“เสพติดการนอน” อาการนี้บอกเลย น่าเป็นห่วง! เช็กด่วน ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
นอนเยอะ นอนแล้วไม่อยากลุก อยากนอนต่อยาวๆ อาการแบบนี้ เรียกว่า “เสพติดการนอน” หรือที่บางคนเรียกว่า โรคเตียงดูด เป็นภาวะที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและง่วงนอนมาก จนไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้
แม้จะไม่ได้จัดเป็นโรคโดยตรง แต่อาการที่เกิดขึ้นมักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
สัญญาณของภาวะเสพติดการนอน
ผู้มีอาการเสพติดการนอนมักรู้สึกอยากนอนผิดปกติจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และงัวเงีย เมื่อตื่นนอนก็รู้สึกอยากหลับต่อ บางคนอาจมีอาการง่วงนอนมากผิดปกติในตอนกลางวันด้วย ซึ่งคนที่มีภาวะเสพติดการนอนแต่ละคนอาจมีอาการต่างกันขึ้นอยู่กับสาเหตุ
อาการของภาวะเสพติดการนอนอาจใกล้เคียงกับภาวะ Clinomania ที่ทำให้รู้สึกไม่อยากลุกจากเตียง และภาวะ Clin
ophilia ที่ทำให้ใช้เวลาอยู่บนเตียงนานผิดปกติทั้งในเวลากลางคืนและระหว่างวัน แต่คนที่มีภาวะเสพติดการนอนอาจไม่ได้ใช้เวลานอนหลับนานกว่าคนอื่นเสมอไป
ทั้งนี้ ระยะเวลาการนอนปกติของคนทั่วไปจะแตกต่างกันตามช่วงอายุ เช่น เด็กวัยเรียนอายุ 6–13 ปี ใช้นเวลานอนวันละ 9–11 ชั่วโมง วัยรุ่นอายุ 14–17 ปี ใช้เวลานอนวันละ 8–10 ชั่วโมง และผู้ใหญ่อายุ 18–64 ปี ใช้เวลานอนวันละ 7–9 ชั่วโมง หากนอนหลับอย่างเพียงพอตามระยะเวลาแต่ยังรู้สึกอ่อนเพลียมาก และไม่สามารถตื่นมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
สาเหตุและผลเสียของการเสพติดการนอน
การเสพติดการนอนเกิดจากโรคหรือความผิดปกติของสุขภาพ เช่น
- โรคซึมเศร้า ผู้ป่วยมักมีอาการนอนมากผิดปกติและอ่อนเพลีย ร่วมกับอาการอื่น เช่น เศร้าและร้องไห้บ่อย หมดความสนใจต่อสิ่งรอบตัว ความอยากอาหารและน้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง ปวดศีรษะและปวดตามร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ
- กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome หรือ Myalgic Encephalomyelitis) ที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่อยากลุกจากเตียง และแม้จะพักผ่อนแล้วก็ยังรู้สึกไม่ดีขึ้น
- ภาวะนอนมากเกินไป (Hypersomnia) ทำให้มีอาการง่วงนอนมากในช่วงกลางวันจนสามารถหลับได้ตลอดเวลา
- ความผิดปกติของการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) และกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข (Restless Legs Syndrome) ที่ทำให้นอนหลับยากหรือหลับไม่สนิท เมื่อตื่นมาจะรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย และไม่อยากลุกจากเตียง
- โรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โลหิตจาง มะเร็ง ไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) และกลุ่มโรคไทรอยด์อย่าง ไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) และโรคต่อมไทรอยด์อักเสบจากภูมิคุ้มกัน (Hashimoto’s Thyroiditis) ที่ทำให้ผู้ป่วยอ่อนเพลียง่ายกว่าคนทั่วไป
- ความเศร้าโศก เสียใจที่เกิดจากการสูญเสีย ซึ่งอาจทำให้นอนหลับยากและนอนไม่พอ
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น ยาต้านเศร้าที่ทำให้อ่อนเพลียและง่วงนอน
คนที่เสพติดการนอนอาจนอนหลับยากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการนั่ง ๆ นอน ๆ ยังจัดเป็นพฤติกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary Lifestyle) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่แทบไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย จึงอาจทำให้การทำงานของระบบเผาผลาญ ระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูกลดลง จนอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น เช่น ภาวะน้ำหนักเกิน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง
ข้อมูลจาก : มติชน
บทความอื่นที่น่าสนใจ
ผมหงอกก่อนวัย หรือจะเป็นสัญญาณบอกโรค
บ้างานมากๆ อาจเสี่ยงป่วย โรคซึมเศร้า
เรื่องที่เราควรรู้ เกี่ยวกับ วิตามินซี