เกี๊ยวน้ำไส้เห็ดหอม (สูตรมังสวิรัติ) เสริมสร้างกระดูกแข็งแรง อร่อยกลมกล่อม ซดร้อนทานง่ายลื่นคอ มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ
เกี๊ยวน้ำไส้เห็ดหอม
ส่วนผสม
เห็ดหอมสับ | 150 | กรัม |
กระเทียมสับ | 1 | ช้อนชา |
ขิงขูด / สับ | 1 | ช้อนชา |
ซอสถั่วเหลือง | ½ | ช้อนโต๊ะ |
น้ำมันงา | 1 | ช้อนชา |
ต้อนหอมซอย | 1 | ช้อนโต๊ะ |
น้ำเปล่า | ||
แผ่นเกี๊ยว |
ส่วนผสมน้ำซุป
น้ำซุปผัก | 3 | ถ้วยตวง |
น้ำมันงา | 2 | ช้อนชา |
กระเทียมสับ | 1 | ช้อนชา |
ขิงขูด / สับ | 1 | ช้อนชา |
กะหล่ำปลี หั่นบางๆ | 50 | กรัม |
เห็ดหอมหั่นบางๆ | 30 | กรัม |
ซีอิ๊วขาว | 1 | ช้อนโต๊ะ |
เกลือป่น | ½ | ช้อนโต๊ะ |
ต้นหอมซอย | 1 | ช้อนโต๊ะ |
หอมใหญ่สับ | 2 | ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันงา พอร้อนใส่กระเทียมและขิงลงผัดพอหอม
- ใส่เห็ดหอมลงไปผัดแค่พอสุก ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง ใส่ต้นหอมผัดให้เข้ากันดี พักไว้ให้เย็น
- ตักไส้ที่ผัด ลงบนแผ่นเกี๊ยว ทาน้ำเปล่า รอบๆ ห่อให้สนิท
- ต้มน้ำให้เดือด ลวกเกี๊ยวที่ห่อ จนสุกดี แผ่นเกี๊ยวจะใส ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ คลุกน้ำมันงาเล็กน้อย พักไว้
- เตรียมน้ำซุป ตั้งหม้อใส่น้ำมันงา พอร้อนใส่กระเทียมและขิง ลงผัดพอหอม ใส่หอมใหญ่ ผัดจนใส
- เติมน้ำซุปผัก พอเดือด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และเกลือป่น ตามด้วยกะหล่ำ และเห็ดหอม
- ตักเกี๊ยวใส่ชาม เติมน้ำซุป โรยต้นหอม พร้อมเสิร์ฟ
เห็ดหอม เป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีรสชาติอร่อยและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่ความอร่อยก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเห็ดชนิดนี้เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารและมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดี จนได้ชื่อว่าเป็น ยาอายุวัฒนะ สามารถกินได้ทั้งดอกสดและดอกแห้งเป็นพืชชนิดเดียวที่เป็นแหล่งของวิตามินดีจากธรรมชาติ ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูก นอกจากการรับแสงแดดในยามเช้าเพื่อให้ร่างกาย
บริโภคเห็ดหอมอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ ?
ส่วนใหญ่เห็ดหอมที่วางขายตามท้องตลาดนั้นจะเป็นเห็ดหอมแบบแห้ง ซึ่งควรเลือกซื้อเห็ดหอมที่ดอกหนา มีรอยแตกสีขาวลึกกระจายทั่วดอก และนำไปแช่น้ำร้อนประมาณ 10-15 นาทีจนนุ่มก่อนนำไปปรุงอาหาร ส่วนเห็ดหอมสดก็สามารถหาซื้อได้โดยเลือกซื้อดอกเห็ดที่สดและสะอาดเสมอ
ทั้งนี้ การบริโภคเห็ดหอมปรุงสุกในปริมาณที่พอเหมาะนั้นค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่อาจไม่ปลอดภัยหากรับประทานในปริมาณที่ใช้เป็นยารักษาโรคหรือรับประทานอาหารเสริมเห็ดหอมโดยปราศจากคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งอาจทำให้ปวดท้อง มีอาการแพ้หรือบวมตามผิวหนัง มีเลือดออกผิดปกติ หายใจลำบาก และผิวหนังไวต่อแสงแดด ส่วนการบริโภคเห็ดหอมดิบก็อาจทำให้มีผื่นคันขึ้นตามผิวหนังได้เช่นกัน
ส่วนบุคคลในกลุ่มต่อไปนี้ ควรบริโภคเห็ดหอมด้วยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
- หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร หลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดหอม เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัย ของการรับประทานเห็ดหอมในช่วงตั้งครรภ์หรือช่วงให้นมบุตร
- ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง เช่น โรคปลอกประสาทอักเสบ โรคลูปัส หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดหอม เพราะอาจกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากกว่าปกติ และอาจทำให้อาการของโรคกำเริบขึ้นได้
- ผู้ป่วยที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลสูงกว่าปกติ (Eosinophilia) ห้ามรับประทานเห็ดหอม เพราะอาจทำให้อาการของโรคแย่ลงกว่าเดิม
การเลือกซื้อและปรุงอาหาร
เห็ดหอมลักษณะที่ดีต้องมี : สีสด แห้งสนิท ดอกเห็ดใหญ่ บนดอกมีรอยปริแตกเป็นร่องลึก ลายขาวดำ
ในเรื่องของการปรุง : จะเข้ากันได้ดีกับเนื้อสัตว์ ในสูตรเครื่องยาจีนจะใส่เห็ดหอมเพื่อเสริมฤทธิ์ทางยาของเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ตัวเมีย อาหารที่นิยมปรุงด้วยเห็ดหอม เป็นอาหารประเภทผัด แกงจืด ตุ๋น โจ๊ก ข้อควรระวัง เห็ดหอมดูดซับความเค็มได้ดี จึงควรระวังการปรงรสด้วยเกลือ น้ำปลา หรือซอส
เห็ดหอมมีแบบเนื้อบางและหนา คนนิยมนำเห็ดหอมตากแห้งมาปรุงอาหาร เพราะได้กลิ่นหอมมากกว่าแบบสด ซึ่งก่อนปรุงต้องลวกในน้ำเดือดประมาณครึ่งชั่วโมง หรือแช่ในน้ำอุ่น 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อช่วยให้เนื้อเห็ดนุ่มขึ้น อีกทั้ง “น้ำแช่เห็ด” ยังเก็บเอาไปทำเป็นน้ำสต๊อกปรุงรสอาหารได้ด้วย นิยมนำมาปรุงอาหาร “เจ” เพราะเนื้อเหนียวนุ่มและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ใช้แทนเนื้อสัตว์ได้ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก พบแพทย์
#ACuisine #เอควิซีน #CherryKitCook #Recipes
อยากกิน อยากฟิน อยากทำ อย่าลืมติดตาม A Cuisine (เอควิซีน)
📌Website: https://cheewajit.com/healthy-food
📌Messenger : http://m.me/AcuisineTH
📌Instagram : www.instagram.com/acuisine.th/
📌Pinterest : www.pinterest.com/AcuisineTH/