สายสุขภาพห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะวันนี้เรามีสูตรเมนูสุขภาพ ที่ช่วยขจัดสารพิษที่ผิวหนังได้ นั่นก็คือเมนู Ginger Soup นั่นเอง ส่วนเมนู Ginger Soup จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ
Ginger Soup เมนูสุขภาพช่วยขจัดสารพิษที่ผิวหนัง “การขับเหงื่อ” เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สารพิษในระดับผิวหนังถูกขับออกไป ซึ่งหากคุณออกกำลังกายประจำอยู่แล้วก็ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ถ้าไม่ค่อยมีเวลา ลองปรุงซุปขิงอุ่น ๆ ถ้วยนี้รับประทานดู
เพราะ ขิง มีความเผ็ดร้อนในตัว นอกจากจะช่วยต้านหนาวในฤดูนี้ได้ดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมระบบการย่อยอาหารให้เป็นไปอย่างปกติ ขับลม และแก้วิงเวียนได้ดีทีเดียว ที่สำคัญ ยังช่วยขับเหงื่อเพื่อขจัดสารพิษที่ผิวหนังให้คุณได้ในแต่ละช้อนซุปอีกด้วย
ขั้นตอนการทำ Ginger Soup
ส่วนผสม Ginger Soup (สำหรับ 4 ที่) เตรียม 30 นาที ปรุง 45 นาที
- ขิงอ่อน ปอกเปลือกซอยบาง 3 ถ้วย
- มันฝรั่ง หั่นเต๋า 3 ถ้วย
- หอมหัวใหญ่สับ ½ ถ้วย
- ต้นหอมฝรั่งซอย 1 ถ้วย
- ไวน์ขาว ¼ ถ้วย
- วิปปิ้งครีมสด ½ ถ้วย
- น้ำสต๊อกไก่ 6 ถ้วย
- เกลือ 1½ ช้อนชา
- น้ำมันมะกอกสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
- หอยเชลล์สด กุ้งทะเลสด เนื้อปลาทะเลสดหั่นเป็นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย
- พริกไทยดำป่นเล็กน้อย
- ผักชีสำหรับตกแต่งเล็กน้อย
วิธีทำ Ginger Soup
1. อุ่นน้ำสต๊อกให้เดือด แล้วใส่เครื่องทะเลลงลวกจนสุก ตักขึ้นพักไว้
2. ผัดหัวหอมสับกับน้ำมันมะกอกด้วยไฟอ่อนจนสุกใส จึงใส่ ขิง ต้นหอม พริกไทย มันฝรั่ง ลงผัดสักครู่ เมื่อผักที่ผัดไว้เริ่มสุกนิ่มเติมไวน์ขาว เร่งไฟขึ้นผัดต่ออีกประมาณ 1 นาที เติมน้ำสต๊อกที่ได้จากข้อ 1 ลงไปลดไฟลงเป็นไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ต้มส่วนผสมจนมันฝรั่งนิ่ม ปิดไฟ พักให้เย็น
3. นำส่วนผสมข้อ 2 ที่เย็นแล้วใส่ลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนได้ซุปเนื้อละเอียดเนียนดีกรองผ่านกระชอน ใช้ทัพพียีส่วนผสมซุปให้ผ่านกระชอนลงไปมากที่สุด เทซุปที่ได้กลับใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลางให้ร้อนอีกครั้ง เมื่อส่วนผสมร้อนแล้วปิดไฟ เติมครีมสด คนพอเข้ากัน ตักซุปใส่ถ้วย แล้วใส่เครื่องทะเลที่ลวกไว้ลงไป โรยด้วยผักชี ก็จะได้Ginger Soup พร้อมเสิร์ฟค่ะ
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 320.13 กิโลแคลอรี
โปรตีน 18.73 กรัม ไขมัน 14.76 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 27.46 กรัม ไฟเบอร์ 6.47 กรัม
สูตร : ครัว H&C เรื่อง : สิทธิโชค ศรีโช ผู้ช่วยกองบรรณาธิการ : พิศุภางค์, สตรีรัตน์ ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก สไตล์ : กษมา แก้วจำนง ข้อมูลบทความเรื่อง “มะละกอสุกกับสุขภาพ” นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 360 เมษายน 2552
ประโยชน์ของ ขิง (Ginger)
♦ สรรพคุณทางยา
• ราก รสหวาน ขม เผ็ดร้อน ใช้แก้ไอ ขับเสมหะ แก้ลม แก้บิด และช่วยเจริญอาหาร
• เหง้า รสหวาน เผ็ดร้อน ใช้ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ บรรเทาอาการคลื่นไส้
• ต้น รสเผ็ดร้อน แก้จุกเสียด ขับลม แก้ท้องเสียและท้องร่วง
• ใบ รสเผ็ดร้อน แก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ และใช้ฆ่าพยาธิได้
• ดอก รสเผ็ดร้อน แก้ขัดปัสสาวะ และช่วยย่อยอาหาร
• ผล มีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำนม แก้คอแห้ง แก้อาการระคายคอ เจ็บคอ แก้ไข้
• แก่น มีสรรพคุณแก้คัน
♦ ประโยชน์ต่อสุขภาพ
ลดอาการท้องอืด
หากรู้สึกท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือกินขิงสดจะทำให้รู้ดีขึ้น เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และกระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้อาการท้องอืดบรรเทาลงได้
บรรเทาอาการไมเกรน
จากการศึกษาพบว่า การรับประทานขิงตอนที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดจากอาการไมเกรนลดลงได้ เพราะขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่น แสดงให้เห็นอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าผู้ที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีอาการลดลงเมื่อบริโภคขิงผงเป็นประจำทุกวัน
ช่วยป้องกันมะเร็ง
ขิงมีคุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการศึกษาพบว่าขิงช่วยทำให้เซลล์มะเร็งภายในรังไข่ตาย เพราะในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีขิงเป็นส่วนประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
บรรเทาอาการคลื่นไส้
โดยชาวเอเชียนั้นมักจะใช้ขิงในการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือ นอกจากนี้ยังมีหลายการศึกษาพบว่าขิงสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอาเจียนหลังจากการผ่าตัด และยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดได้อีกด้วย
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
มีการศึกษาใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานขิงร่วมกับยา เพราะขิงอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ และควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด เพราะหากรับประทานขิงมากเกินไปก็อาจจะทำให้ระดับอินซูลินลดลงมากเกินไปจนอยู่ในขีดอันตรายได้
เมื่อรู้สรรพคุณของขิง กันไปแล้ว ก็ควรเลือกรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมนะคะ แต่ถ้าเบื่อการรับประทานขิงแบบเดิมๆ ก็อย่าลืมนำสูตร Ginger Soup ที่นำมาแนะนำไปลองทำรับประทานกันดูค่ะ
ขอบคุณข้อมูล kapook