น้ำ VS เหง้าขิง
เห็นน้ำใสๆ ไร้สีไร้กลิ่นอาจคิดว่าน้ำสะอาดก็แค่น้ำเปล่าธรรมดา แต่วารสาร American Journal of Preventive Medicine พบว่าเพียงผู้ป่วยไข้หวัดใช้น้ำเปล่ากลั้วคออย่างต่อเนื่องวันละ 3 ครั้ง จะช่วยให้หายหวัดเร็วขึ้น ทั้งช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ถึงร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้น้ำสะอาดกลั้วคอ
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่สนับสนุนให้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ โดยพบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำน้อยกว่าวันละ 3 แก้วมีโอกาสเป็นไข้หวัดมากกว่าผู้ที่ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ถึง 3 เท่า
เพราะน้ำช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อบุผิวภายในจมูก ช่วยให้เยื่อเมือกบริเวณเยื่อบุผิว ทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองและแบคทีเรียได้ อย่างมีประสิทธิภาพจึงช่วยลดความเสี่ยงโรคหวัดรวมถึงโรคต่าง ๆ ในระบบทางเดินหายใจ
และจะยิ่งให้ผลดีเป็นทวีคูณเมื่อต้มรวมกับเหง้าขิงฝาน กลายเป็นน้ำขิงรสเผ็ดร้อน
โดยสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลให้ข้อมูลว่า เหง้าขิงมีสรรพคุณขับเหงื่อ ขับเสมหะ แก้คลื่นไส้อาเจียน หากกินในรูปแบบของเครื่องดื่มร้อน จะมีฤทธิ์แก้ไอและรักษาอาการหวัดได้ โดยมีรายงานว่า หลังจากให้ผู้ป่วยที่มีอาการไอกินยาแก้ไอที่มีขิงเป็นส่วนประกอบร่วมกับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะนาน 7 วัน พบว่า ผู้ป่วยมีอาการไอลดลงเร็วกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กินยาแก้ไอสมุนไพร
HOW TO EAT
แนะนำให้บดขิงสด 1 ช้อนชา ใส่ในน้ำเดือดทิ้งไว้สักครู่ กรองขิงออกก่อนดื่ม หรือเลือกผสมขิงผงช้อนชาลงในน้ำร้อน 1 แก้วดื่มขณะอุ่น
ปลา VS น้ำส้มคั้น
ธาตุเหล็กพบมากในปลา ผักใบเขียว เต้าหู้ ถั่ว โดยธาตุเหล็กในเนื้อสัตว์ เช่น ปลา จะอยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าธาตุเหล็กจากพืช
ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ช่วยลำเลียงออกซิเจนจากปอด หากร่างกายขาดธาตุเหล็กเซลล์ต่างๆ จะขาดออกซิเจน ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ขาดสมาธิในการทำงาน
ผู้หญิงมีโอกาสสูญเสียธาตุเหล็กสูงกว่าผู้ชาย เพราะต้องสูญเสียเลือดปริมาณมากระหว่างมีประจำเดือน และมีแนวโน้มสูญเสียธาตุเหล็กมากขึ้นหากไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เช่น อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
HOW TO EAT
เพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก แนะนำให้กินผลไม้หรือดื่มน้ำคั้นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงตบท้ายมื้ออาหาร เช่นส้ม ฝรั่ง มะละกอ ส้มโอ สตรอว์เบอร์รี่ กีวี