วิธีทำน้ำเอนไซม์
คุณสามารถเลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- แบบดั้งเดิม โดยนำผักผลไม้ที่ต้องการทำน้ำเอนไซม์ไปสับ แล้วนำลงไปตำในครก จากนั้นเทใส่ผ้าขาวบาง กรองเอาแต่น้ำมาดื่ม
- แบบใช้ตัวช่วย ซึ่งคือ การใช้เครื่องคั้นน้ำแยกกาก หรือ juicer ที่มีขายตามท้องตลาด วิธีทำน้ำเอนไซม์ก็ทำได้โดย หั่นผักหรือผลไม้เป็นท่อนใหญ่แล้วใส่ลงเครื่องคั้นแยกยาก ดื่มแต่น้ำ
วิธีดื่ม
- ดื่มทันที หรือภายในครึ่งชั่วโมงหลังจากคั้นแยกกาก
- ดื่มทีละชนิด ตามที่ย้ำกันไปแล้ว การนำผักผลไม้มาคั้นแยกการวมกัน อาจทำให้ร่างกายไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร
- ดื่มให้หลากหลายในหนึ่งสัปดาห์ ผู้ที่กำลังทดลองสูตร 14 วันชีวจิต หรือผู้ที่กำลังบำบัดเยียวยาโรคร้ายของตนเอง และต้องการดื่มน้ำเอนไซม์ทุกวัน จำเป็นต้องดื่มให้หลากหลาย เช่น วันนี้ดื่มน้ำเอนไซม์แครอท พรุ่งนี้ดื่มน้ำเอนไซม์แอปเปิ้ล วันต่อไปดื่มน้ำเอนไซม์จากเซเลอรี่
- ห้ามเติมเกลือหรือน้ำตาล ทั้งนี้เครื่องปรุงดังกล่าวอาจทำลายเอนไซม์จากผักผลไม้ชนิดนั้นๆ
- ไม่ควรดื่มน้ำผักผลไม้บรรจุกล่อง/ขวด หรือน้ำปั่นผักผลไม้ แทนน้ำเอนไซม์ เพราะน้ำผลไม้บรรจุกล่อง/ขวดที่ผ่านการกระบวนการผลิตและต้องเก็บยาวนานนั้นไม่เหลือเอนไซม์ที่ร่างกายต้องการแล้ว (อาจได้ประโยชน์อื่นๆ) ส่วนน้ำปั่นผักผลไม้นั้นก็ไม่ได้ให้เอนไซม์ เนื่องจากการปั่นด้วยคมมีดไฟฟ้าทำลายเอนไซม์ในผักผลไม้ชนิดนั้นไปเรียบร้อยแล้ว (แต่อาจให้ประโยชน์อื่นๆ) ***สามารถติดตามรายละเอียด และประโยชน์ที่แตกต่างระหว่างน้ำเอนไซม์และน้ำปั่นผักผลไม้ได้ในนิตยสารชีวจิต ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม 2560…เร็วๆ นี้
ประโยชน์ของเอนไซม์จากผักผลไม้ชนิดต่างๆ
- แครอท ช่วยล้างไขมันและการทำงานของตับ
- เซเลอรี่ ช่วยให้เลือดสะอาดขึ้น และล้างคอเรสเอตรอลในหลอดเลือด
- รากบัวหลวง ช่วยการทำงานของปอด ช่วยการเผาผลาญอาหาร
- ตำลึง ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร
- มะระ ช่วยการทำงานของไต
- แตงโตหรือแคนตาลูป ช่วยการทำงานของไต
อิ่มอกอิ่มใจในคำตอบแบบนี้ ฉะนั้นแฟนเพจชีวจิตอยากรู้อะไร ตั้งถามเข้ามาในอินบ็อกซ์ บ.ก.ขอหาคำตอบให้ค่ะ
Pages: 1 2