ปลาแซลมอนต้มเผือก
หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น หรือได้ยินเมนู ปลาแซลมอนต้มเผือก บอกเลยว่าอยากให้ลองทำมากๆค่ะ เพราะนอกจากจะอร่อยแล้ว วัตถุดิบแต่ละอย่างก็มีประโยชน์มากมายอีกด้วย มาดูวิธีทำกันค่ะ
ขั้นตอนการทำ ปลาแซลมอนต้มเผือก
♦ ส่วนผสม
เนื้อปลาแซลมอน หั่นชิ้นหนา 1 นิ้ว | 200 กรัม |
เผือกหั่นชิ้นหนา 1- 1½ นิ้ว | 100 กรัม |
รากผักชีบุบหยาบ | 3 ราก |
กระเทียมปอกเปลือกบุบหยาบ | 3 กลีบ |
ต้นหอมหั่นท่อนยาว 1½ นิ้ว | ½ ถ้วย |
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนยาว 1½ นิ้ว | ½ ถ้วย |
พริกขี้หนูแดงบุบ | 2-3 เม็ด |
ซีอิ๊วขาว | 1½ ช้อนโต๊ะ |
น้ำมันงา | 1 ช้อนชา |
น้ำเปล่า | 4 ถ้วย |
น้ำมันพืชสำหรับจี่ | 1-2 ช้อนชา |
หอมเล็กเจียวสำหรับโรยหน้า | ¼ ถ้วย |
น้ำมันพืชสำหรับทอด |
♦ วิธีทำ ปลาแซลมอนต้มเผือก
- ใส่น้ำมันลงในกระทะ 1 – 2 ช้อนชา ยกขึ้นตั้งไฟกลางจนร้อน วางเนื้อปลาลงจี่พอให้ผิวตึง และมีสีน้ำตาลเล็กน้อย ตักขึ้นพักไว้
- เทน้ำมันสำหรับทอดลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เผือกลงทอดพอให้ผิวเหลืองสวย ตักขึ้นพักไว้
- ผสมรากผักชี กระเทียม และน้ำรวมกันในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลางให้เดือด แล้วใส่เผือกทอด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว จากนั้นใส่พริกขี้หนูแดง ขึ้นฉ่าย และต้นหอม คนเบาๆพอเข้ากัน ยกลงจากเตา
- ใส่เนื้อปลาและน้ำมันงาลงไป คนเบาๆ ปิดเตา
- ตักใส่ชามเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยหอมเจียว
TIP
- ก่อนจี่ปลาแซลมอนให้ใส่ขิงแก่ลงจี่ก่อนแล้ว ตักขึ้น จากนั้นจึงวางเนื้อปลาลงจี่ จะช่วยให้ ปลาไม่ติดกระทะและมีกลิ่นหอม
- ใช้หัวปลากะพงหรือปลาจีนได้ตามชอบ
#ACuisine #เอคูซีน #รู้หรือไม่ #TamTip
👉 กดติดตาม Instagram ได้ที่ @ acuisine.th Follow มาเยอะๆ นะคะ 😘
ง่าย สนุก สุข อร่อย อยากกิน..อยากฟิน..อยากทำ.. อย่าลืมติดตาม #Acuisine นะจ๊ะ
Summary
Article Name
ขจัดยางเหนียวของเผือก
Description
ขจัดยางเหนียวของเผือก ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด!
ความจริง “เผือก” กับ “บอน” นั้นเป็นพืชตระกูลเดียวกัน กล่าวคือ ถ้ากินก้าน กินไหล เราจะเรียก ”บอน” แต่ถ้ากินหัว เราจะเรียก “เผือก” ส่วนใหญ่นิยมนำมาใส่ในอาหารทั้งคาวและหวาน โดยเฉพาะอาหารจีนจะค่อนข้างนิยมมาก ตามธรรมชาติที่เปลือกของเผือกจะมียางซึ่งทำให้คันเมื่อสัมผัส และถ้าปอกไม่เป็น เวลานำมาปรุงอาหารรับประทานจะเกิดอาการคันได้ มีเคล็ดวิธีดังนี้...
ล้างเผือกทั้งหัวให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
ปอกเปลือกให้หนา แล้วปล่อยให้ยางเหนียวไหลซึมออกจากเนื้อ
ใส่น้ำในชาม แล้วผสมน้ำปูนใสหรือน้ำส้มสายชูลงไปแช่เผือก ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือจนกว่ายางเหนียวจะตกตะกอน
ล้างเผือกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก่อนนำไปประกอบอาหาร
ประโยชน์และสรรพคุณของ เผือก
พืชที่เราคุ้นเคยกันดี นั้นก็คือ “เผือก” เผือกเป็นพืชที่รับประทานหัวเราสามารถพบเห็นเผือกได้ทุกที่ แม้ปลูกเองก็ปลูกแสนง่าย ที่สำคัญความอร่อยของเผือกนั้นทำให้หลายคนเลือกเป็นพืชที่โปรดปราน สรรคุณของเผือกมีดังต่อไปนี้
เผือกมีสารอาหารประกอบด้วย โปรตีน เบตาแคโรทีน วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม โซเดียม ฟลูออไรด์ และซาโปนิน
ผู้ที่สมควรรับประทานเผือกคือ ทุกคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ ส่วนคนที่ต้องหลีกเลี่ยงการทานเผือกคือ คนที่มีอาการแพ้ เสมหะมา กระเพาะและลำไส้ทำงานไม่ปกติ
เผือกมีเกลือแร่หลากหลายชนิด มีฟลูออไรด์ที่ช่วยทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันฟังผุ
ในเผือกมีโปรตีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของอิมมูโนโกลบูลิน ร่างกายจึงมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นจากสารดังกล่าว
เผือกช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยโรคมะเร็งหลังการผ่าตัด และช่วงพักฟื้น ทำให้ร่างกายกลับมามีความแข็งแรงเร็วขึ้น
เผือกช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ช่วยย่อย มีฤทธิ์เป็นด่าง จึงช่วยปรับลดกรดในร่างกายให้เข้าสู่สมดุล ทำให้ผิวพรรณดีและผมดกดำ
การรับประทานเผือกร่วมกับพุทธาจีนช่วยบำรุงเลือด
การประทานเผือกพร้อมกับข้าว เป็นการบำรุงลำไส้ บำรุงม้าม บำรุงไต ขับปราณลงล่าง สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
ข้อควรระวัง เผือกมียางทำให้ผิวหนังระคายเคือง เวลาปอกเปลือกหรือล้างเผือกจึงควรสวมถุงมือ ถ้ามีอาหารแพ้ยางเผือก ให้ถูด้วยขิงสดอาการดังกล่าวจะหายไป
Pages: 1 2