สำหรับการนวดเท้าเพื่อสุขภาพของไทยในปัจจุบัน คุณวัชรีพรบอกว่ามีรากฐานมาจากการนวดเท้าของประเทศจีน โดย อาจารย์ยุพิน โตเอี่ยม ได้ไปอบรมการนวดเท้าที่ประเทศสิงคโปร์
“หลังจากนั้นคุณยุพินก็กลับมาทำงานร่วมกับสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ (สมัยนั้น) และมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา ซึ่งได้ร่วมกันจัดอบรมฝึกอาชีพให้แก่ประชาชนที่ตกงาน และมีการนำการนวดเท้าเข้ามาสอนด้วย โดยพัฒนาจากความรู้ที่อาจารย์ยุพินได้ศึกษาผสานเข้ากับการนวดแผนไทยรวมทั้งได้รับคำแนะนำจาก อาจารย์ฉีซุ่ยหง และคณะ จากมูลนิธิวิถีธรรม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการนวดเท้ารักษาโรคจากประเทศไต้หวันมาช่วยสอน
“นอกจากนั้นได้มอบหมายให้ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นวิจัยการนวดเท้านี้ ซึ่งพบว่าสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อสะโพก ทำให้หายเมื่อยและเป็นที่พอใจของผู้ถูกนวด”
รูปแบบการนวดเท้าในประเทศไทยมี 2 แบบ
- การนวดเท้าแบบไทย ที่เรียกว่า “การนวดเท้าเพื่อสุขภาพ” ซึ่งมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนาเป็นผู้พัฒนารูปแบบและใช้อบรมอย่างกว้างขวางในเวลานี้ มีจุดที่เกี่ยวข้องกับปลายประสาทที่สัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายจำนวน 61 จุด
- การนวดเท้าแบบจีน ที่เรียกว่า “การนวดกดจุดสะท้อนเท้า” มีหลักการนวดจุดจำนวน 62 จุดที่เท้า
ประโยชน์ของการนวดเท้า
แม้จะรู้ว่าการนวดเท้านั้นดีต่อร่างกาย แต่ถ้าถามต่อว่า แล้วดีอย่างไร ต่อระบบไหนบ้าง คงต้องถาม คุณสมชาย ช้างแก้วมณี แพทย์แผนไทยประยุกต์ กลุ่มงานวิจัยทางคลินิก สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
คุณสมชายบอกว่า การนวดเท้าเพื่อสุขภาพเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ ช่วยลดความเครียด คลายความปวดเมื่อย และกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ส่วนประโยชน์ของการนวดฝ่าเท้า คือ
- ช่วยส่งเสริมสุขภาพ โดยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง ทำให้อวัยวะต่างๆ ทำหน้าที่ได้อย่างสมดุล
- ช่วยป้องกันอาการและโรคต่างๆ เช่น ท้องผูก โรคหืด โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ โรคไต ปวดศีรษะไมเกรน ไซนัส โรคเครียด ฯลฯ
- ส่งผลดีในด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะผู้สูงอายุ