เบื้องหลังภาพความขี้เล่น เฮฮาของ แจ๊ค – เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ หรือที่ทุกคนรู้จักในนาม แจ๊ค แฟนฉัน มีธรรมะนำทางชีวิต
เขาเล่าย้อนไปถึงเรื่องราวชีวิตในอดีตว่า
“ผมเป็นลูกคนเดียว คุณพ่อเป็นทหาร คุณแม่เป็นแม่บ้าน ชีวิตผมไม่ต่างอะไรกับแจ๊คในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันที่กวน ๆ พูดจาหยาบคาย ใจร้อน และซนมาก ตอนผมอายุ 10 ขวบ ผมโดนรถชนเลือดออกเต็มหัว ผมคิดว่า ตัวเองคงตายแน่ๆ โชคดีที่คุณพ่อพาไปโรงพยาบาลทัน ผมต้องผ่าสมอง หลับไปสองวัน พอฟื้นขึ้นมาผมคิดได้ทันทีว่า ผมจะไม่ประมาท”
เมื่อมีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เขาพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยมีเป้าหมายคือ ต้องการเลี้ยงดูบิดามารดาให้มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย การบวชเป็นเรื่องหนึ่งที่เขาตั้งใจทำเพื่อทดแทนบุญคุณบุพการี แม้จะมีคำถามมาตลอดว่าคนที่บวชแล้วนิ่งขึ้นได้จริงหรือ แล้วเขาก็ได้พบคำตอบ
“พอได้ห่มผ้าเหลือง ผมตั้งใจปฏิบัติ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ตั้งใจศึกษาธรรมะเป็นเวลา 20 วัน เมื่อสึก ผมรู้สึกได้ว่า ผมนิ่งขึ้นได้จริง ๆ ใจเย็นขึ้น ความคิดเราโตขึ้น ไม่พูดอะไรแบบไร้สติ และเวลาทำงานก็มีสมาธิมากขึ้น
“เรื่องได้เรียนรู้อีกอย่างก็คือ ทุกอย่างผ่านมาเดี๋ยวก็ผ่านไป ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต มันก็ต้องเกิด เรามีหน้าที่แค่ไม่ประมาท ทำแต่เรื่องดี ๆ แล้วชีวิตของเราก็จะดี”
เมื่อมุมมองที่มีต่อธรรมะเปลี่ยนไป ทำให้แจ๊คต้องการบอกต่อเรื่องราวธรรมะแก่คนรุ่นใหม่
“บางคนที่ยังสนุกกับชีวิตอาจตั้งคำถามว่า ทำไมต้องไปสวดมนต์ นั่นเพราะคุณยังไม่มีศรัทธา และยังไม่ได้ศึกษาธรรมะ จนกว่าชีวิตคุณจะมีปัญหา คุณถึงเริ่มหันหน้าเข้าหาวัด ผมไม่อยากให้คุณทุกข์ก่อนแล้วค่อยคิดถึงพุทธศาสนา อยากให้ลองศึกษาปฏิบัติตั้งแต่ชีวิตยังปกติดีอยู่
“ธรรมะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรือน่าปวดหัว และไม่ใช่เรื่องของการให้โชคให้ลาภ ธรรมะคือเรื่องใกล้ตัวที่คุณนำมาใช้ในชีวิตได้จริง อย่างเช่นเรื่องของการมีสติ การเปลี่ยนอารมณ์จากร้อนเป็นเย็น การใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา
“ถ้าศาสนาพุทธไม่ดีจริงคงไม่อยู่มาหลายพันปีจนทุกวันนี้”
ที่มา : นิตยสาร Secret
เรื่อง : อุรัชษฎา ขุนขำ
ภาพ : วรวุฒิ วิชาธร, พีรพันธุ์ วิจิตรไกรวิน
บทความน่าสนใจ