เล่นสงกรานต์อย่างไร เย็นทั้งกาย สบายทั้งใจ รวมข้อคาใจใน วันสงกรานต์
อีกไม่กี่วันจะถึง วันสงกรานต์ แล้ว Secret จึงขออินเทรนด์ตามกระแสกับเขาบ้าง เพราะปัจจุบันนี้ แก่นแท้ของประเพณีสงกรานต์ออกจะเลือน
ๆ ไปมาก จากที่เมื่อก่อนเคยสรงน้ําพระรดน้ําดําหัวผู้ใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า บางแห่งฉลองสงกรานต์ด้วยการสาดน้ําใส่กันโครม ๆ บางครั้งก็มีโชว์โคโยตี้นุ่งน้อยห่มน้อย แถมด้วยออปชั่นลวนลามถึงเนื้อถึงตัว ให้ผู้หญิงหมดสนุก เอ…แล้วแบบนี้ สงกรานต์จริง ๆ แล้วเราควรทําอะไรกันแน่หนอ
พระอาจารย์คะจริง ๆ แล้ว สงกรานต์เราควรทําอะไรคะ
ไทยเป็นวันที่ควรจะเริ่มต้น ในสิ่งที่ดีงาม และถือเป็นวันครอบครัว วันรวมญาติ ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้มาพบ คุณพ่อ คุณแม่
จึงเป็นโอกาสดีที่ทุกคนมารดน้ําดําหัวเพื่อขอโทษขอขมา ซึ่งกันและกันโดยใช้น้ําเป็นสัญลักษณ์ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ให้อภัยให้ศีลให้พร
ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่กัน และกันความสุขก็เกิดขึ้นครอบครัวก็เป็น ปึกแผ่น
วันสงกรานต์ถือเป็นโอกาสที่เราจะทําหน้าที่ต่อครอบครัว เช่น ลูกควรกราบเท้า คุณพ่อ คุณแม่ ถึงแม้บางคนจะรู้สึกว่า
คุณพ่อคุณแม่ไม่น่ากราบก็ตามเราก็ควร ทําหน้าที่ของเราในสถานะของลูกให้ดีก่อนเพราะเป็นหน้าที่ที่มีอยู่ และเป็นสิ่งที่สวยงามน่ารัก
ใครไม่ทําหน้าที่ของใครก็ไม่เป็นไร แต่เราจะไม่ละเลยหน้าที่ของเรา ถึงแม้ ฝ่ายหนึ่งจะบกพร่องผิดพลาด เราก็ต้องให้ อภัยท่านหรือคุณพ่อคุณแม่ เมื่อรู้ว่าทําหน้าที่ได้ไม่ดี อาจจะมีการขอโทษลูกด้วยก็ได้ โดยอาจถือโอกาสใช้พิธีรดน้ําดําหัวนี้ ขอโทษลูกที่ดูแลลูกได้ไม่เต็มที่…มีน้ําก็ใช้น้ํา ขอโทษกันไป ลูกก็พยายามทําความเข้าใจท่าน ขอขมาท่าน และขอบคุณท่านด้วย
แล้วทําไมวันสงกรานต์ ถึงต้องสาดน้ําใส่กันด้วยล่ะคะ
สมัยก่อนไม่ได้ใช้สาดหรอก ใช้วิธีรดน้ํากัน เดือนเมษาเป็นหน้าร้อน น้ําเป็นสัญลักษณ์ของความเย็น ความใสสะอาด ใช้ชําระล้างสิ่งที่ไม่ดี
เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการเหมือนกับธรรมะ
ธรรมะเปรียบเสมือนน้ํา สิ่งเปื้อน ๆ ที่อยู่ในใจ ความทุกข์ ความเศร้าหมอง ความกังวลทั้งหลายถูกชําระได้โดยธรรมะ เมื่อชําระแล้ว ใจจะเย็น สงบ
สะอาด และ สว่าง พิธีรดน้ําดําหัวจึงเป็นการเอาธรรมะ ไปรดให้กันรดให้คนนั้นคนนี้ โดยใช้น้ํา เป็นสื่อในการเติมสิ่งที่ดีให้เขา
คนสมัยโบราณมักมีอุบายที่แยบคายแฝงเรื่องลึกซึ้งเอาไว้เสมอ ๆ เขาถึงเรียกว่าภูมิปัญญา
น้ำตออบโจทย์ได้ทุกอย่างเหมือนกับ ธรรมะ ถ้าขาดธรรมะก็เหมือนขาดน้ํา คือ ตาย ตายจากความเป็นคน เป็นมนุษย์
คุณดื่มน้ําอาบน้ําทุกวันอยู่แล้ว เมื่อกระหายน้ํา คุณดื่มน้ําก็ดับกระหายไป ก็มีความสงบ ไม่มีความทุกข์ทางกาย ในขณะที่คุณมี ความทุกข์ใจ
กังวลใจ เมื่อคุณเติมธรรมะ เข้าไปก็เหมือนคุณดื่มน้ําดับกระหายเย็น เหมือนนิพพานชั่วคราวขาดไม่ได้ เมื่อขาดน้ําก็เหมือนขาดนิพพาน
ขาดความเย็น สะอาด สงบ ใส ชีวิตก็ร้อนเพราะกิเลส ดังนั้นน้ํา (ธรรมะ) จึงเป็นสิ่งที่ควรดื่มทุกวัน อาบทุกวัน ชําระทุกวัน พอมีธรรมะไป ดับกิเลสกิเลสก็จะถูกชําระ ถูกประหารออกไป
แต่ถ้าเป็นวิถีแห่งคนที่ขาดคุณธรรม ก็จะสาดอย่างอื่นไม่ได้สาดน้ํา น้ําก็จะ แปรรูปเป็นน้ําอย่างอื่น เช่น น้ําแข็ง น้ําโคลน น้ําอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง เช่นเดียวกับธรรมะ ก็จะเป็นธรรมะแบบที่ ไม่ใช่เพื่อนิพพาน เป็นธรรมะระดับโหมดอื่น ๆ ที่ไม่ถึงความสงบเย็นอย่างแท้จริง
เช่น ให้ทาน รักษาศีล สวดมนต์ ซึ่งเป็นธรรม เพื่อความสงบเย็นแค่ชั่วคราว
งานฉลองสงกรานต์เดี๋ยวนี้ มักมีโชว์โคโยตี้ สาว ๆ นุ่ง กางเกงขาสั้น ใส่เสื้อบาง ๆ ผู้ชายก็ชอบไปดูไปเต้นด้วย… แบบนี้ถือว่าบาปไหมคะ
บาปสิ บาปในที่นี้คือไปดูสาว ๆ เต้น และไปเต้นกับสาว ๆ ในยุค นี้อํานาจของกิเลสทําให้สงกรานต์กลายเป็นแบบนี้คนที่เขาเย็นแล้วจริงๆ ก็คงไม่ไปดูโคโยตี้ หรือคงไม่ไปเต้น คนที่ไปดูก็คือยัง ไม่ได้รดน้ํา ยังไม่ได้เล่นสงกรานต์อย่าง แท้จริง ยังไม่ได้รดน้ําที่ใจ ใจก็จะไม่สงบ ไม่สะอาด ไม่สว่าง
สาระของวันสงกรานต์คือ รดน้ําที่ใจ ทั้งใจเราและใจคนอื่น ถ้าเราทําแบบนี้ได้ สงกรานต์ก็จะเป็นวันปีใหม่ที่ดี เป็นการมอบของขวัญให้กันและกันอย่างแท้จริง ดีกว่ามอบกระเช้าดอกไม้เยอะ เพราะเรามอบความเย็นให้
ที่มา : นิตยสาร Secret คอลัมน์ Dhamma 360
ตอบโดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ