ฝรั่ง
แม้ไม่มีรสเปรี้ยว แต่ ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีสูง โดยมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 6 เท่า สูงกว่าสับปะรดถึง 18 เท่า เมื่อเปรียบเทียบจากปริมาณน้ำหนัก 100 กรัมของส่วนที่กินได้เท่ากัน
เพราะมีวิตามินซีสูงถึง 3 เท่าของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคใน 1 วัน การกินฝรั่งผลกลางเพียง 1 ใน 3 ผล จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเกินพอ นอกจากนี้ยังมีใยอาหารสูงมาก คิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคใน 1 วัน
ส่วนวารสาร Sunway Academic ยังแสดงผลการวิเคราะห์ปริมาณสารอาหารในฝรั่ง พบว่า มีสารแอนติออกซิแดนต์สูงเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น โดยพบทั้งวิตามินซีและสารพอลิฟีนอล (Polyphenol) ปริมาณสูง ฝรั่งผลกลางมีวิตามินซี 176 มิลลิกรัม และมีสารพอลิฟีนอลถึง 133 มิลลิกรัม ข้อมูลจากวารสารยืนยันว่า หากยิ่งกินฝรั่งทั้งเปลือก จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณสารแอนติออกซิแดนต์ทั้งสองชนิดสูงกว่าฝรั่งที่ปอกเปลือกออกจนหมด
พอลิฟีนอลคือสารแอนติออกซิแดนต์ชนิดหนึ่ง สามารถต้านฟรีแรดิคัลซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมของร่างกายและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ ทั้งมีรายงานจาก Journal of the American Academy of Dermatology ระบุว่า สารพอลิฟีนอลสามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีซึ่งมีผลทำร้ายผิวและทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
ลิ้นจี่
ลิ้นจี่ 4 ผลใหญ่ มีวิตามินซีเพียงพอต่อความต้องการใน 1 วัน หนังสือโภชนาการกับผลไม้ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า ลิ้นจี่จักรพรรดิ 4 ผลใหญ่มีวิตามินซี 69.3 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอต่อปริมาณที่แนะนำให้กินต่อวัน (60 มิลลิกรัม) แต่หากเป็นลิ้นจี่ฮงฮวยจะมีปริมาณวิตามินซีน้อยกว่า คือ 20 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ลิ้นจี่ยังมีสารแอนติออกซิแดนต์ เช่น พอลิฟีนอล แทนนิน (Tannin) คาเทชิน (Catechin) และไฟเทต (Phytate) สูง เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น โดยพอลิฟีนอลช่วยลดการอักเสบ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งคาเทชินช่วยลดความเสี่ยงการแตกของเส้นเลือดในสมอง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ส่วนแทนนินช่วยป้องกันโรคไขข้ออักเสบ โรคหัวใจและหลอดเลือด
แม้จะมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง แต่ลิ้นจี่ยังมีปริมาณน้ำตาลสูงด้วย โดยลิ้นจี่ 4 ผลใหญ่มีน้ำตาลรวม 14 กรัม ทางที่ดีคือ กินแต่พอดี กินให้ได้วิตามินซีจากแหล่งอาหารที่หลากหลายทั้งผักและผลไม้
กินวิตามินซีจากธรรมชาติ สร้างคอลลาเจนให้ร่างกาย รับรองผิวเด้ง อ่อนวัยปราศจากสารพัดโรคภัยแน่นอนค่ะ
จาก คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 425 (16 มิถุนายน 2559)
บทความน่าสนใจอื่นๆ
ไขความลับคอลลาเจนที่คุณ(ไม่)รู้
ผิวเด้งดึ๋ง เต่งตึงด้วยคอลลาเจน