– อายุ 40 ปี ควรตรวจแมมโมแกรมทุกปี
– อายุ 55 ปีขึ้นไป ควรตรวจแมมโมแกรมทุก ๆ 1 – 2 ปี
** สำหรับผู้ที่มีประวัติในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจจะต้องตรวจแมมโมแกรมเร็วกว่าปกติ และหากพบเจอความเสี่ยงก็ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์ผ้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ดีขณะนี้ศูนย์ถันยรักษ์ได้ทำวิจัย Sojourn time เพื่อหาเวลาที่เหมาะสมในการทำ Screening Mammogram สำหรับผู้หญิงไทย
3 : Q :: การตรวจเช็ค Mammogram ในปัจจุบันมีความแตกต่างจากในอดีตอย่างไร ?
A :: การตรวจเอกซเรย์เต้านม ( Mammogram ) ปัจจุบันทำได้ดีกว่ามากหากเปรียบเทียบกับการทำแมมโมแกรมเมื่อ 30 ปีที่แล้ว สรุปคือ
- เครื่องมือที่ใช้มีการพัฒนาจากเครื่อง Analog เป็น Digital ( เปรียบเทียบเหมือนการถ่ายรูปจากกล้องฟิล์มในอดีต มีการพัฒนามาเป็นกล้อง Digital ทำให้ได้ภาพที่มีความชัดเจนขึ้น ) แพทย์สามารถวินิฉัยได้ง่ายขึ้น
- จำนวนรังสีที่ใช้ลดน้อยลง และ มีมาตรฐานมากขึ้น
- เทคนิคและวิธีการถ่ายทำที่มีการพัฒนา รวมทั้งวิธีการกดไม่เจ็บเหมือนในอดีต

4 : Q :: การบีบและกดเต้านมในการทำ Mammogram เป็นสาเหตุหรือกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่
A :: การทำแมมโมแกรมจำเป็นต้องกดเต้านม เพื่อให้เนื้อเยื่อของเต้านมแผ่กระจายเวลาถ่ายแมมโมแกรมจะได้เห็นสิ่งผิดปกติได้อย่างชัดเจน การกดทำให้รู้สึกเจ็บตอนกดเท่านั้น ทางศูนย์ถันยรักษ์ได้สอบถามผู้มาตรวจ 60,000 ราย ได้คำตอบว่า เจ็บแต่ทนได้ 98 %
5 : Q :: การทำแมมโมแกรมต้องใช้รังสีซึ่งอาจเป็นอนตรายและเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมใช่หรือไม่ ?
A :: การใช้รังสีในการทำแมมโมแกรมนั้น ปริมาณรังสีที่ผู้มาตรวจได้รับมีน้อยมากหากเทียบกับรังสีที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา International Atomic Energy Agency ( IAEA ) ได้กำหนดปริมาณรังสีสำหรับแพทย์และนักรังสีการแพทย์ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการใช้รังสีต้องไม่เกินกว่า 20 mSv ต่อปี ขณะที่ปริมาณรังสีที่ผู้มาตรวจได้รับจากการถ่ายแมมโมแกรมสูงสุดเพียง 1.44 mSv ต่อครั้ง
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว Dr.Kalpana Kanal อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีและฟิสิกส์ ของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกาได้ทำการวิจัยเรื่องนี้ สรุปว่า “ การทำแมมโมแกรม 1,000,000 คน อาจจะพบว่ามีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมเพียง 6 คน และยังย้ำว่าอันตรายจากรังสีนั้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับความสำคัญและประโยชน์ของการทำแมมโมแกรม ”
6 : Q :: ผู้หญิงเราควรทำอย่างไรที่จะเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันตนเองจากมะเร็งเต้านม ?
A :: เนื่องจากยังไม่มีผลการวิจัยใดสรุปชี้ชัดว่าอะไรคือสาเหตุของมะเร็งเต้านม ดังนั้น ศูนย์ถันยรักษ์ จึงให้คำแนะนำว่า ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงและให้ปฏิบัติตามแผนดูแลสุขภาพเต้านม 3 ประการ คือ
- ตรวจเต้านมด้วยตนเอง ( BSE ) เมื่ออายุครบ 20 ปี ขึ้นไปเป็นประจำทุกเดือนด้วยวิธีที่ American Cancer Society แนะนำ คือ Triple Touch วัตถุประสงค์ เพื่อให้รู้จักธรรมชาติและความปกติของเต้านมตนเอง หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นจะได้รีบพบแพทย์ ( ไม่ใช่คลำหาก้อน )
- ให้แพทย์ตรวจคลำ ( Clonical Examination ) เมื่อไปตรวจร่างกายประจำปี
- ตรวจเอกซเรย์เต้านม ( Screening Mammogram ) เมื่ออายุ 35 ปีเป็นพื้นฐาน ( Base line ของถันยรักษ์ที่แนะนำให้ทำ Screening Mammogram เพราะจากสถิติ 2538 – 2555 พบผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมอายุน้อย )
อ่านประสบการณ์สุขภาพ : สาวใจสู้ รักษามะเร็งเต้านมให้หายขาด ได้ที่ https://cheewajit.com/healthy-body/101440.html
บทความที่เกี่ยวข้อง