ใช้คอลลาเจน บำรุงผิว ดูแลข้อ
หลายคนคงรู้จักกับการ ใช้คอลลาเจน เป็นอย่างดี แต่ส่วนใหญ่มักให้น้ำหนักไปทางดูแลผิวพรรณให้ผิวเนียนเด้ง ดูขาวใส แต่ความจริงแล้วคอลลาเจนมีประโยชน์มากกว่านั้น วันนี้เรานำข้อมูลจากบทความสุขภาพ เว็บไซต์ RAMA CHANNEL โดย ภญ. ภิชาญดา จงนวรชัย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาให้อ่านกันค่ะ
คอลลาเจน คืออะไร
คอลลาเจน คือเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน และเส้นผม ช่วยทำให้ผิวหนังคงความเต่งตึง ยืดหยุ่นเรียบเนียน กระชับ อีกทั้งยังเป็นองค์ประกอบของกระดูกกระดูกอ่อน จึงมีการนำคอลลาเจนไปใช้ในคนไข้โรคข้อเข่าเสื่อม คนที่มีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกเปราะ
คอลลาเจน เป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้และได้รับจากอาหารหลายประเภทแต่ในคนที่มีอายุมากขึ้นโดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ขึ้นไปพบว่าการสังเคราะห์คอลลาเจนจะลดลงหรือในผู้ที่มีปัจจัยบางอย่างทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายได้ง่าย เช่นผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่มีความเครียด ผู้ที่สูบบุหรี่ เป็นต้นจึงได้รับคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ไม่เรียบเนียนและเกิดริ้วรอยได้
ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนไม่เพียงพอ
- ผู้สูงอายุ (มีความสามารถในการสร้างคอลลาเจนได้น้อยกว่าวัยอื่น)
- รังสี UV จากแสงแดด
- ความเครียด
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
- สูบบุหรี่
- รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
ผลกระทบจากการขาดคอลลาเจน
- ทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง
- ผิวหนังเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย
- กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพ
- โรคข้อเสื่อม
การนำมาใช้ของคอลลาเจน
- ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง(ครีมบำรุงผิว, สบู่)
- คลินิกเสริมความงาม
- ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม(รูปแบบเม็ด, ผง, เครื่องดื่มพร้อมทาน)
- ด้านการแพทย์ (ลักษณะของผิวหนังเทียมรักษาแผลไฟไหม้, ใช้รักษาโรคข้อเสื่อม)
คอลลาเจน หาได้จากที่ไหนบ้าง?
- ร่างกายสามารถสร้างได้เอง
- ได้รับจากอาหารทั่วไป จำพวกเนื้อสัตว์ ผักผลไม้บางชนิดปลาทะเลน้ำลึกเช่นปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู สาหร่ายทะเล เห็ดบางชนิด ผักใบเขียวเช่น ผักโขม ผักปวยเล้ง คะน้า บล็อคโคลี่ เป็นต้น
- ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน ที่พบตามท้องตลาดมักมาจากหนังปลา เกล็ดปลา หนังวัว หนังหมู กระดูกวัวเป็นต้น
คำแนะนำเกี่ยวกับการกินคอลลาเจน
- ตามคำแนะนำขององค์การอาหารและยาแนะนำว่าผู้ที่ต้องการกินคอลลาเจนเสริม สามารถกินเป็นอาหารเสริมได้ 5,000-7,000 มิลลิกรัม/วัน แต่ไม่ควรเกิน 10,000 มิลลิกรัม/วัน เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้
- ควรเลือกกินที่เป็นคอลลาเจนสายสั้น (Hydrolyzed collagen)เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนสายยาว โดยสังเกตที่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ตอนซื้อ
- ควรกินตอนท้องว่างแล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ หรือกินควบคู่กับวิตามินซี เพื่อการดูดซึมที่ดี
พฤติกรรมที่ช่วยรักษาคอลลาเจนในร่างกาย
- หลีกเลี่ยงแสงแดด
- อย่าเครียดหรือเครียดให้น้อยลง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ หรือกินให้ครบ 5 หมู่
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
ข้อมูลจาก รายการ Rama Square ช่วง Better To Know วันที่ 22 มีนาคม 2561
ภญ. ภิชาญดา จงนวรชัย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
“ข้อเข่าเสื่อม” ในผู้สูงวัย ทำอย่างไรให้เกิดภาวะนี้ช้าลง