อร่อยกับอาหารไทยแบบโบราณ ” ชุดเปิบมือ ” ณ เรือนมัลลิการ์ ช่วงนี้หลายคนคงอินหนักมากกับละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ละครไทยที่ย้อนไปในสมัยอยุธยา มีหลายฉากที่สื่อถึงอาหารไทยโบราณหลากหลายเมนู และความเป็นคนไทยโบราณที่ต้องทานอาหารด้วยการใช้มือแทนการใช้ช้อน และหลายๆ คนคงจะอินจนอยากจะมองหาร้านอาหารไทยที่มาตอบโจทย์ ความอยากจะลองย้อนกลับไปนั่งเปิบมือกันสักครั้ง
และแล้ววันนี้กิมจิก็ไม่พลาดที่จะพามาเยือนร้านอาหารไทยภายใต้บรรยากาศเรือนไทยอายุ 200 กว่าปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 แห่งนี้ร้าน “ เรือนมัลลิการ์ ” ร้านอาหารไทยโบราณที่บอกเลยว่าอาหารแต่ละเมนูของที่นี่อร่อยและเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยและคนต่างชาติมาหลายปี และเมนูที่จะมาแนะนำให้ได้ไปลิ้มรสกันนั้นเป็น “ชุดอาหารเปิบมือ” แบบโบราณค่ะ
บรรยากาศโดยรอบของร้าน เรือนมัลลิการ์ สุขุมวิท 22
บรรยากาศร่มรื่นน่านั่งทานข้าวเสียจริงเชียวออเจ้า…
ซึ่งทางร้านจัดเต็มทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกเมนู ที่ขึ้นชื่อเป็นสูตรเฉพาะของ อาจารย์มัลลิการ์ จนเป็นความอร่อยและบวกกับงานศิลปะจากการแกะสลัดผักผลไม้ได้วิจิตรยิ่งเพิ่มความไทยสมัยโบราณไว้เต็มเปี่ยมเลยค่ะ สวยงามมากๆ และสิ่งสำคัญอีกสิ่งที่ทางร้านนั้นใส่ใจนั่นก็คือการเลือกสรรวัตถุดิบ ที่นำมาปรุงในแต่ละเมนู จนกลายมาเป็นอาหารไทยโบราณชุดนี้ ไม่รอช้า เราไปรู้จักแต่ละเมนูกันค่ะ หลายเมนูที่กิมจินั้นไม่เคยได้รู้จักและไม่เคยได้สัมผัสรสชาติมาก่อนด้วย ตื่นเต้นจังที่ได้ทานแบบใช้มือแบบคนโบราณจนนึกว่าตัวเองเป็นแม่นายการะเกดเลยทีเดียวเชียวค่ะ
ชุดเปิบมือ นี้ประกอบไปเมนูอร่อยกว่า 10 เมนูเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ของคาว ไปจนถึงขนมหวาน และเครื่องดื่มซึ่งเป็นน้ำสมุนไพรและน้ำผลไม้ไทย อาทิ , ข้าวตังหน้าตั้ง , น้ำพริกลงเรือ , พล่าเนื้อ , ซีโครงหมูอบยอดผัก , กุ้งนางทอดกระเทียม , ห่อหมกขนมถ้วย , แกงเผ็ดเป็ดย่าง , ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ส่วนขนมหวาน คือ เมนูข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งเข้ากับฤดูกาลช่วงนี้ จริงๆ ค่ะ เมนูบัวลอยสามกษัตริย์ ที่มีหน้าตาหลากสีสันในถ้วยชวนให้มาอร่อยจริงๆ และไอศกรีมขนมปังโบราณ ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องไม่ว่าจะเป็นลูกชิด ถั่วแดงและฟักทองเชื่อม อร่อยเข้ากันสุดๆ กับไอศกรีมกะทิหวานมันเข้มข้นชื่นใจเลยค่ะ



มาเริ่ม เปิบมือกัน โดยทางร้านเค้าจะมีขันกะลาใส่น้ำผสมใบชาและมะนาวฝาน พร้อมผ้าขาวไว้ให้ล้างและเช็ดมือก่อนแล้ว คด ข้าวสวยหอมมะลิใหม่ ในหม้อดินร้อนๆ มาเสิร์ฟให้ ในเซตจะมี เมนูแนะนำ ได้แก่ “ฉันชื่นบษุบา” คือ นำเอาดอกไม้ปลอดสารพิษมาชุบแป้งทอดจนกรอบ กินกับน้ำจิ้มไก่อร่อยเพลินไปเลยค่ะ ดอกไม้บางชนิดกิมจิก็ไม่เคยได้ทานเลย ไม่ว่าจะเป็นดอกเข็ม ดอกเฟื่องฟ้า ดอกลีลาวดี เชื่อว่าคนรุ่นใหม่หลังๆ จะไม่ค่อยได้ทานอาหารเหล่านี้แน่ๆ มาต่อด้วยเมนู “ข้าวตังหน้าตั้ง” อีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อยที่รสอร่อย แนะนำเช่นกันออเจ้า
ส่วนเมนู “ห่อหมกขนมถ้วย” มีเนื้อเหนียวหนึบกวนจากปลากรายและเนื้อปูและเครื่องแกงปลอดสารพิษ อร่อยถึงรสขนาดพอดีคำ รสเข้มข้นถึงเครื่องแกงเลยค่ะ
ส่วนเมนู “กุ้งนางทอดกระเทียม” รสถึงเครื่อง ใช้กุ้งนางขนาดย่อมทอดจนกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยเครื่องพริกกะเทียมผัด ปรุงรสเข้มขนพอมาทานกับข้าวร้อน ๆ ช่างได้ใจจริงๆ ค่ะ ส่วนเมนู “น้ำพริกลงเรือ” ก็รสเข้มข้น ทานคู่กับผักเครื่องเคียงอร่อยเข้ากันมากค่ะ แถมเสิร์ฟมาในผักแกะสลักเสลาดูวิจิตรงดงาม พร้อมไข่เจียวชะอมปลอดสารพิษ เมนูน้ำพริกถ้วยนี้เลยยิ่งดูแพงแลสวยงามสุดๆ ส่วนอีกเมนูที่กิมจิชอบมากเป็นการส่วนตัว คือ “ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง” เนื้อเนียนรสนุ่มนวลคล้ายไข่ตุ๋นญี่ปุ่น แต่ยังคงความเป็นไทยอร่อยมากค่ะ
มาต่อกันที่ “พล่าเนื้อ” เลื่องชื่อ โดยนำเนื้อสันนอกโคขุนกำแพงแสนมาย่างพอน้ำตกแล้วเคล้าเครื่องและน้ำพล่ารสเข้มข้นกลิ่นหอม รสเข้มข้นอร่อยมากๆ กอไก่ล้านตัว เว่อร์ไปอีกนะเนี่ย สำหรับคนที่ทานเนื้อเมนูแนะนำเลยจ้า
ถัดมาเป็นเมนู “ต้มข่าปลาสลิดใบมะขามอ่อน” เลือกใช้ปลาสลิดบางบ่อเจ้าพิเศษมาเลาะก้างแล้วปรุงให้ได้รสเปรี้ยวจากใบมะขามอ่อน เค็มเจือหวานมันของกะทิ อร่อยลงตัว
หรือจะเป็น “แกงเผ็ดเป็ดย่าง” ที่นำหัวกะทิมาแกงกับพริกแกงปลอดสารกลิ่นหอม รสหวานมันพร้อมเป็ดย่างเนื้อหนา องุ่น สับปะรด และมะเขือเทศสีดา



อาหารเซตนี้เยอะมากมายงั้นขอแนะนำแค่เมนูเด็ดๆ ที่ต้องลองละกันนะคะ ขอพักท้องไปชิมขนมหวานกันบ้างดีกว่าค่ะ
เมนูข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังมาเลยจ้า ข้าวเหนียวมะม่วงรสหวานเข้ากับข้าวเหนียวมูนราดน้ำกะทิอีกหน่อยหวานมันเข้ากันสุดๆ เลย
เมนูบัวลอยสามกษัตริย์ ได้แก่ เผือก ฟักทองใบเตย ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อและกะทิข้น ๆ อุ่น ๆ เนื้อนุ่มละมุนลิ้นรสชวนฝันสุดๆ แนะนำเลย
แต่ถ้าใครชอบทานไอศกรีม แนะนำ ไอศกรีมขนมปังโบราณ เมนูนี้จ้า เครื่องอัดแน่นมาเต็มจริงๆ
แต่ละเมนูน่าทานทั้งนั้นเลยนะคะ อยากให้ได้ลองมาสัมผัสบรรยากาศในเรือนไทยแห่งนี้พร้อมนั่งทานชุดเปิบมือแบบโบราณแบบนี้รับรองอินกับความเป็นไทยกันทั่วพระนครเลยค่ะ
อยากลองสัมผัสบรรยากาศแบบไทยๆ และลิ้มรสอาหารไทยเปิบมือแบบโบราณ นี้
สามารถโทรจองได้ที่ร้านเรือนมัลลิการ์ ทั้ง 2 สาขา ได้แก่
- สาขาสุขุมวิท โทร.084-088-3755 เปิดให้บริการตั้งแต่ 12.00-23.00น.
- และสาขาคริสตัลดีโซน์เซ็นเตอร์ (CDC) โทร. 084-088-3736 เปิดบริการตั้งแต่11.00น. -22.00น.
ราคา 1 ท่าน 1500 ++ บาท เท่านั้น บริการ 2 ท่านขึ้นไป นะคะ
พิกัด : เรือนมัลลิการ์ สุขุมวิท 22
หมายเหตุ : รับจองชุดเปิบมือเพียงวันละ 3 ชุด ต่อวันเท่านั้นนะค่ะ
โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับใครที่แต่งชุดไทยเข้ารับประทานเปิบมือที่ร้านเรือนมัลลิการ์ทั้งก๊วน รับส่วนลดทันที 20% ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2561 เท่านั้น
และถ้าใครกำลังมองหา ข้าวแช่ ทานกันคลายร้อนที่เรือนมัลลิการ์ก็มีให้ได้สั่งทานกันนะจ๊ะ เมนู ข้าวแช่ชาววัง ชุดนี้เป็นสูตรโบราณ จะได้สัมผัสความนุ่มหอมของเมล็ดข้าว ที่ใช้ข้าวหอมมะลิออร์แกนิคจาก จ.บุรีรัมย์ นำมาอบควันเทียนจนหอมกรุ่น แทรกความเย็นหอมชุ่มฉ่ำด้วยน้ำลอยดอกมะลิสด โรยน้ำแข็งเกล็ด รับประทานพร้อมเครื่องเคียงทั้ง 6 ชนิด
เริ่มตั้งแต่ หรุ่ม พริกหยวกสอดไส้กุ้งและเนื้อหมูสับผสมด้วยเครื่องสมุนไพร ห่อด้วยตาข่ายไข่ฝอยเส้นละเอียด หอมแดงยัดไส้ลูกกะปิ ทำจากเนื้อปลาดุกย่างผสมกับเครื่องสมุนไพร ผัดกับกะปิ ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว ยัดใส่ในหอมแดง นำไปชุบไข่และแป้งสาลี ทอดในน้ำมันพืชใหม่จนสุกกรอบนุ่ม ลูกไข่เค็ม ไข่แดงเค็มปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก ชุบกับแป้งสาลีและไข่ ทอดในน้ำมันใหม่จนเหลืองสุกกรอบนอกนุ่มใน เนื้อหวานฝอย และ หมูหวานฝอย ใช้เนื้อส่วนสะโพกหมักกับสมุนไพรแล้วนำไปย่างจนสุก ฉีกเป็นเส้นฝอย ทอดกับน้ำตาลจนได้รสหวานหอมกลมกล่อม ไชโป๊วหวาน ทำจากไชโป๊วเส้นเล็ก นำมาล้างสะอาด ผัดเคล้ากับน้ำตาลมะพร้าวได้รสหวานเค็มกรุบกรอบ แกล้มกับสารพันผักเคียงทั้ง ต้นหอมสด กระชาย แตงกวา มะม่วงดิบ และพริกชี้ฟ้าสดแกะสลักอย่างวิจิตรมาในสำรับ
ราคาชุดข้าวแช่ ร้าน อ.มัลลิการ์ เกษตร-นวมินทร์ ราคาต่อชุดอยู่ที่ 300 บาท
ร้านเรือนมัลลิการ์ สาขาสุขุมวิท ราคาต่อชุดอยู่ที่ 450 บาท

โดย Admin Pakkimji
ภาพประกอบโดย Mee Wara
ร้านอาหารแนะนำอื่นๆ
- GISMO Coffee & Roasters ร้านอร่อย ซอยสุขุมวิท39
- จัดเต็มชุดใหญ่กับ บุฟเฟ่ต์ข้าวต้มโต้รุ่ง @BlueSpiceDining Room
- อรรถรส (At-ta-Rote) อาหารไทยโบราณตำรับชาววัง
- Wang Jia Sha ตำรับอาหารจีนเซียงไฮ้เลิศรส @ Siam Paragon
- Nana Coffee Roaster คาเฟ่เก๋ๆ นั่งจิบกาแฟเคล้ากลิ่นหอมของดอกไม้
- Blue Brew Coffee คาเฟ่สีฟ้าน่ารัก @ โคราช เมืองย่าโม
- นิยาย ร้านกาแฟในสวนสไตล์วินเทจ ย่านตลิ่งชัน
- Tokyo Milk Cheese Factory ที่คนรักชีสต้องตามไปกิน!