สารพัดวิธีแก้ท้องผูกอย่างได้ผล
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อปรับระบบขับถ่ายให้เข้าที่แล้วมากำจัดของเสียในลำไส้ด้วยสารพัดวิธีที่สรรหามาฝากกันค่ะ
กินผักผลไม้ขับถ่ายปกติ ใยอาหารสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างและเพิ่มน้ำหนักอุจจาระ ดังนั้นในหนึ่งวันจึงควรกินใยอาหารให้เพียงพอ
อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต แนะนำ อาหารชีวจิตสูตร 1 ประกอบด้วย อาหารประเภทข้าวและแป้งไม่ขัดขาว 50 เปอร์เซ็นต์ ผักดิบและผักสุก 25 เปอร์เซ็นต์ ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง และเต้าหู้ 15 เปอร์เซ็นต์ สุดท้ายคืออาหารเบ็ดเตล็ด 10 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ น้ำซุป สาหร่าย งา และผลไม้รสไม่หวาน
อาหารเหล่านี้ล้วนมีใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
สูตรแมงลักแก้ท้องผูก เมล็ดแมงลักเป็นสมุนไพรไทยมีสรรพคุณแก้ท้องผูก เพราะมีคุณสมบัติทำให้อุจจาระอ่อนตัว ช่วยระบายท้อง และเพิ่มปริมาณอุจจาระ
รองศาสตราจารย์ ดร.สุธาทิพ ภมรประวัติ จากกลุ่มวิชาเภสัชโภชนศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวถึงวิธีบำบัดอาการท้องผูกในบทความเรื่อง แมงลัก ว่า เมล็ดแมงลักมีคุณสมบัติเป็นยาระบาย โดยมีวิธีง่ายๆ คือ ใส่เมล็ดแมงลัก 1 ช้อนชาลงในน้ำสะอาด 1 แก้ว แช่น้ำจนเมล็ดแมงลักพองตัว เติมน้ำตาลเล็กน้อย ดื่มก่อนมื้ออาหารครึ่งชั่วโมงและดื่มน้ำตาม
อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังคือ ถ้าใช้เมล็ดแมงลักที่ยังพองตัวไม่เต็มที่อาจทำให้มีอาการขาดน้ำและลำไส้อุดตันได้
วารีบำบัด น้ำช่วยให้อุจจาระนิ่มและขับถ่ายง่าย อาจารย์สาทิสแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 4 – 6 แก้ว หรือเลือกรักษาอาการท้องผูกด้วยวิธีวารีบำบัดจากหนังสือ คู่มือท้องผูก รักษาด้วยธรรมชาติบำบัด โดยดื่มน้ำผสมเกลือและมะนาวอย่างละเล็กน้อย แล้วตามด้วยประคบน้ำแข็งบริเวณสะดือ ดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำหลังตื่นนอนตอนเช้า โดยเตรียมน้ำดื่มอุณหภูมิปกติ 2 ขวด ขวดละ 800 ซีซี จากนั้นบีบมะนาวลงไปขวดละ 2 ลูก เหยาะเกลือลงไปขวดละ 1 ช้อนชา เขย่าให้เข้ากัน แล้วดื่มทันทีให้หมด
ทั้งสองขวด
- ประคบน้ำแข็ง ห่อน้ำแข็ง 2 – 3 ก้อนด้วยผ้าขาวบาง นำมาประคบบริเวณสะดือตอนเช้าหลังตื่นนอน ความเย็นช่วยให้ลำไส้บีบตัว สักครู่จะรู้สึกอยากขับถ่าย
ฝึกสมาธิพิชิตท้องผูก การฝึกสมาธิช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย ส่งผลให้ระบบประสาทและอวัยวะในร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพ
รองศาสตราจารย์ ดร.สมพร กันทรดุษฎี – เตรียมชัยศรี อาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำการฝึกสมาธิเพื่อแก้ปัญหาท้องผูก โดยใช้
ท่าที่ชื่อ เทคนิคสมาธิเคลื่อนไหวไทยชี่กง โดยมีวิธีฝึกดังนี้
- ยืนตัวตรง แยกเท้าทั้งสองข้างพอประมาณ แขนทั้งสองข้างแนบลำตัว จากนั้นหลับตาลงช้าๆ สูดลมหายใจเข้าทางจมูก นับ 1 – 5 กลั้นหายใจ นับ 1 – 3 แล้วเป่าลมหายใจออกทางปากช้าๆ นับ 1 – 5 นับเป็นหนึ่งรอบ ทำ 5 รอบ
- ยกแขนขึ้นโดยให้ข้อศอกทั้งสองข้างอยู่ระดับเอว หันฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหากัน แล้วขยับเข้าหากันช้าๆ นับ 1 – 3 และขยับมือออกช้าๆ นับ 1 – 3 ทำทั้งหมด 36 – 40 รอบ แล้วกลับสู่ท่ายืนเริ่มต้น
- หายใจเข้าลึกๆ นับ 1 – 5 ค่อยๆ ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ จินตนาการว่ากำลังประคองหรืออุ้มแจกันใบใหญ่ไว้บนศีรษะ แล้วค่อยๆ ลดมือลงวางข้างลำตัว นับเป็นหนึ่งรอบ ทำทั้งหมด 36 – 40 รอบ แล้วกลับสู่ท่ายืนเริ่มต้น
ฝึกโยคะขับถ่ายคล่อง สำนักการแพทย์ทางเลือกกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้ฝึกท่า พวันมุกตาสนะแก้ท้องผูกเป็นประจำ เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ บำบัดอาการท้องผูก ช่วยขับลม ทั้งยังช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น แก้ปวดหลังและปวดเอวได้ด้วย
วิธีฝึกท่าพวันมุกตาสนะแก้ท้องผูก
- นอนหงายราบกับพื้น กางแขนทั้งสองออกระดับไหล่ คว่ำฝ่ามือ บิดสะโพกไปทางซ้าย ให้เข่าซ้ายเหยียดตรงแนบกับพื้น
- ยกขาขวา งอเข่า วางหลังเท้าขวาบนข้อพับขาซ้าย
- ค้างท่านี้ไว้ 1 นาที หายใจเข้าและออกตามปกติ
- พลิกตัวกลับสู่ท่านอนหงาย แล้วบิดสะโพกไปทางขวา ให้เข่าขวาเหยียดตรงแนบกับพื้น
- ยกขาซ้าย งอเข่า วางหลังเท้าซ้ายบนข้อพับขาขวา
- ค้างท่านี้ไว้ 1 นาที หายใจเข้าและออกตามปกติ
- พลิกตัวกลับสู่ท่าเดิม แล้วทำสลับข้างละ 3 ครั้ง
กดจุดหยุดท้องผูก อาจารย์พิศิษฐ เบญจมงคลวารี ที่ปรึกษาโครงการฟื้นฟูการนวดไทย มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา อดีตประธานกรรมการพัฒนาตำราสาขาเวชกรรมแผนโบราณ กองการประกอบโรคศิลปะ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข แนะนำวิธีกดจุดด้วยตนเองเพื่อกระตุ้นการขับถ่ายดังนี้
- นอนหงาย ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น จากนั้นวางมือทั้งสองซ้อนกันแล้วกดลงบนสะดือ
- เขย่ามือทั้งสองขึ้นลงประมาณ 5 นาที จากนั้นวางมือไว้บนสะดือตามเดิม
- ใช้ฝ่ามือทั้งสองลูบท้องตั้งแต่ใต้สะดือ วนจากขวาไปทางซ้าย 10 – 20 รอบ ปฏิบัติทุกวันช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
เลือกสักหนึ่งวิธีที่ถูกใจควบคู่กับการปฏิบัติตัวตามหลักชีวจิต เชื่อว่าระบบขับถ่ายจะกลับมาทำหน้าที่กำจัดของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและปราศจากโรคร้ายในอนาคตค่ะ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 319