ก้าวข้ามความขี้อาย ยูทูบเบอร์ ขวัญใจวัยรุ่น ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช
ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช หรือ ซารต์ เป็นหนึ่งใน ยูทูบเบอร์ ขวัญใจวัยรุ่นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย พิสูจน์ได้ด้วยยอดผู้ติดตามทางยูทูบแชนเนลกว่า 2 ล้านคน และมีผู้ติดตามเฟซบุ๊กแฟนเพจกว่า 8 แสนคน ยอดวิวแต่ละคลิปก็ไม่ธรรมดา มีตั้งแต่หลักแสนขึ้นไปจนถึงหลายล้าน แต่ว่าจะถึงวันนี้ได้ซารต์ก็ต้องใช้เวลาค้นหาสิ่งที่ใช่อยู่พักใหญ่
“จุดเริ่มต้นที่มาทำออนไลน์เพราะอยากมีอาชีพอิสระ ซารต์เรียนจบบัญชี ธรรมศาสตร์ พอเรียนจบก็ทำงานประจำแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรา เพราะบ้านอยู่ไกลจากที่ทำงานต้องตื่นเช้ามากเพื่อมาเข้างานให้ทัน เสียดายเวลาเดินทางหลายชั่วโมงที่น่าเอามาทำงานมากกว่า เลยอยากทำงานอิสระที่ทำที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ จึงหันมาเป็นยูทูบเบอร์
“จริง ๆ ซารต์เป็นคนไม่กล้าออกกล้อง แต่ซารต์เคยช่วยงานเพื่อนที่เป็นยูทูบเบอร์คนหนึ่งตั้งแต่ตอนเรียนปี 3 ชื่อ กานต์ (อรรถกร รัตนารมย์) ซึ่งขี้อายเหมือนเรา พอเรียนจบเพื่อนก็มีอาชีพเป็นยูทูบเบอร์ที่ประสบความสำเร็จมีคนติดตาม และเป็นคนเดียวในคณะที่ไม่ทำงานประจำ เราก็เลยได้แรงบันดาลใจมาลองทำบ้าง”
เธอยอมรับว่าตอนแรกยากมาก เพราะเป็นคนขี้อาย
“เริ่มแรกก็ลองเอากล้องมาตั้งแล้วนั่งพูดหน้ากล้องคนเดียวในห้อง 3 – 4 ชั่วโมง ทำแบบนี้อยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นกานต์ก็มาช่วยตัดต่อให้ เพราะเราตัดต่อไม่เก่ง ปัจจุบันจ้างคนมาเป็นทีมทำให้แล้ว
“ตอนนั้นซารต์ทำรายการเกี่ยวกับเด็กก่อน มีรีวิวขนม ของเล่น หรือเรื่องทั่วไปที่เกี่ยวกับเด็ก เพราะชอบอยู่กับเด็กตัวเล็ก ๆ ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าชอบทำแนวไหนกันแน่ พอทำไปทำมาเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันไม่ใช่ ก็เลยเปลี่ยนสไตล์จากทำเรื่องเด็กเป็นท่องเที่ยวและพาไปกินอาหาร ซึ่งอันนี้คือใช่เลย เป็นตัวตนเรา ชอบมาก ตอนแรกเราจะไม่รู้หรอกว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไรจนกว่าจะได้ทำมัน พอทำแล้วก็จะแน่ใจกับตัวเองมากขึ้นว่ามันใช่หรือไม่ใช่
“คลิปที่พาไปกินเครปร้านป้าเฉื่อยคือคลิปที่คนเข้ามาดูเยอะมาก ซารต์ไปรอเครปป้าเฉื่อย 20 กว่าชั่วโมงถึงได้กิน ตอนนี้กว่า 8.1 ล้านวิวแล้ว คลิปนี้ทำให้ซารต์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เวลาไปไหนมาไหนจะมีคนทุกเพศทุกวัยเข้ามาทักทาย”
คลิปพากินพาเที่ยวของซารต์ไม่ใช่นำเสนอแค่เพียงไลฟ์สไตล์วัยรุ่นที่สนุกสนาน แต่ยังมีส่วนช่วยคนอื่นอีกด้วย
“จากที่ซารต์ทำมามีเรื่องที่ประทับใจคือ มีคุณแม่ของน้องคนหนึ่งคอมเมนต์มาว่า ขอบคุณซารต์มากที่ทำให้ลูกเขากลับคืนมา เพราะลูกติดเกมมาก วัน ๆ ไม่คุยกับพ่อแม่เลย แต่พอลูกได้ดูคลิปซารต์ ก็ไปขอให้พ่อกับแม่พาไปกินร้านนู้นร้านนี้ตามซารต์ คุณแม่บอกว่าดีใจมากที่ลูกมาคุยด้วยและใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
“มีน้องอีกคนที่ร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์ เท้าน่าจะผิดปกตินิดหน่อย มาคอมเมนต์ซารต์ทุกโพสต์บอกว่า ซารต์เป็นกำลังใจของเขา ทำให้เขาอยากใช้ชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ ซารต์อ่านแล้วก็มีกำลังใจขึ้นมาเหมือนกัน เหมือนเราเป็นกำลังใจให้กันและกัน”
สิ่งที่ดึงดูดให้คนติดตามเธอคือเป็นความเป็นธรรมชาติและความจริงใจ บวกกับความฮาของสาวน้อยวัย 25 คนนี้
“ซารต์คิดอะไรก็พูดออกมาแบบนั้น เพราะฉะนั้นสินค้าที่มาให้รีวิว ซารต์จะเลือกมาก เพราะถ้าเราไม่อินแล้วต้องมาขายให้คนดู ซารต์ทำไม่ได้ ก็เลยเลือกที่จะไม่รับ และเลือกเอาแต่สิ่งที่เราได้กินได้ใช้จริง ๆ เรียกว่าเลือกด้วยใจเลยค่ะ สิ่งที่สำคัญมากคือซารต์มีทีมที่ดีจริง ๆ จึงทำให้งานออกมาดีแบบนี้ ซารต์คิดว่าคนคนเดียวไม่สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง ซารต์รู้ตัวว่าไม่ถนัดด้านตัดต่อ ถ้าทำเองช่องของซารต์คงมาไม่ถึงขนาดนี้
“ซารต์รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราก็หาคนมาช่วยในส่วนที่เราไม่ถนัด เราต้องรู้จักตัวเอง จะทำให้เรารู้ว่าควรถ่ายทอดอะไร ไม่ควรถ่ายทอดอะไร คนดูของเราเป็นใคร ถ้าเรารู้ปุ๊บ เวลาตามองกล้อง เราก็จะคิดเลยว่านี่คือคนดูของเรา แล้วคำพูดที่ออกมาก็จะมาจากใจจริง ๆ เพราะเราถ่ายทำแบบไม่มีสคริปต์ สดทุกอย่าง นอกจากจะมีงานของลูกค้าซึ่งน้อยมาก
“เป้าหมายตอนนี้ของซารต์คือทำให้ช่องเราเป็นอันดับแรก ๆ ในใจของวัยรุ่น ซารต์กับกานต์จึงมารวมตัวกันเป็นแชนเนลใหม่ทางยูทูบชื่อ Bearhug คนที่ติดตามเราอยู่ในช่วงอายุ 18 – 25 มากที่สุด ยังไงซารต์ก็อยากจะทำวิดีโอต่อไปเรื่อย ๆ เพราะนี่คือตัวตนของเรา และเรามีความสุขที่ได้ทำเพื่อคนที่ติดตามดูเรา ถ้าไม่มีคนดูเหล่านั้น ซารต์ก็จะไม่ได้ทำงานที่ตัวเองชอบแบบนี้”
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน การที่ได้ทำงานที่ชอบและเป็นตัวเราอย่างแท้จริง ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนคนนั้นประสบความสำเร็จในการทำงาน
ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 233
เรียบเรียง : ชนาฉัตร
ภาพ : วรวุฒิ วิชาธร
บทความน่าสนใจ
สาวน้อยมหัศจรรย์ ด.ญ. ณัฏฐนันท์ สนุ่นรัตน์ “น้องแพรพาเพลิน”
เที่ยวไปหลงไปกับ อคิร วงษ์เซ็ง แห่งเพจ“อาสา พาไปหลง”
เฟื่องลดา สรานี สงวนเรือง นางฟ้าไอทีหน้าหวาน
“ เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ ” เคล็ดลับที่ทำให้ลูกพบหนทางของตนเอง
