พระนางสิริมหามายา

มารดาของนายเรือผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ อดีตพระชาติของ พระนางสิริมหามายา

มารดาของนายเรือผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ อดีตพระชาติของ พระนางสิริมหามายา

จะเผยเบื้องหลังกว่า พระนางสิริมหามายา จะได้เป็นพระพุทธมารดา เปลือยพระชาติแรกของพระนางที่เริ่มตั้งจิตอธิษฐานเป็นพระพุทธมารดา

 

วันเข้าพรรษาคือ…วันแม่ของพระพุทธศาสนา

ในวันไม่ช้าก็จถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันเข้าพรรษา พระสงฆ์ต้องดำเนินอยู่ในพระวินัย ไม่ออกไปไหน ต้องจำวัดอยู่ที่วัดนั้นเป็นเวลา 3 เดือน ที่มาของวันสำคัญนี้ก็ว่า พระสงฆ์เดินจาริกไปในที่ต่าง ๆ เดินลุกข้ามทุ่งก็เหยียบย่ำทำให้ข้าวของชาวนาเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติพระวินัยห้ามพระสงฆ์ออกไปไหนมาไหนไกล ๆ ในเป็นระยะเวลา 3 เดือน ส่วนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงขึ้นไปจำพรรษาบนเทวโลก เพื่อโปรดพระพุทธมารดา

พอถึงวันเข้าพรรษาทีไร สิ่งที่ผู้เขียนระลึกถึงจนซึ้งใจทุกทีคือ น้ำใจของแม่ สตรีผู้ตั้งปณิธานเป็นพระพุทธมารดา

 

พระนางสิริมหามายา

 

พระพุทธมารดา ตำแหน่งนี้ใหญ่หลวงนัก

พระพุทธมารดาหลังจากให้ประสูติพระโอรสแล้ว ต้องสิ้นพระชนม์ในอีก 7 วันต่อมาทันที พระโบราณาจารย์อธิบายว่า พระครรภ์นี้จะมีใครมาเกิดอีกไม่ได้นอกจากพระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติแล้ว พระพุทธมารดาต้องสิ้นพระชนม์ทันที ด้วยบุญแห่งการเป็นพระพุทธมารดาจึงส่งผลให้อุบัติเป็นเทวดาเสวยทิพยสมบัติบนสวรรค์ชั้นดุสิต

ผู้หญิงคนหนึ่งได้รับสิทธิพิเศษเหนือบรรดาแม่ทั้งหลาย ได้เกิดเป็นถึงพระพุทธมารดา แต่ไม่มีโอกาสได้ชมพระบารมีของพระโอรสในวันที่ประสบความสำเร็จ ด้วยความกตัญญูกตเวที พระพุทธองค์ถึงแม้จะทรงได้รับการเลี้ยงดูและน้ำนมจากพระถัน (เต้านม) จากพระน้านาง (พระนางปชาบดีโคตมี) ก็ตาม แต่ด้วยบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ หากไม่มีพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายา พระองค์จะอุบัติขึ้นบนโลก คงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง ดังนั้นจึงต้องทดแทนพระคุณในฐานะบุตร

 

พระนางสิริมหามายา

พระพุทธองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของการเป็นลูกกตัญญู

พระองค์จึงเสด็จจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพระพุทธมารดา ด้วยคำสอนที่พิเศษนานเป็นเวลา 3 เดือน จนได้คัมภีร์หนึ่งเรียกว่า “อภิธรรม” คัมภีร์นี้พระสงฆ์ใช้สวดในพิธีศพ หลังจากพระพุทธมารดาฟังพระอภิธรรม (ธรรมชั้นยอด หรือธรรมที่มากกว่าธรรม) จึงบรรลุเป็นพระโสดาบัน การเป็นพระโสดาบันของพระนางสิริมหามายาทำให้พระพุทธเจ้าทำหน้าที่ในฐานะบุตรลุล่วงแล้ว

 

คัมภีร์สัมภารวิบาก นายเรือจุดเริ่มต้นของการเป็นพระพุทธเจ้า

ทีนี่เข้ามาสู่ประเด็นที่จะเล่ากันดีกว่า ไหนไหนก็พูดถึงเรื่องของพระพุทธมารดา พระนางสิริมหามายามายาวเอาการณ์แล้ว ทำให้นึกถึงคัมภีร์พระพุทธศาสนาเรื่องหนึ่งที่ไม่เป็นที่แพร่หลายในชาวพุทธที่เป็นฆราวาสนัก คัมภีร์นี้มีชื่อว่า “สัมภารวิบาก” ฟังชื่อทีแรกก็ชวนให้น่ากลัวเชียว เพราะเราจะชินกับคำว่า สัมภาระ ในทางที่ลบ มองว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส เป็นเรื่องของการแบ่งรับเรื่องหนัก ๆ อันนี้คือการเข้าใจในศัพท์ภาษาไทยที่ปุถุชนเข้าใจ แต่ในทางพระก็คือคำว่า “สมภาร” ท่านสมภาร ซึ่งหมายถึงการสะสม วิบาก แปลว่า “ผล” ดังนั้นจึงแปลว่า “ผลแห่งการสะสม” คัมภีร์เรื่องนี้รวบรวมพระชาติต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้าไว้ ตั้งแต่พระชาติที่พระองค์มีจิตปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า จนกระทั่งพระชาติที่เป็นสุเมธดาบสได้รับพุทธพยากรณ์จากพระทีปังกรพุทธเจ้า เรื่องที่จะเล่าก็คือเรื่องแรกของคัมภีร์เรื่องนี้ล่ะ

 

พระนางสิริมหามายา

 

นายเรือผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ

ครั้งพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นชายยากเข็ญ (พระชาตินี้พระพุทธเจ้าเกิดเป็นคนจน) พ่อแม่ก็พูดจนเมื่อยปากอยากให้ลูกแต่งงานเสียที ลูกก็หัวดื้อไม่ยอมแต่งงาน เพราะอยากอยู่ดูแลพ่อแม่ไปตลอดชีวิตของตน ฟังแล้วชื่นใจเป็นลูกกตัญญูน่ายกย่อง วันหนึ่งพ่อจากไป พระโพธิสัตว์ต้องเลี้ยงดูแม่ที่แก่ชราลงทุกที จึงไปสมัครทำงานกับพ่อค้าสำเภาแล้วทำงานมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้รับเลือกเป็นนายเรือสำเภา พระโพธิสัตว์ต้องไปแดนไกล เป็นห่วงแม่จึงพาแม่ขึ้นเรือไปด้วย ไม่กี่วันเรือสำเภาเผชิญกับพายุจนอัปปาง พระโพธิสัตว์แหวกน้ำเอาชีวิตรอด แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนมีแม่มาด้วย จึงว่ายน้ำตามหาแม่ จนพบว่าแม่เกาะกระดานไม้ลอยอยู่ จึงเข้าไปประคองให้แม่เกาะที่หลังของตน แล้วพาว่ายข้ามมหาสมุทร

ท้าวมหาพรหมที่มีทิพยญาณอยู่เสวยทิพยวิมานมานงนานหลายกัลป์ เห็นพระพุทธเจ้าตรัสรู้มามากก็แปลกใจว่าทำไมสมัยนี้ถึงไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นบนโลก จึงเสด็จจากวิมานพรหมลงมายังโลกมนุษย์ พบนายเรือกำลังว่ายข้ามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ผิดวิสัยคนธรรมดา ซ้ำยังมีแม่เกาะมาด้วย ท้าวมหาพรหมจึงส่งกระแสจิตให้พระโพธิสัตว์บังเกิดจิตตั้งพระมหาปณิธานน้อมจิตปรารถนาพระโพธิญาณ

 

พระนางสิริมหามายา

 

เมื่อลูกอยากเป็น แม่ก็ขอติดตามช่วยเหลือลูกไปทุกชาติ

นายเรือกำลังแหวกว่ายอยู่นั้น บังเกิดจิตอยากช่วยสรรพสัตว์จึงเปล่งวาจาขึ้นว่า “เราตรัสรู้แล้ว เราก็อยากให้ผู้อื่นรู้ด้วย เราหลุดพ้นแล้ว ก็อยากให้ผู้อื่นหลุดพ้นด้วย เราข้ามได้แล้ว เราก็อยากให้ผู้อื่นข้ามได้ด้วย” เมื่อพระโพธิสัตว์เปล่งวาจาเป็นสัจอธิษฐานดังนี้ แม่ซึ่งเกาะอยู่ที่หลังได้ยิน ก็บังเกิดจิตโสมนัสยิ่ง จึงเปล่งวาจาหากบุตรชายปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐนำพาเวไนยสัตว์ไปสู่ฝั่ง เราก็ขอเป็นพระพุทธมารดา

หลังจากนั้นมาแม่ของนายเรือจึงเกิดเป็นมารดาของพระโพธิสัตว์มาหลายภพหลายชาติ จนกระทั่งพระชาติสุดท้ายเป็นพระนางสิริมหามายา

 

น้ำใจแม่สุดประเสริฐ ไม่ว่าแม่ของปุถุชนหรือพระพุทธมารดาย่อมรักและยินดีในการทำความดีของบุตรทุกกรณี

 

ที่มา : สัมภารวิบาก (ฉบับย่อ) ชื่อรอง กว่าจักเป็นพระพุทธเจ้า รวบรวมและเรียบเรียงโดย อาจารย์สุรพงค์ เทพสุธา

ภาพ : http://www.dhammajak.net

Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

แมรี่ อีตัน คุณแม่ใจถึง ลดน้ำหนัก 100 กิโล ภายใน 2 ปี

ลูกชายสุดยอดกตัญญู ยอมแต่งหญิงเพื่อแม่นานกว่า 20 ปี

แม่ชีร็อคสตาร์ เผยแผ่ศาสนาด้วยเสียงเพลง

5 ภิกษุณี ผู้ประเสริฐ แห่งพุทธกาล

ลิ้มรสความเงียบ เรื่องเล่าช่วงเข้าพรรษา – ปิยสีโลภิกขุ 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.