ชาวพุทธดีใจ พระพรหมสิทธิ พ้นข้อกล่าวหา
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ดร.โฆสิต สุวินิจจิต ตัวแทนคณะศิษย์ พระพรหมสิทธิ ได้ชี้แจงกรณีพระพรหมสิทธิไม่ทุจริตคดีฟอกเงินว่า “ ศาลตัดสินคดีฟอกเงินพระพรหมสิทธิกับอีก 3 พระเถระวัดสระเกศ ไม่พบการทุจริตใด ๆ แต่ผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีต่อเนื่องจากคดีที่แล้ว เหตุเชื่อว่ามีส่วนร่วมทำให้ข้าราชการสำนักพุทธฯ ทำผิดระเบียบราชการแต่ไม่ทุจริตผิด ม.157 ศาลจึงตัดสินจำคุกพระพรหมสิทธิ 4 ปี16 เดือน ปรับ 112,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี โดยผู้พิพากษาแถลงสาเหตุให้รอลงอาญา 2 ปี สรุปได้ดังนี้
- งบประมาณในคดีนี้ได้ใช้ไปเพื่อประโยชน์ของชาติและสังคม โดยที่ไม่มีเถยจิตใด ๆ รัฐไม่เสียหาย
- เป็นพระที่บวชตั้งแต่สามเณร จนถึงเป็นพระราชาคณะชั้นรองสมเด็จฯ ไม่เคยผิดธรรมวินัย ด่างพร้อยใด ๆ ไม่เคยต้องคดีใด ๆ
- มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศอารามหลวง เป็นเจ้าคณะภาค10 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ได้ทำงานรับใช้พระพุทธศาสนา เป็นประโยชน์ต่อสังคมและพุทธศาสนามาตลอด
- ไม่มีประโยชน์ที่จะกักขังไว้ ควรให้ไปทำงานเพื่อพุทธศาสนา เพราะเป็นบุคลากรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ”
ดร.โฆสิต สุวินิจจิตอธิบายเพิ่มเติมเรื่องกรณีไม่ทุจริตแต่ผิดกฎหมายว่า ทุจริตตามกฎหมายอาญา มาตรา 1 หมายถึงการทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ เช่น โกงเงิน คอรัปชั่น ฯลฯ ส่วนการผิดกฎหมายที่ไม่ได้ทุจริตมีมากมาย เช่น ข้าราชการทำผิดระเบียบการเบิกจ่ายตามมาตรา157 แต่ไม่ได้โกงเงินหลวง รัฐไม่ได้เสียหายแต่ยังถือว่ามีความผิด เช่น คดีวัดสระเกศที่ข้าราชการสำนักพุทธฯ ถูกศาลลงโทษจำคุกโดยไม่ได้ทุจริตนี้ เป็นต้น หรือขับรถฝ่าไฟแดงก็ผิดกฎหมายแต่ไม่ได้ทุจริต
พระพรหมสิทธิมีความรู้สึกอย่างไรกับคำตัดสินทั้ง 2 คดี และจะอุทธรณ์หรือไม่ ?
ท่านรู้สึกดีใจและโล่งใจที่ตัดสินว่าท่านบริสุทธิ์ไม่ได้ทุจริตใด ๆ เพราะถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงต้องอาบัติปาราชิก ท่านก็พอทำใจได้เพราะไม่เป็นโทษที่ผิดธรรมวินัยใด ๆ ถือว่าเป็นวิบากกรรมในหลักศาสนาพุทธและตลอดมาท่านเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของท่าน ว่าท่านไม่ได้ประพฤติผิดใด ๆ ตลอดชีวิตในเพศบรรพชิตได้ทุ่มเททำงานให้กับพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ เช่น การได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคมให้บริหารการเผยแผ่ศาสนาพุทธในต่างประเทศ ท่านก็มีผลงานโดดเด่นเป็นประจักษ์ ได้ขยายงานสงฆ์ไทยไปทั่วโลก ได้รับรางวัลมากมายจากนานาประเทศ
ส่วนถามว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ อย่างไร ?
เรื่องนี้อยู่ระหว่างที่คณะศิษย์และทนายกำลังเตรียมการอยู่ แต่คงต้องรอดูทางอัยการด้วยว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ท่านเห็นว่าเรื่องที่ถูกตัดสินรอลงอาญา 2 ปีทั้ง 2 คดี เพราะมีส่วนร่วมนั้นไม่ได้ผิดทางพระธรรมวินัยใด ๆ ท่านไม่ติดใจถือว่าเป็นวิบากกรรม
ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ท่านไม่โกรธแค้นเคืองผู้ใด มีแต่เสียใจกลัวว่าจะเป็นเหตุให้ศาสนาพุทธมัวหมอง ชาวพุทธทั่วโลกจะขาดศรัทธาในพระเถระผู้ใหญ่ของสงฆ์ไทย ท่านอยากจะยุติและอโหสิกรรมกับทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีนี้ ท่านย้ำว่าเป็นวิบากกรรม ไม่อยากจะอุทธรณ์ ก็คงต้องรอดูว่า ฝ่ายอัยการจะอุทธรณ์หรือไม่ ถ้าฝ่ายอัยการอุทธรณ์ คงจำเป็นต้องอุทธรณ์ตามสิทธิ์
คดีนี้น่าจะเป็นตัวอย่างแก่ทั้งพระและฆราวาส ให้มีความระมัดระวังในเรื่องเงินทอง ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด รวมทั้งตรวจสอบที่มาของเงินให้ชัดเจน เพราะแม้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากพลาดข้อใดข้อหนึ่ง ก็อาจเจอความผิดฐานฟอกเงินได้
ที่มา :
ภาพ :
บทความน่าสนใจ
ภูเขาทอง สวรรค์ใกล้เกาะรัตนโกสินทร์
กินเที่ยว งานวัดภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร แบบจุกๆ 10 วัน 10 คืน – A Cuisine