“It’s Brryan not Brian.”
Brryan J.R. Jackson (บรายอัน จูเนียร์ แจ็คสัน) กล่าวย้ำถึงความตั้งใจที่จะสะกดชื่อตัวเองให้แตกต่างจากชื่อของ Brian Stewart (ไบรอัน สจ๊วร์ต) ผู้ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ แต่กลับนำเลือดที่มีเชื้อเอชไอวีปนอยู่ ฉีดเข้าสู่ร่างกายของเขาตั้งแต่อายุเพียง 11 เดือน โดยหวังจะให้เขาตาย ตัวเองจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูภายหลังจากที่หย่าขาดกับแม่ของเขาแล้ว…
จากเด็กที่เคยร่าเริงและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ บรายอันในวัย 5 ขวบกลับเป็นเด็กอ่อนแอและหงอยเหงาเศร้าซึม ผลจากการได้รับเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ยังเป็นทารกทำให้เขาเป็นเอดส์ชนิดเต็มขั้นและมีไข้ตลอดเวลา เขาต้องกินยากว่า 23 ชนิด ฉีดยาวันละสามครั้ง และพกอุปกรณ์สำหรับให้ยาทางหลอดเลือดดำถึง 2 ชุด แถมฤทธิ์ยายังทำให้ประสาทการได้ยินของเขาถูกทำลายไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ความทรงจำในช่วงวัยรุ่นของบรายอันมีแต่ภาพของความเงียบเหงาไร้เพื่อน หนำซ้ำยังถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมกีฬาในโรงเรียนและงานเลี้ยงวันเกิดจนเขาถึงกับเคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่สิ่งที่รั้งเขาไว้ได้ทุกครั้งคือ “ความศรัทธาในศาสนา” และ “ความหวัง”
“ผมมีมีดสามเล่มวางอยู่ตรงหน้าและเอาแต่คิดว่าทำไมต้องเป็นผม…ทำไม แต่ทันใดนั้นก็คิดได้ว่า ผมยังมีความหวัง มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณมีอะไร แต่มันขึ้นอยู่กับว่า คุณจะให้อะไรใครได้บ้าง”
เดิมทีแพทย์เคยวินิจฉัยว่า บรายอันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 5 เดือน (ปกติเคสแบบเขามักอยู่ได้ไม่เกิน 4 เดือนเท่านั้น) แต่เวลานี้เขามีชีวิตอยู่ต่อมาอีกถึง 24 ปี เป็นชายหนุ่มวัย 29 ปีที่มีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งไปกว่าคือ ผลตรวจสุขภาพล่าสุดแสดงให้เห็นว่า จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเขามีเพิ่มขึ้น ในขณะที่แพทย์ไม่พบเชื้อเอชไอวีในเลือดของบรายอันอีกเลย
เมื่อปัญหาสุขภาพไม่ได้เป็นอุปสรรคของชีวิตอีกต่อไป บรายอันจึงอาสาเป็นพี่เลี้ยงในโครงการค่ายฤดูร้อนสำหรับเด็กที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรง ชื่อ Kindle โดยเขาทำหน้าที่ให้กำลังใจและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์ ขณะเดียวกันเขาก็ทำตามความฝันของเขาในการเป็นนักการเมือง โดยเข้าศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พร้อมกับสานต่อความหวังของตัวเอง โดยการก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ชื่อว่า “Hope Is Vital” (ความหวังคือสิ่งจำเป็นในชีวิต) หรือ HIV เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่เชื้อเอชไอวี ขจัดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเอดส์ และช่วยให้ผู้ป่วยก้าวผ่านวิกฤติในชีวิตเช่นเดียวกับที่เขาเคยประสบมา
“ผมหวังว่าผมจะสามารถทำลายกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างไวรัสเอชไอวีในความคิดของผู้คนกับความจริงลงได้”
เมื่อมีคนถามถึงความโกรธแค้นในตัวพ่อบังเกิดเกล้า ซึ่งขณะนี้กำลังรับโทษจำคุกในความผิดฐานทำร้ายร่างกายบรายอันโดยเจตนา เขาตอบว่า “ผมให้อภัยเขาแล้ว พระเจ้าต้องการให้เราให้อภัยเพื่อนมนุษย์” นอกจากนี้เขายังภาวนาให้พ่อของเขาหลุดพ้นจากบาปในครั้งนี้ด้วย เขาตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่เป็นแบบพ่อ แต่จะต้องเป็นคนที่ดีกว่า
ทุกวันที่ 1 ธันวาคมซึ่งเป็นวันเอดส์โลก บรายอันมักได้รับเชิญไปบอกเล่าเรื่องราวความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับโรคเอดส์ตามสถานศึกษาและโบสถ์ในเมืองเซนต์ลูอิส
“ถึงผมจะไม่ได้ยิน ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่มีเสียง พระเจ้ามอบเสียงที่แข็งแรงให้กับผม เพื่อผมจะได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้”
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง Barefoot
ภาพ Brryan Jackson,
บทความน่าสนใจ
อานิ โลแซง ดอลมา จากดาราสาวสวยชื่อดังสู่ชีวิตภิกษุณีที่แสนสงบ