BAD PAIRING
แครกเกอร์ VS คอร์นเฟลกส์
ใครนิยมกินแครกเกอร์ (Cracker) และคอร์นเฟลกส์ (Cornflakes) หรือขนมปังและข้าวโพดแผ่นอบกรอบ เป็นขนมขบเคี้ยวโปรดฟังให้ดี มื้อว่างที่จับคู่กันครั้งนี้มีผลเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว
แครกเกอร์และคอร์นเฟลกส์จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (Glycemic Index) ซึ่งมีค่าดัชนีน้ำตาลมากกว่า 70 โดยข้อมูลจาก International Tables of Glycemic Index and Glycemic Load Values: 2008 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Diabetes Care แสดงให้เห็นว่าแครกเกอร์มีค่าดัชนีน้ำตาลเท่ากับ 87 ในขณะที่คอร์นเฟลกส์มีค่าดัชนีน้ำตาลเท่ากับ 81 ซึ่งนับว่าสูงเมื่อเทียบกับสารละลายน้ำตาลกลูโคสมาตรฐานซึ่งมีค่าดัชนีน้ำตาลเท่ากับ 100
อาหารที่จัดอยู่ในกลุ่มที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งใครกินเป็นขนมขบเคี้ยว มีโอกาสกินเพลินจนได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย ยิ่งกินเป็นประจำอาจมีผลเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคหัวใจ แนะนำให้หันมากินขนมขบเคี้ยวที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำเป็นมื้อว่างแทน เช่น ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ ผลไม้สด เช่น แอ๊ปเปิ้ล ส้ม
กาแฟ VS งาดำ
หลายคนอยากเติมแคลเซียมให้ร่างกาย จึงตั้งใจโรยงาดำบนข้าวสวยทุกวัน แต่ด้วยความเคยชินกลับดื่มกาแฟตบท้ายมื้ออาหาร นับเป็นการจับคู่อาหารที่ผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัย
แม้อาหาร 2 ชนิดนี้เมื่อกินคู่กันแล้วไม่ได้ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย แต่หากกินอาหารที่มีแคลเซียมสูงพร้อมกับดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะกาแฟร้อนหรือกาแฟเย็นล้วนมีผลทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ลดลง
เพราะกาเฟอีนในกาแฟ มีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม และกระตุ้นให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากขึ้น ฉะนั้นหากต้องการกินอาหารเพื่อเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย เช่น งาดำ กุ้งแห้ง กุ้งฝอย ปลาเล็กปลาน้อย โยเกิร์ต ก็ไม่ควรดื่มกาแฟในมื้ออาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มีกาเฟอีนสูง เช่น ชา โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ปริมาณมาก เพราะโปรตีนจากเนื้อสัตว์จะกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น และควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม เพราะโซเดียมจะไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในอาหาร ทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมลดลง