ถอดรหัสจักรวาล พระปรางค์วัดอรุณ ราชวราราม
หลังจากท่องงานสมโภชพระอารามวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามไปแล้ว แอดก็ข้ามลำน้ำเจ้าพระยาจากฝั่งท่าเตียนที่ยักษ์ตีกัน มาฝั่งธนบุรีเพื่อเยี่ยมชมความงดงามของ พระปรางค์วัดอรุณ ในยามค่ำ งดงามไม่แพ้ตอนกลางวันเลยค่ะ
วัดอรุณราชวราราม วัดสำคัญสมัยกรุงธนบุรี แต่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเดิมชื่อว่า “วัดมะกอกนอก” ต่อมาพระเจ้าตากสินมหาราชกำลังเสด็จไปเมืองเพชรบุรีแล้วมาถึงวัดแห่งนี้ตอนรุ่งเช้า จึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดแจ้ง” บริเวณยังเป็นที่ตั้งของชุมชนหลายเชื้อชาติ เช่น ชุมชนจีน ชุมชนโปรตุเกส และชุมชนมุสลิม จึงปรากฏศาสนสถาน 3 ศาสนาขึ้นในบริเวณนี้
พระมหาธาตุประจำพระนคร
หลังจากสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภา รัชกาลที่ 2 ทรงมีพระราชดำริว่า กรุงรัตนโกสินทร์ยังไม่มีพระมหาธาตุสูงใหญ่สำหรับพระนคร จึงโปรดฯ ให้สร้างเสริมพระปรางค์องค์เก่าแก่ขึ้นในวัดแจ้งที่สูงเพียง 8 วา ให้สูงใหญ่กว่าเดิม และพระราชทานนามวัดแจ้งเป็น “วัดอรุณราชธาราม” แล้วโปรดฯให้กรมหมื่นเจษฏาบดินทร์ (รัชกาลที่ 3) เป็นแม่กองควบคุมการก่อสร้าง ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่ไม่ทันจะจัดพิธีฉลองพระปรางค์องค์ใหม่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสิ้นพระชนม์เสียก่อน จึงจัดพิธีฉลองพระปรางค์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4
พระปรางค์วัดอรุณมีความสำคัญในฐานะพระมหาธาตุแห่งพระนคร ซึ่งต่อเติมพระธาตุให้สูงใหญ่ขึ้นจากพระปรางค์องค์เก่า โดยพระปรางค์ประธานมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายแหจับปลาที่ห้อยลงมา จึงเรียกว่า “พระปรางค์ทรงจอมแห”
พระจุฬามณีบนผืนพิภพ
การวางผังของพระปรางค์วัดอรุณรวมไปถึงการตกแต่งด้วยประติมากรรมต่าง ๆ ที่อยู่รายรอบ แสดงให้เห็นว่ามีความสอดคล้องที่พอจะเป็นไปได้ว่า เป็นการจำลองพระจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังพื้นพิภพ
พระจุฬามณีเจดีย์ คือ พระเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ อันเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตามคติพระพุทธศาสนา
สิ่งที่สังเกตได้คือ ประติมากรรมตกแต่ง ได้แก่ รูปยักษ์แบก ที่ประดับอยู่รอบฐานพระปรางค์ มีความหมายถึง เขาตรีกูฏบรรพต อันเป็นที่อาศัยของอสูร ลิงแบก หมายถึงพิภพของมนุษย์ และเทวดาแบก หมายถึง แดนสวรรค์ รวมไปถึงรูปปั้นของกินรีและกินนร บ่งบอกถึง ป่าหิมพานต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแดนสวรรค์
รูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณอยู่ที่เรือนธาตุ หมายถึง ปราสาทเวชชยันต์ วิมานที่สถิตของพระอินทร์ หรือ ท้าวสักกะเทวราช สะท้อนให้เห็นถึงคติความเชื่อเรื่องพระอินทร์ ซึ่งมีอิทธิพลมากในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และยังสร้างขึ้นเพื่อให้พระอินทร์เป็นเทวดาผู้ปกปักษ์รักษาพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานภายในพระปรางค์
พระปรางค์บริวาร 4 องค์ เป็นการจำลองคติเรื่อง ทวีป 4 ในคติของพระพุทธศาสนา ส่วนเทวดาทรงม้าที่ปรากฏในเรือนธาตุมีความหมายถึง พระพาย เทพเจ้าแห่งลม หรือไม่ก็พระจักรพรรดิราชทรงม้าแก้ว
ส่วนมณฑป 4 องค์ หมายถึงท้าวจตุโลกบาล เจ้าสวรรค์ชั้นจาตุงมหาราชิกา ทั้งยังเป็นเทวดาประจำทิศทั้ง 4 ที่พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา ในบริเวณนั้นจึงมีการตกแต่งด้วยสัตว์ในป่าหิมพานต์ เช่น กินรี เพราะป่าหิมพานต์เป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์ชั้นจาตุงมหาราชิกา ฐานของพระปรางค์จึงประดับตกแต่งด้วยดอกไม้จากเศษกระเบื้องจีนอย่างงดงาม ให้คล้ายกับดอกไม้สวรรค์ในป่าหิมพานต์
เมื่อพิจารณาตามข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงให้ถึงความตั้งใจของผู้สร้าง ที่จำลองจักรวาลในคติพระพุทธศาสนาลงมาไว้บนโลกมนุษย์ เช่น การอธิบายภพภูมิต่าง ๆ ด้วยสัญลักษณ์ผ่านประติมากรรม อธิบายระดับชั้นของพระปรางค์ด้วยคติภพภูมิจากนรกภูมิไปถึงสวรรคภูมิ คติเรื่องทวีป 4 พระจักรพรรดิราช สวรรค์ชั้นจาตุงมหาราชิกา ป่าหิมพานต์ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และพระจุฬามณีเจดีย์
สำหรับคนชอบชิว หลังเลิกงานหรือวันหยุดก็ได้ ลองข้ามเรือมาเที่ยวชมพระปรางค์วัดอรุณตอนค่ำ ๆ ชมความงามของแสงไฟที่กระทบพระปรางค์ กับบรรยากาศลมเย็น ๆ สบาย ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ไม่เลวเลยค่ะ เรือข้ามฝั่งหมดตอน 20.00 น. แถมคนไม่เยอะเหมือนตอนกลางวัน แต่จะเข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถและพระวิหารไม่ได้นะคะเพราะปิดแล้ว
ที่มา : 5 มหาเจดีย์สยาม โดย ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร
ภาพ : วัดอรุณราชวราราม
บทความน่าสนใจ
ซีเคร็ตรีวิว งานสมโภชพระอาราม 230 ปี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
“ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ” วัดต้นแบบแห่งความพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9
ท่านพุทธทาสภิกขุสอนเรื่องครอบครัวในแง่มุมที่คิดไม่ถึงสำหรับ คนเกลียดวัด