จ.เลยตั้ง “ธนาคารข้าว ธนาคารความดี” ข้าวสารแลกการทำความดีในชุมชน
เพจเฟซบุ๊กสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย ได้โพสต์เรื่องราวโครงการ”ธนาคารข้าว ธนาคารความดี“ของ ชุมชนเลิงใหญ่มั่นคง ในจังหวัดเลย ที่ให้สมาชิกยืมข้าวไปหุงกินช่วงลำบากเพราะโควิด-19 แล้วให้ทำ”ความดี”ใช้คืน และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ร่วมสนับสนุนโครงการดี ๆ นี้ โดยระบุข้อความว่า
พ่อเมืองเลย ร่วมตั้งธนาคารข้าว ธนาคารความดี ใช้คืนเงินต้น ด้วย “การทำความดี” ใช้คืนกำไร ด้วย “การรักษาสุขภาพ”
เมื่อเย็นวันที่ 22 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา หลังเลิกงาน (17.30 น.)
ผู้ว่าฯ เลย ปั่นจักยานคู่ใจ ด้วยชุดกีฬา ลงพื้นที่เยี่ยมยามพี่น้องประชาชน ก่อนออกกำลังกายประจำวัน ที่ชุมชนเลิงใหญ่มั่นคง ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย
ช่วงนี้ ก็จะเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเลยหลาย ๆ อย่าง ทั้งไม่มีกิน ไม่มีเงินซื้อข้าวปลาอาหาร ลำบากในการประกอบอาชีพ แต่ก็มีภาพประทับใจอยู่ตลอดเวลา ชื่นชมคนเมืองเลย เป็นสู้งาน หนักเอา เบาสู้ เป็นคนดี ยิ้มแย้มแจ่มใส พยายามพึ่งพาตนเองเป็นหลัก
ก่อนหน้าที่จะลงพื้นที่ก็ได้รับทราบถึงกิจกรรมดี ๆ ของชุมชน/หมู่บ้าน ชุมชนเลิงใหญ่มั่นคง ซึ่งได้จัดตั้งธนาคารข้าว เพื่อให้พี่น้องประชาชนยืมไปหุง บรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และทราบว่าพี่น้องในชุมชนนี้เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ สมัครสมานสามัคคี จิตอาสาช่วยเหลือกิจกรรมสาธารณะ และมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันมาก
ผู้ว่าฯ เลย (ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม) อดไม่ได้ที่จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษา รองผู้ว่าฯ (นายโสภณ สุวรรณรัตน์, นายชนาส ชัชวาลวงศ์ และนายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ในนามกลุ่ม “ฮักเลย…ก๋อ” เพื่อพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ โดยมีมติร่วมกันที่จะนำข้าวสารที่มีอยู่จากผู้ใจดีมอบให้ทางจังหวัดเลยและเหล่ากาชาดจังหวัดเลยไปร่วมโครงการ โดยใช้ชื่อว่า “ธนาคารข้าว ธนาคารความดี” โครงการ “ทำดีแลกข้าว” โดยมีเงื่อนไขการส่งคืนที่ยอดเยี่ยม คือ ให้คืนเงินต้น ด้วย “การทำความดี” ใช้คืนกำไร ด้วย “การรักษาสุขภาพ” พร้อมกับได้มอบเกียรติบัตรให้ประธานชุมชน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็งต่อไป
นี่แหละครับ “รัฐ ราษฎร์ ร่วมใจ” ประชาชนคนไทยเลยเป็นสุข
สาธุ สาธุ สาธุ เพราะต้นทุนความดีของพี่น้อง “ชุมชนเลิงใหญ่มั่นคง” ที่มี นายพลกฤต เกษมสุข เป็นหัวเรือใหญ่ ดำรงตำแหน่งประธานชุมชน ได้นำพาชุมชนสร้างความรัก ความสามัคคี มีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้ง ทำความดีอยู่ที่ไหน พ่อบ้านพ่อเมืองเขาก็เห็น ขอให้มี ชุมชน/หมู่บ้าน ดังตัวอย่างนี้เยอะ ๆ แล้วแจ้งมานะครับ ผู้ว่าฯ จะได้ลงไปเยี่ยมยาม ถามไถ่ ใส่ใจดูแลกันต่อไป
“คนเลยไม่ทิ้งกัน เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
#ความดี_แลกใจผู้ว่าฯ_เลยพ่อเมืองเลย ร่วมตั้งธนาคารข้าว ธนาคารความดี ใช้คืนเงินต้น ด้วย “การทำความดี” ใช้คืนกำไร ด้วย…
Posted by สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย กรมประชาสัมพันธ์ on Monday, May 25, 2020
นายพลกฤต เกษมสุข ประธานชุมชนบ้านเลิงใหญ่มั่นคง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า โครงการนี้เป็นการนำร่องของท่านผู้ว่าฯ ก่อนนี้ ท่านได้ปั่นจักรยานมา เพื่อมาเยี่ยมและได้เห็นความเดือดร้อน จากนั้นท่านก็เลยสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ในชุมชน ท่านบอกว่าเราจะทำอย่างไรกันดีเพื่อจะได้ข้าวสารมา จากนั้นท่านก็เสนอว่ามีข้าวอยู่แล้วเราจะจัดโครงการอย่างไรเพื่อจะทำการแลกข้าว จากนั้นชุมชนก็มีการคุยกันว่าจะทำโครงการแลกข้าว เพราะว่าจะได้ฝึกให้ชุมชนได้รู้จักความรับผิดชอบและก็ทำความดีร่วมกันเพื่อจะใช้เป็นประโยชน์ในภายภาคหน้า ท่านผู้ว่าฯ ก็สนับสนุนโครงการนี้มาและมีการให้ทดลอง โดยมอบข้าวสารให้และรวบรวมชาวบ้านที่มีความรู้ความสามารถในชุมชนมาร่วมกันทำบัญชีจัดการข้าวสารที่ได้มา
นายพลกฤต ยังบอกต่ออีกว่า หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่มีรายได้น้อย หมู่บ้านนี้เกิดมาตั้งแต่ปี 2551 และหยุดไปช่วงหนึ่ง ต่อมามีโครงการมาเริ่มทำใหม่ในปี 2558 ในหมู่บ้านมี 70 หลังคาเรือน มีประชากรทั้งหมด 127 คน พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ 4งาน 36 ตารางวา ในช่วงนี้เราก็พยายามนำศาสตร์ของพระราชาในรัชกาลที่ 9 มาใช้ ซึ่งตอนนี้เริ่มจากการทำธนาคารน้ำใต้ดินและอีกโครงการหนึ่งคือโครงการธนาคารข้าว ซึ่งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุน จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยทางท่านผู้ว่าจะให้ข้าวสารเพื่อมานำร่องโดยการนำข้าวสารมาทดลองประมาณหนึ่งเดือน
นางจิตลัดดา ทาศรี ชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านบอกว่า ตนได้ข้าวสารวันละ 2 กิโลกรัม ครอบครัวมีทั้งหมด 4 คน ข้าวสาร 2 กิโลกรัมได้จากการทำความดี เช่นการออกกำลังกาย การเก็บขยะ และทำความสะอาดบ้าน อะไรก็ได้ที่ทำเพื่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน กวาดถนนในหมู่บ้าน ทำหน้าบ้านเราให้สะอาด หากไม่ทำดีก็ไม่ได้ข้าวสารไปกิน
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด ตนได้เดินทางด้วยการปั่นจักรยานมาบริเวณนี้ มาเยี่ยมพี่น้องที่บ้านมั่นคง ก็เลยถามพี่น้องว่า หมู่บ้านนี้ทำมาหากินอะไร ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า มีหลากหลายอย่าง ตั้งแต่รับจ้างขายของ ทำงานในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีการปิดสถานที่ทำงาน และสอบถามว่ามีการกินอยู่อย่างไร ได้คำตอบว่าซื้อข้าวกินเนื่องจากไม่มีไร่นา เพราะเป็นคนที่อยู่ในชุมชนเมือง ก็เลยสอบถามว่าหากเอาข้าวสารมาให้ ท่านประธานหมู่บ้านมีความคิดเห็นอย่างไร ประธานชุมชนก็เลยไปประชุมกับพี่น้องลูกบ้านว่าจะทำธนาคารกัน จากนั้นมีการแลก LINE กับผม เพื่อจะติดต่อ เมื่อผ่านไปหนึ่งวัน ทางประธานก็ได้นำสมุดบัญชีตัวอย่าง และทำกิจกรรมขึ้นมา ผมก็ชอบใจที่พี่น้องประชาชนคิดเรื่องทำความดี มีผู้นำชุมชนและคณะกรรมการมาบริหารในโครงการนี้ บริหารโดยความจำเป็นของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เช่นพี่น้องประชาชนอยู่สองคนกินข้าวเท่าไร ก็มารับเท่านั้น ใครที่กินข้าวชนิดไหนก็มารับให้ตรง เช่นกินข้าวเจ้า กินข้าวเหนียว พอรับไปเสร็จพี่น้องประชาชนก็มาทำความดี มีการส่งดอกส่งต้น เช่นกวาดถนนทำความสะอาด ถนนหนทาง ตัดหญ้าข้างถนน เป็นการส่งดอกส่งต้น ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความรักความสามัคคีในหมู่คณะ จะเริ่มต้นทำที่ 1 เดือนเพื่อให้พ้นช่วงโควิด -19 จากนั้นจะได้ชวนชาวบ้านทำกันเป็นระยะยาว สุดแท้แต่พี่น้องประชาชนว่าจะร่วมมือกันทำอย่างไร แต่ให้พ้นช่วงโควิดไปก่อน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีแรงในการต่อสู้ นี่คือความเป็นมาของธนาคารข้าวและธนาคารความดี
ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊กสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย , บ้านเมือง
บทความน่าสนใจ
ไอเดียเยี่ยม! ผู้ว่าฯเลยเข้าโรงรับจำนำไถ่ถอนเครื่องมือทำกินให้ชาวบ้าน
ไกลแค่ไหนก็ไป คุณครู รร.ล่องแพวิทยา จัดส่งอาหารสิ่งของจำเป็นถึงบ้านนักเรียน
หนุ่มฝรั่งเศสกลับประเทศไม่ได้ อยู่ช่วยภรรยาชาวไทยทำเกษตรผสมผสาน
“ตูน บอดี้สแลม” นำทีมมอบเงิน 1 ล้านบาทเข้าโครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม”
ไม่มีงานแสดงช่วงโควิด “พระเอกลิเก” เปิดร้านขายส้มตำเลี้ยงชีพ