แกงรสเข้มข้นเค็มหวานเปรี้ยวแบบฉบับคนภาคกลางถ้วยนี้ ใช้หยวกกล้วยมาแกงกับปลาช่อนย่าง โดยโขลกน้ำพริกแกงคั่วกับเนื้อปลาย่างมาละลายน้ำแกงให้ข้นและมีกลิ่นหอมเคี่ยวบักหยวกหล้วยจนนุ่มเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยเข้ากันดี
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เตรียม 20 นาที ปรุง 30 นาที
- หยวกกล้วยหั่นท่อนสั้นแช่น้ำ
- ปั่นเอาใยออกแล้ว 3 ถ้วย
- เนื้อปลาย่าง (ปลาช่อนหรือปลาเนื้ออ่อน) 1 ถ้วย
- หัวกะทิ ½; ถ้วย
- หางกะทิ 2½; ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับผัด
ส่วนผสมน้ำพริกแกงคั่ว
- พริกขี้หนูแห้งกรีดเอาเมล็ดออก
- แช่น้ำจนนิ่ม 4 เม็ด
- พริกแห้งเม็ดใหญ่
- กรีดเอาเมล็ดออกแช่น้ำ
- จนนิ่ม 8 เม็ด
- กระเทียมไทย 10 กลีบ
- หอมเล็ก 5 หัว
- ข่าซอย 2 ช้อนชา
- ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- กระชายซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนชา
- กะปิ 2 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. โขลกน้ำพริกแกงให้ละเอียดแล้วแบ่งเนื้อปลาย่างมา ¼; ถ้วย โขลกรวมกัน เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะ ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันเล็กน้อยให้มีกลิ่นหอมจากนั้นค่อย ๆ เติมหัวกะทิลงไปทีละน้อยจนหมด ผัดพอแตกมันใส่เนื้อปลาย่างที่เหลือลงไปเคี่ยวสักครู่ให้เนื้อปลานิ่ม เทส่วนผสมใส่หม้ออีกใบ ยกขึ้นตั้งไฟ เติมหางกะทิที่เหลือลงไป คนให้เข้ากัน พอเดือดใส่หยวกกล้วยลงไปแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลและน้ำมะขาม ชิมให้ออกรสเค็มหวานและเปรี้ยว พอเดือดอีกครั้งใส่ใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าลงไป คนพอเข้ากัน ปิดไฟยกลง ตักใส่จานเสิร์ฟ
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 610.00 กิโลแคลอรี
โปรตีน 28.86 กรัม ไขมัน 36.73 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 42.12 กรัม ไฟเบอร์ 4.62 กรัม
เรื่องและสูตร : เป็นเอก ทรัพย์สิน