บอกลาหุ่นตุ๊ต๊ะด้วย “ยำมะรุมมะตุ้ม”

โดย อ.วันทนี ธัญญา เจตนธรรมจักร ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทย

ฉบับที่ผ่านมา ดิฉันเล่าถึงวิธีป้องกันโรคอ้วนให้ห่างไกลคุณไปแล้ว ครานี้ได้ทีแนะนำหนทางบอกลาหุ่นตุ๊ต๊ะของคนที่ประสบกับปัญหาโรคอ้วนแล้วมาฝากค่ะ

สำหรับคนอ้วน ในความหมายทางการแพทย์ เราจะวัดจากดรรชนีมวลกายหรือที่เรียกว่าค่า BMI เป็นหลักค่ะ ซึ่งหากมีค่า 30 ขึ้นไปนี่ถือว่าอ้วนผิดปกติ ซึ่งผลพวงที่ตามมากับความอ้วนก็คือปัญหาสุขภาพ และที่หนักใจที่สุดคงหนีไม่พ้นประโยคที่ว่า “ลดยังไงก็ไม่น้ำหนักลงเสียที” จริงไหมคะ

ทว่าครานี้ดิฉันมีเทคนิคพิเศษในการจำกัดอาหารเพื่อลดน้ำหนักคุณ(ที่อ้วนแล้ว)มาฝากดังนี้ค่ะ

คอร์สลดอ้วนชวนให้สวย

สัปดาห์ 1-2  ให้คุณลดปริมาณอาหารลงครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะหมวดแป้ง ไขมัน และโปรตีน แล้วแทนที่ด้วยผัก และผลไม้ที่ไม่หวานจัด แต่ต้องรับประทานให้ครบ 5 หมู่นะคะ สังเกตอาการว่ามีหน้ามืดวิงเวียนหรือไม่ ถ้ามี ให้ยืดระยะเวลานี้เป็น 1 เดือน แต่ถ้าไม่มีปฏิบัติการต่อ

สัปดาห์ถัดไป ลดปริมาณอาหารจากเดิมลงอีกเหลือหนึ่งในสาม สามารถแทนส่วนที่ลดลงไปด้วยผักและผลไม้ที่ไม่หวานได้จนครบ 1 เดือน

สองเดือนถัดจากนั้น ให้รับประทานอาหารเหมือนเดือนก่อน แล้วเพิ่มการออกกำลังกายเพื่อเร่งการเผาผลาญ

สองเดือนสุดท้าย น้ำหนักคุณจะลดกลับมาใกล้เคียงน้ำหนักปกติแล้ว ให้ควบคุมปริมาณอาหารและเวลาในการออกกำลังกายตามเดิม เพื่อรักษาระดับน้ำหนัก

สุดท้าย สัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับไปอ้วนอีกแล้ว ครานี้ก็ไปเดินไปช็อปปิ้งซื้อหาเสื้อผ้าไซส์เล็กมาใส่อวดหุ่นสวยเพรียวได้เลย

ปล.ตลอดระยะเวลาการลดน้ำหนัก หากรู้สึกหิว ให้ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำผักผลไม้ที่ไม่ใส่เกลือและน้ำตาล เพราะน้ำตาลจะทำให้อ้วน ส่วนเกลือจะขับน้ำออกจากร่างกายทำให้อ่อนเพลียกว่าเดิม

หากคุณวินัยดีทำได้ตามที่บอก รับประกันว่าหุน่สวยไม่หนีไปไหนแน่นอนค่ะ ก่อนจบเรื่องอ้วน ๆ ดิฉันขอส่ง ยำมะรุมมะตุ้ม จานนี้ฝากไว้ให้คุณใช้รุมกำจัดไขมันด้วยค่ะ เพราะมะรุมมีเส้นใยอาหารสูง ช่วยให้ขับถ่ายได้ดี มีรสจืดรับประทานง่าย ส่วนเส้นบุก ก็มีสารกลูโคแมนแนน ช่วยควบคุมน้ำหนัก  ผักหวาน นอกจากปริมาณเส้นใยสูงแล้ว ยังมีรสมันช่วยบำรุงกระดูกและไขข้อซึ่งมักเกิดปัญหากับคนที่มีน้ำหนักเยอะได้

ฉบับถัดไปถึงคราของผู้ที่ประสบปัญหาความดันสูงฉุดไม่ลง แต่จะมีเคล็ดลับดูแลอาหารการกินอย่างไร ดิฉันขออุบไว้เฉลยฉบับหน้านะคะ

ทำใมยิ่งอ้วนยิ่งหิว ?

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะกระเพาะอาหารของคุณนั้นขยายตัวขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้ร่างกายหลั่งน้ำย่อยมาก จึงกระตุ้นให้คุณหิวบ่อย กินเก่ง นั่นเองค่ะ

ยำมะรุมมะตุ้ม

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

เตรียม 40 นาที ปรุง 10 นาที

มะรุมฝักอ่อนปอกเปลือกเอาแต่เนื้อหั่นเป็นท่อน              100         กรัม

สัปปะรดหั่นเต๋า                             3              ช้อนโต๊ะ

มะเขือเทศผลเล็ก(ผ่าครึ่งลูก)              8              ลูก

ผักหวานเด็ดเป็นช่อ                       60           กรัม

ตะไคร้ซอยฝอย                          1              ต้น

เส้นบุกลวกสุก                          50           กรัม

กุ้งแกะเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำทิ้งล้างสะอาดลวกสุก      5              ตัว

ไข่ไก่ต้มสุก                             1              ฟอง

พริกขี้หนูหั่นฝอย                       2              ช้อนชา

น้ำปลา                                 2              ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปึก                              1              ช้อนชา

น้ำมะนาว                               1 ½         ช้อนโต๊ะ

หอมแดงทอด                          1              ช้อนโต๊ะ

เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ

1.ต้มมะรุมในน้ำเดือดใส่เกลือเล็กน้อย  สุกแล้วตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำไว้  แล้วลวกผักหวานแล้วสงขึ้นใส่ในน้ำ  เย็นจัดเพื่อให้ผักหวานนั้นยังคงมีสีเขียวสด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำพักไว้

2.ผสมน้ำมะนาว  น้ำปลา  น้ำตาลลงในชามผสมคนให้เข้ากัน ใส่พริกขี้หนูลงไป  ใส่เส้นบุก  มะรุม  ตะไคร้ซอย  สัปปะรด  มะเขือเทศ  กุ้งลวก  ผักหวาน แล้วเคล้าอย่างเบามือ

3. ตักส่วนผสมในข้อสองใส่จานให้สวยงาม วางไข่ต้มเคียงด้านข้าง แล้วโรยด้วยหอมแดงทอดด้านบน รับประทานได้ทันที

หมายเหตุ  อาหารจานนี้สามารถรับประทานแทนอาหาร 1 มื้อได้ เพราะมีสารอาหารครบทุกหมู่  และอาจรับประทานร่วมกับชาดอกคำฝอย  เพื่อช่วยในการควบคุมไขมันในร่างกาย

ล้อมกรอบ

การคำนวนค่า BMI ทำได้โดย

น้ำหนักตัว (เป็นกิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เป็นเมตร) ยกกำลัง 2
ค่า BMI น้อยกว่า 24             = ปกติ
ค่า BMI ระหว่าง 24 – 30       = ท้วม
ค่า BMI มากกสว่า 30           = อ้วน

 พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 485.42 กิโลแคลอรี

โปรตีน 48.03 กรัม 

ไขมัน 8.57 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 52.36 กรัม 

ไฟเบอร์9.31 กรัม