พาไปเปิดเมนูจานพิเศษ อาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ผสมความเป็นนานาชาติ ที่คุณยังไม่เคยลิ้มรส ณ ห้องอาหารลีลาวดี โรงแรมเมอเวนพิค สุขุมวิท 15
รีวิวชวนหิว วันนี้แอดจะพาไปลิ้มรสชาติ ” อาหารเมดิเตอร์เรเนียน ” ที่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะทราบว่าในบ้านเรานั้นมีอาหารสไตล์นี้อยู่ด้วย ซึ่งแอดขอบอกตามตรงว่าพึ่งจะเคยได้ทานรสชาติอาหารเหล่านี้แบบจริงจังก็คราวนี้แหละจ้า เพราะปกติจะคุ้นเคยอาหารแบบไทย ญี่ปุ่น เกาหลี จีน หรือไม่ก็เป็นอาหารอิตาเลี่ยนซะส่วนใหญ่ แต่วันนี้เราจะมาชิมอาหารในแถบเมดิเตอร์เรเนียนกันบ้าง ซึ่งอาหารเมดิเตอร์เรเนียน เค้าจะเน้นรสที่เป็นธรรมชาติของวัตถุดิบ ไม่ปรุงแต่งมากนัก รสไม่จัดจ้าน รับรองว่าอร่อย และดีต่อสุขภาพด้วยนะ ซึ่งเมนูต่างๆ ที่จะพูดถึงนั้นจะออกสไตล์ฟิวชั่นที่ผสมผสานกับความเป็นไทย และอินเตอร์เข้าด้วยกัน รวมไปถึงเมนูจานเด็ดจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ออกไปทางเพื่อสุขภาพ เพราะคนในแถบนั้นเค้าใส่ใจเรื่องสุขภาพไม่น้อยเลยล่ะ ไม่รอช้าค่ะ ไปลุยกันเลย

พาเดินทางมายัง โรงแรมเมอเวนพิค ในซอยสุขุมวิท 15 โรงแรมสีขาวสะอาดตาใจกลางเมืองกรุง และมุ่งตรงไปยังห้องอาหารลีลาวดี ที่อยู่ภายในโรงแรมแห่งนี้กันเลยค่ะ ห้องอาหารนี้ถือว่าเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมเมอเวนพิค เลยทีเดียวค่ะ ภายในตกแต่แบบเรียบง่ายโดยเน้นใช้โทนสีขาวเป็นหลักและรายล้อมไปด้วยต้นไม้และกระจกรอบด้าน ให้รู้สึกผ่อนคลายไม่อึดอัดดีค่ะ
ส่วนเมนูอาหารทั้งหมดในห้องอาหารลีลาวดีนั้นก็จะมีหลากหลายประเภท เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย อาหารยุโรป อาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารเลบานอน หรืออาหารสวิสเซอร์แลนด์ รวมไปถึงเมนูพิเศษที่เป็นไฮท์ที่ต้องลองอย่าง “ช็อคโกแลต บาร์” โดยเป็นการผสมผสานช็อคโกแลตชั้นเยี่ยมจากสวิสเซอร์แลนด์กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างลงตัว ต้องร้องว้าวเลยทีเดียว โดยสามารถเลือกความเข้มข้นของช็อกโกแลตได้ถึง 3 ระดับ 70% , 80% หรือ 90% เลยทีเดียว (ความเข้มข้นของช็อคโกแลตจะแนะนำอยู่ที่ 70% นะกำลังดี) เครื่องดื่มเหล่านี้เหมาะกับดื่มหลังมื้ออาหารหรือแทนขนมหวานเลยก็ได้ มีให้เลือกทั้งแบบ Mocktails และ Cocktails / ร้อน เย็น เลือกได้ตามใจชอบเลยจ้า แต่ถ้าใครเลือกเป็น Cocktails ก็เมาไม่ขับนะจ๊ะ ^^ เครื่องดื่มพิเศษนี้จะให้รสสัมผัสแปลกใหม่ไม่เหมือนใครดีนะ ถ้าใครยังไม่เคยลองแนะนำเลยจ้า อร่อย โดยเมนูทั้งหมดนี้เป็นฝีมือจากทีมเชฟของโรงแรม รวมทั้งเมนูขึ้นชื่อของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มารังสรรค์ความอร่อยให้ได้ลิ้มรสกันแบบจัดเต็มเลยค่ะ
ว่าแล้วเราไปดูเมนูต่างๆ ที่วางอยู่ตรงหน้าแอดกันเลยจ้า อันดับแรกเค้าก็จะเสิร์ฟเป็นเมนูขนมปังให้ทานเล่นๆ ก่อน เหมือนจะเป็นมาตรฐานแถบทุกที่เลยนะ แอดก็ชอบลองชิมขนมปังของแต่ละโรงแรมเช่นกัน แต่ละที่ก็รสชาติอร่อยแตกต่างกัน และเสิร์ฟมาในหลายรูปแบบด้วยนะเธอ อย่างของที่นี่เค้าเสิร์ฟเป็นขนมปังชนิดเดียวก็ถือว่าอร่อยดีค่ะ กินไม่หยุดเลยทีเดียว เหนียวนุ่มทาเนยหน่อยอร่อยฟินไปอีก นี่จะอิ่มก่อนจานหลักเลยก็ว่าได้ ฮาๆ ^^

ไปเริ่มต้นจานแรกกันกับเมนูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน (inspired by Lebanese cuisine) จากฝีมือ Mr.El Khatib Mohamad Omar เชฟ โอมาร์ (Executive Sous Chef / celebrity chef) กันค่ะ เมนูนี้ชื่อว่า Mixed Grill จุดเด่นความอร่อยจานนี้อยู่ Garlic sauce โดยใช้กระเทียมเป็นส่วนประกอบหลัก และเป็นที่เดียวในประเทศไทยที่เป็น Gluten free ใครที่แพ้รับรองว่าทานได้แน่นอนจ้า โดยปกติแล้วจะมีแค่ kabab, lamb tenderloin, shish taouk (chicken breat) แต่ที่นี่จะเพิ่มความโดดเด่นหลากหลายด้วย Lamb Chop และ Chicken Wings ทานคู่กับ เฟร้นช์ฟรายด์ , Garlic sauce สูตรพิเศษเป็น Gluten free รวทั้งหอมใหญ่ และ มะเขือเทศย่าง ใครสายเนื้อจัดไปจานนี้บอกเลยว่าเด็ด!! แต่ถ้าใครไม่ทานเนื้อก็ไม่ต้องเสียใจนะ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเนื้ออย่างอื่นได้จ้า (ราคา 840 บาท)

มาเมนู เบาๆ กันบ้าง ดูเป็นเมนูสุขภาพด้วย มีเครื่องจิ้มให้เลือกถึง 3 รสชาติ ทานคู่กับแผ่นแป้งนานหนานุ่ม ในอาหารอินเดียที่คุ้นเคย เครื่องจิ้มก็จะประกอบไปด้วย “Mixed Mezze….Labneh” เป็นโยเกิร์ตผสมน้ำมันมะกอก ที่รสชาติครีมๆ อร่อยสดชื่น เครื่องจิ้มอันที่สองที่สีเขียวๆ นั้นเป็น “Babaghanouj” ที่มีส่วนผสมของ มะเขือยาวย่างผสมกับผักนานาชนิด เนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบ รสชาติก็มีกลิ่นเครื่องเทศหน่อยๆ และสุดท้ายคือ “Moutabal” มะเขือยาวย่างผสมกับงาและทับทิม รสชาติจะครีมมี่มากๆ เนื้อสัมผัสค่อนข้างละเอียด ทานคู่กับแป้งแต่ละอย่างก็เข้ากันดีนะ อร่อยไปอีกแบบ เมนูนี้ชอบมากต้องลองค่ะ
เมนูต่อมาสำหรับใครไม่ทานเนื้อดิบ ก็ต้องผ่านไปค่ะ แต่ถ้าใครทานเนื้อดิบได้ และทานเนื้อ ต้องหยุดตรงนี้ด่วนเลย จานนี้คือเมนู Beef Tartare เมนูจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทำมาจากเนื้อดิบเนียนละเอียดผสมผสานกับเครื่องเทศนานาชนิด ซึ่งไม่ได้รับนิยมแค่ในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลกอีกด้วยเป็นเมนูที่ต้องแนะนำเลยค่ะ เพราะเนื้อดีสุดๆ เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังปิ้ง แกล้มกับผักดองต่างๆ เข้ากันกับเนื้อดิบจานนี้มากจริงๆ (ราคา 840 บาท)

นอกจากนี้ยังมีอาหารที่เราหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันนะ เป็นอาหารไทยที่มีกลิ่นอายของอินเตอร์เพิ่มขึ้นมา ด้วยหน้าตาที่ดูอินเตอร์แล้วรสชาติก็ยังจัดจ้านแบบไทยๆ รับรองถูกอกถูกใจแน่นอน อย่างเมนู สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา จานนี้แอดชื่นชอบมาก เพราะรสเข้มข้นจัดจ้าน ใครที่เลี่ยนๆ เมนูครีมๆ เจอจานนี้รับรองว่าหายเลี่ยนเลยค่ะ (ราคา 340 บาท)

จานต่อมาเป็น เมนู ฉู่ฉี่แซลม่อน เนื้อปลาชิ้นโตที่เสิร์ฟมาสไตล์อินเตอร์สวยงาม ใช้แซลม่อนคุณภาพสูงจากนอร์เวย์ นำไป Grill ไม่นานเพื่อที่จะยังคงความฉ่ำของเนื้อปลาแซลม่อน ราดด้วยซอสฉู่ฉี่เข้มข้น รสสัมผัสของเนื้อปลาไม่แห้งมาก เข้ากันกับซอสได้ลงตัวกลมกล่อม จานนี้ก็เป็นอีกจานที่สาวๆ ไม่ควรพลาดนะคะ

จากต่อมานี่นึกว่าอีสานมาเอง เพราะนี่คือ เมนู เสือร้องไห้ (Suea Rong Hai) ที่ไม่ร้องไห้นะจ๊ะ เพราะเนื้อเค้านุ่มอร่อยย่างกำลังดีใช้เนื้อสันนอก Striploin เป็นเนื้อ Imported จากออสเตรเลียเลยทีเดียวเชียว ส่วนซอสน้ำจิ้มแจ่วรสชาติก็จะเป็นสไตล์ไทยๆ โรยด้วยพริกสดแดงและหอมเจียว หอมแดงสด ตกแต่งจานได้น่าทานมากๆ ค่ะ นี่แอดเกือบจะขอข้าวเหนียวเพิ่มแล้วนะคะ ฮาๆ ^^ (ราคา 320 บาท )

มาปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานและเครื่องดื่มสุดพิเศษในมื้อนี้กันค่ะ เมนูแนะนำอยากให้ลองเป็นเมนู Mango cheesecake ตัวนี้แนะนำเลย เพราะเค้าใช้มะม่วงสดๆ หวานหอมอร่อยมาสร้างเป็นขนมรสชาติหวานหอมอร่อยจานนี้ ( ราคา 260 บาท)

เมนูขนมหวานอีกเมนูคือ Blueberry cheesecake เนื้อชีสเค้กนุ่มหนึบ รสชาติกลมกล่อมราดด้วยซอสบลูเบอรี่ และผลไม้สดไว้ทานคู่ อร่อยฟินเลยจ้า

เมนูเครื่องดื่มกันบ้างค่ะ ทางเรามาสายช็อกโกแลต เราจะไม่พลาดเมนูนี้ค่ะ เมนู Choco Castro แก้วนี้ตกแต่งหรูหราเชียว ประกอบไปด้วย Hennessy V.S.O.P, Rum, Baileys Irish, Cream, Swiss Chocolate, Cream อลังกานสุดๆ ส่วนรสชาติเข้มข้นมากอร่อยค่ะแนะนำจะเป็น Mocktaile ก็ได้ หรือจะเป็น Cocktails ก็อร่อยค่ะ (ราคา 360 บาท)

มาต่อกับเมนู Mickey Tattoo เมนูนี้มีส่วนผสมของมะพร้าว และช็อกโกแลต ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันลงตัวมาก (Coconut Cream, White Swiss Chocolate, Fresh milk, Chocolate Flakes) อร่อยแปลกดี (ราคา 200 บาท)

เมนูสุดท้าย คือ เมนู Brody แก้วนี้ สีหวานน่ารักฟรุ้งฟริ้งสุดๆ ท็อปปิ้งด้วยผลที่มีสตรอว์เบอร์รี ทำมาจาก White Chocolate Vodka, Baileys Irish Cream, Strawberry Sauce, Cream แก้วนี้มีแอลกอฮอล์ ที่ค่อนข้างแรงใช่ได้ แต่ทางเรานั้นก็ไม่หวั่นแต่ก็ต้องค่อยดื่มกันอย่างมีสตินะคะ ^^ (ราคา 280 บาท)
เครื่องดื่มที่ได้แนะนำมาทั้งหมดเราสามารถปรับเปลี่ยนได้นะคะว่าจะให้รสชาติช็อกโกแลตเข้มมากเข้มน้อย หรือจะใส่แอลกอฮอล์หรือไม่ใส่ก็ได้แต่รับรองว่าอร่อยทุกเมนูค่ะ อยากให้ไปลิ้มลองรสชาติเมนูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน กันเยอะๆ นะคะ เพราะแต่ละเมนูของที่นี่เค้าใส่ใจทุกขั้นตอนจริงๆ ไปทานกันได้
พิกัด : โรงแรมเมอเวนพิค สุขุมวิท 15 กรุงเทพ ณ ห้องอาหารลีลาวดี
ประเภทอาหารเป็น : เมนู a la carte
เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00น. เป็นต้นไป
สำรองที่นั่งเบอร์โทรศัพท์ : 02 119 3100
หรือติดตามได้ที่ เฟสบุ๊ก: https://www.facebook.com/movenpickBKK/
ไอจี :https://www.instagram.com/movenpickbangkok/
วันนี้แอดขอตัวไปจัดการอาหารที่เยอะแยะตรงหน้านี้ก่อนค่ะ ครั้งหน้าจะมีรีวิวชวนหิวอะไรอีกต้องรอติดตามนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาส่องและอ่านรีวิวนี้ ขอตัวก่อนนะคะ บะบายจ้า…
โดย Admin Pakkimji
ภาพประกอบโดย Mee Wara