บิสคอตติ (Biscotti) เป็นภาษาอิตาลี มีความหมายว่าขนมปังกรอบ หรือสามารถเรียกได้ว่าเป็นคุกกี้เนื้อแข็งของคนอิตาลี เอกลักษณ์ของขนมชนิดนี้คือ วิธีการทำที่ต้องผ่านการอบสองครั้งมีการขึ้นรูปเป็นแท่งยาวแล้วนำไปอบครั้งหนึ่ง จากนั้นนำมาหั่นสไลซ์เฉียงคล้ายขนมปังกรอบแล้วอบอีกครั้งหนึ่ง โดยต้นตำรับคนอิตาลีจะจุ่มกินกับไวน์หรือแชมเปญ แต่คนอเมริกันกินกับกาแฟดำหรือเอสเปรสโซ ซึ่งแบบหลังกลายเป็นที่นิยมของคนทั่วไปในปัจจุบันมากกว่า
ส่วนผสม (สำหรับ 18 ที่) เตรียม 10 นาที ปรุง 1 ชั่วโมง 20 นาที
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 210 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ ⅛ ช้อนชา
- เนย (ที่อุณหภูมิห้อง) 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 105 กรัม
- ไข่ไก่เบอร์ 1 (ตีให้เข้ากัน) 2 ฟอง
- วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
- ลูกฟิกแห้งหั่นเต๋า 2 ลูก
- ถั่วพิสตาชิโออบ 25 กรัม
- น้ำตาลสำหรับโรยหน้าขนมเล็กน้อย
- แป้งสาลีอเนกประสงค์สำหรับทำแป้งนวล
วิธีทำ
1. เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ร่อนผงฟู เกลือ และแป้งเข้าด้วยกัน พักไว้
2. ตีเนยและน้ำตาลทรายประมาณ 2 นาทีจนขึ้นฟู ใส่ไข่ลงไป (โดยแบ่งไว้สำหรับทาหน้าขนมเล็กน้อย) และเติมวานิลลาสกัดจากนั้นใส่แป้งที่พักไว้ ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันแล้วจึงใส่ลูกฟิกกับถั่วพิสตาชิโอ
3. โรยแป้งสาลีอเนกประสงค์บนโต๊ะและที่มือ(เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวแป้งขนมติด) ปั้นส่วนผสมให้เป็นแท่งกลมยาวเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นิ้ว วางลงบนกระดาษรองอบ ใช้ฝ่ามือกดเบาๆให้แบนลงนิดหน่อย ทาหน้าขนมด้วยไข่แล้วโรยน้ำตาลให้ทั่ว นำเข้าเตาอบ 25 นาทีจากนั้นนำออกจากเตามาพักไว้ให้เย็นประมาณ 20 – 30 นาที เมื่อเย็นสนิทใช้มีดฟันเลื่อยสำหรับหั่นขนมปังหั่นเฉียงเป็นชิ้นๆหนาประมาณครึ่งนิ้ว
4. เรียงบิสคอตติที่หั่นแล้วลงบนตะแกรงรองด้วยถาดอบ แล้วอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสประมาณ 30 นาที จนมีสีเหลืองน้ำตาล นำออกจากเตาแล้วผึ่งไว้ให้เย็น เก็บในภาชนะสุญญากาศได้นาน 1 สัปดาห์
Tips
– ขณะใส่แป้งลงในส่วนผสม ควรคนพอเข้ากันเท่านั้น หากคนนานเกินไปจะทำให้เนื้อบิสคอตติแน่นและแข็ง
– ก่อนหั่นควรทิ้งให้บิสคอตติเย็นสนิทจะช่วยทำให้หั่นง่าย ไม่แตก
– ใช้ผลไม้อบแห้งชนิดอื่น เช่น แครนเบอร์รี่ ลูกเกดดำ หรือลูกพรุนแทนได้ตามชอบ
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 136.38 กิโลแคลอรี
โปรตีน 3.45 กรัม ไขมัน 5.00 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 20.19 กรัม ไฟเบอร์ 0.32 กรัม
สูตร : อุทัย ปุญญมันต์
ภาพ : อัศวิน นรินท์ชัยรังษี