คิดบวกคิดลบ

คิดบวกคิดลบ เราจะคิดยังไงดี

คิดบวกคิดลบ

ไม่ว่าคุณจะ คิดบวกคิดลบ ในเรื่องเดียวกัน ผลลัพธ์แบบเดียวกัน แต่เรามีความสุขใจทุกข์ใจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการวางใจให้ถูกต้องและเหมาะสมตั้งแต่ตอนเริ่มต้น

ผมพึ่งตัดสินใจใส่อุปกรณ์ดัดฟันด้วยเหตุผลทางการแพทย์หลายอย่าง หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่สุดก็คือเพื่อให้ฟันชุดนี้อยู่ไปได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

หลังจากพูดคุยกับหมอก็ได้ทราบว่าการจัดฟันนั้นจะทำให้เราปวดฟันใน 3-4 วันแรกที่ใส่ และทุก2สัปดาห์ที่จะต้องปรับอุปกรณ์ผมก็จะปวดฟันแบบนั้น ด้วยคำตอบที่ได้จากหมอเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับที่ผมเคยถามคนที่เคยจัดฟัน ว่าความเจ็บปวดนั้นอาจมากจนเราเคี้ยวอะไรแข็งๆ ไม่ได้เลย และอาจเล่นกีฬาไม่ได้ นอกจากนั้นหมอยังสำทับเพิ่มเติมว่า อาการเจ็บจะยิ่งมากขึ้นสำหรับผู้จัดฟันที่มีอายุมากขึ้น

เมื่อข้อมูลออกมาในแนวนี้ สิ่งที่ผมทำได้จึงเป็นการเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับความเจ็บ ผมเตรียมอาหารที่นิ่มๆ เอาไว้เผื่อกินอะไรไม่ค่อยได้ ผมเลือกวันที่จะไปติดอุปกรณ์ในวันที่ห่างจากวันที่ผมจะไปเล่นกีฬามากพอที่อาการปวดน่าจะบรรเทาลงจนผมไปเล่นไหว ส่วนการเตรียมใจผมก็ทำใจเอาไว้แล้วว่า ช่วงแรกๆผมอาจปวดมากจนนอนไม่หลับ หรืออย่างน้อยก็ต้องปวดจนกินของแข็งๆ แบบถั่วไม่ได้

ในที่สุดวันที่ต้องใส่อุปกรณ์ก็มาถึง พอใส่เสร็จผมก็รู้สึกแค่ตึง ๆ ที่ฟันเหมือนมีคนมากดฟันเอาไว้ แต่ก็ยังไม่มีอาการปวด พอเล่าให้หมอฟังหมอก็บอกว่าไม่ต้องกังวลเดี๋ยวจะค่อย ๆ ปวดมากขึ้น และจะปวดมากทุกครั้งที่ใส่และถอด (อุปกรณ์ของผมเป็นแบบถอดได้ที่ต้องถอดทุกครั้งที่กินอาหาร) ผมจึงกลับบ้านไปพร้อมกับการเตรียมใจรับความเจ็บ

เมื่อกลับถึงบ้าน ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง ก็รู้สึกปวดนิดหน่อย และเวลาที่ถอดแล้วใส่ก็ปวดในระดับที่ทนได้ไม่ยาก ผมคิดว่าอาจเริ่มปวดในตอนกลางคืนก็ได้ จึงเข้าห้องนอนโดยเตรียมใจว่าอาจจะปวดมาก แต่ผมก็นอนหลับไปโดยที่อาการเจ็บปวดไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ วันถัดมาผมสังเกตอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้น มันก็ไม่ได้มากมายอย่างที่คิดว่ามันจะเป็น และหลังจากการใส่อุปกรณ์มาราว3สัปดาห์ ผ่านการเปลี่ยนอุปกรณ์มาแล้วหนึ่งครั้ง ผมพบว่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นน้อยกว่าที่คิด แม้ว่าผมจะรู้สึกปวดเหมือนมีคนมากดฟัน แต่อาการนั้นก็เป็นใน 1-2 วันแรกเท่านั้น วันถัดมาอาการปวดก็ลดลงจนผมสามารถกินอาหารแข็งแบบถั่วได้ และสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติตั้งแต่วันแรกที่ใส่

ประเด็นหลักที่ผมอยากเล่าให้ฟังไม่ใช่เรื่องการจัดฟัน แต่เป็นเรื่องของจิตใจต่างหาก ผมสังเกตว่า การที่ความเจ็บปวดน้อยกว่าที่ผมคิดเอาไว้ทำให้ใจของผมเป็นสุขทั้งๆที่มีอาการปวดฟัน (ในระดับหนึ่ง)

สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ ในบางสถานการณ์ที่กำลังจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเรา เช่น ไปจัดฟัน ไปตรวจร่างกาย ไปสมัครงาน เริ่มต้นทำธุรกิจ กำลังจะแต่งงานฯลฯ หากวางใจให้ถูกต้องเหมาะสมและมีสติ เราจะรับมือกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ดี มีความทุกข์น้อยกว่าหรือมีความสุขมากกว่าเราวางใจไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม

การวางใจที่เหมาะสมไม่ได้หมายถึงการมองสุดโต่งไปด้านมองโลกในแง่ดีหรือมองโลกในแง่ร้าย แต่เป็นการมองตามความเป็นจริงอันเป็นหลักการที่พระพุทธเจ้าสอน

มองตามจริงก็คือ การมองตามความเป็นได้ทั้งหมดไม่ว่าดีหรือร้ายว่ามีโอกาสเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อมองตามจริงและเตรียมรับมือกับทุกสถานการณ์ ในเวลาที่เกิดเหตุในด้านที่แย่ที่สุด เราก็ยังพอจะรับมือกับมันได้เพราะได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ เหมือนอาการปวดฟันของผม หากมันปวดมาก อย่างน้อยผมก็จะรับมือได้ดีกว่าการที่ผมพยายามมองโลกในแง่ดีว่ามันคงไม่เจ็บเท่าไหร่ ถ้าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ดีมากนัก แต่มันก็ไม่แย่อย่างที่เราคิดว่าแย่ที่สุด จิตเราจะรู้สึกเบาสบายขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราเริ่มต้นจากการมองโลกในแง่ดี เช่นถ้าผมเริ่มต้นจากการคิดว่าคงไม่ปวดฟันแล้วมาเจออาการปวดแบบนี้ ผมก็คงทุกข์ใจเพราะมันปวดมากกว่าที่คิด

เห็นไหมครับว่า เรื่องเดียวกัน ผลลัพธ์แบบเดียวกัน แต่เรามีความสุขใจทุกข์ใจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการวางใจให้ถูกต้องและเหมาะสมตั้งแต่ตอนเริ่มต้นครับ

 

เรื่อง : ณัฐพบธรรม www.Nutpobtum.com , www.facebook.com/Pobtumboo

ภาพ : www.pexels.com


บทความน่าสนใจ

คิดบวกเป็นสุข! ตุ๊กกี้-ชิงร้อย กับ 3 คำตอบที่ทำให้รู้ว่าเธอคิดยังไงกับคำ ตลกหน้าปลวก

การรู้จักตัวเอง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดข้อคิดย้อนมองตัวเอง จากคุณขุนเขา สินธุเสน (ชมคลิป)

แหม่ม – วิชุดา พินดั้ม “ชีวิตนี้ไม่คิดยืมจมูกคนอื่นหายใจ” (1)

แหม่ม – วิชุดา พินดั้ม “ชีวิตนี้ไม่คิดยืมจมูกคนอื่นหายใจ”(จบ)

เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนคิดบวกด้วยโยนิโสมนสิการ

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.