กาแฟ กระตุ้นสมองตื่นตัว สมองแจ่มใส
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา (University of Arizona) ประเทศสหรัฐอเมริกา สังเกตว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายคนนิยมดื่มกาแฟในตอนเช้าเพื่อให้สมองและร่างกายสดชื่นตื่นตัว จึงเกิดความสงสัยว่า กาเฟอีนในกาแฟช่วยเพิ่มความจำด้วยหรือไม่ จึงนัดแนะให้นักศึกษากลุ่มหนึ่งมาดื่มกาแฟเวลา 6 – 7 โมงเช้าที่ห้องวิจัย โดยสุ่มให้ดื่มกาแฟที่มีกาเฟอีน (180 กรัม) และไม่มีกาเฟอีน หลังจากนั้น 30 นาทีจึงให้นักศึกษาทำแบบทดสอบความจำ
ผลการทดลองดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Psychology พบว่า กลุ่มที่ดื่มกาแฟที่มีกาเฟอีนได้คะแนนการทดสอบความจำดีกว่ากลุ่มที่ดื่มกาแฟที่ไม่มีกาเฟอีน โดยเชื่อว่า กาเฟอีนมีผลกระตุ้นให้สมองตื่นตัว เมื่อรู้สึกสดชื่นไม่ง่วงเหงาหาวนอน สมาธิจึงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความจำดีขึ้นตาม
นอกจากนี้ข้อมูลจาก Journal of Food Science ยังร่วมยืนยันว่า หากดื่มกาแฟปริมาณที่เหมาะสม กาเฟอีนในกาแฟสามารถช่วยขจัดความอ่อนเพลีย ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า สมองตื่นตัว และช่วยเพิ่มสมาธิได้

HOW TO EAT
องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) กำหนด ปริมาณกาเฟอีนที่ไม่ก่ออันตรายต่อสุขภาพคือ ไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม หรือเทียบได้กับการดื่มกาแฟสดไม่เกินวันละ 2 ถ้วย (ปริมาณกาเฟอีนถ้วยละ 80 – 140 มิลลิกรัม) หรือดื่มกาแฟผงสำเร็จรูปไม่เกินวันละ 3 ถ้วย (ปริมาณกาเฟอีนถ้วย 66 – 100 มิลลิกรัม) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณกาเฟอีนในกาแฟ
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใส่ครีมเทียมที่มีไขมันทรานส์สูง (Trans Fat) และเติมน้ำตาลแต่น้อย เพราะยิ่งเติมมาก ยิ่งเพิ่มพลังงานส่วนเกินให้แก่ร่างกาย
ไม่ควรดื่มกาแฟขณะท้องว่าง เพราะกาเฟอีนเป็นตัวเร่งให้เกิดการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหาร หากเกิดภาวะดังกล่าวเป็นประจำ อาจส่งผลให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
สำหรับผู้ที่มีอาการนอนหลับยาก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงบ่ายหรือหัวค่ำ
และที่สำคัญ ไม่ควรหักโหมทำงาน โดยใช้กาแฟเป็นตัวกระตุ้นเพราะในระยะยาว ร่างกายอาจต้องการปริมาณกาเฟอีนจากกาแฟเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลียอย่างหนัก ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ดังนั้นควรหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอแทนการพึ่งกาแฟเพื่อปลุกให้สมองและร่างกายตื่นตัว