ไมเคิล เดลล์ มหาเศรษฐีพันล้าน ผู้เริ่มต้นจากเงินแค่…พันเดียว
แต่หนทางธุรกิจของไมเคิล เดลล์ในระยะแรกก็เริ่มเติบโตจนแซงหน้าธุรกิจเจ้าอื่นจนกลายเป็น มหาเศรษฐีพันล้าน แต่สุดท้ายไม่มีสิ่งใดยั่งยืน เรื่องของเขาอาจเป็นแรงบันดาลใจและอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี
“ไม่มีใครบอกว่าผมทำไม่ได้ ถึงจะมีใครพูดอย่างนั้น ผมก็ยังเชื่อมั่นในความคิดของผมอยู่ดี”
เจ้าของคำพูดนี้คือ นักธุรกิจหนุ่มชาวอเมริกัน นามว่า ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell) เจ้าของ เดลล์ อิงก์ (Dell Inc.) บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์อันดับต้น ๆ ของโลก
เดลล์สนใจคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาเรียนรู้การทำงานของชิ้นส่วนต่าง ๆ รวมทั้งหัดประกอบคอมพิวเตอร์ด้วยตนเองได้สำเร็จตั้งแต่อายุ 14 ปี จากความสนใจอย่างจริงจังนี่เองที่ทำให้เดลล์รอบรู้เรื่องวิธีการตั้งราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้น (ค.ศ. 1980) ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นวิธีที่ทำให้ผู้ผลิต สามารถทำกำไรได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์จากราคาขายที่ตั้งไว้สูงลิบลิ่วถึงเครื่องละ 3,000 เหรียญ
เดลล์เริ่มมองเห็นลู่ทางทำธุรกิจว่า หากเขาสามารถประกอบคอมพิวเตอร์ต้นทุนต่ำ แต่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงและรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้หลายระดับมากกว่าผู้ผลิตรายอื่น ธุรกิจนี้ก็น่าจะไปได้ดี ทว่าตอนนั้นเดลล์ได้แต่คิด…คิด…คิด และฝัน ด้วยรู้ดีกว่า ถ้าเขามุ่งมั่นกับการเรียนเพื่อสอบเข้าเรียนแพทย์ให้ได้มากกว่า
สี่ปีต่อมาโอกาสครั้งสำคัญก็มาถึง เมื่อเดลล์ต้องย้ายไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยเทกซัสในฐานะนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 1 ช่วงเวลานั้นเองที่เดลล์สามารถขลุกอยู่กับคอมพิวเตอร์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีกต่อไป เดลล์เพลิดเพลินกับการยกเครื่องนั้นมารื้อออก ยกเครื่องนี้มาประกอบกลับเข้าใหม่ ทำตามตำราบ้าง คิดเองบ้าง อย่างไม่มีเบื่อ จนในที่สุดสภาพห้องของเขาไม่ต่างจากร้านซ่อมคอมพิวเตอร์เลย
แต่ความลับไม่มีในโลก ไม่นานนักเมื่อพ่อกับแม่รู้ว่าเดลล์ไม่ได้มุ่งมั่นกับการเรียน ท่านทั้งสองไม่พอใจอย่างมาก เรียกเดลล์มาไต่สวนเป็นการใหญ่ แต่เดลล์เองยืนกรานหนักแน่นด้วยเหตุผลสั้น ๆ ว่า
“ตอนนี้ผมอยากทำธุรกิจคอมพิวเตอร์ของผมเอง เพราะผมจะแข่งกับไอบีเอ็ม (IBM)”
ปลาย ค.ศ. 1984 เมื่อการสอบในภาคเรียนสุดท้ายของนักศึกษา แพทย์ชั้นปีที่ 1 สิ้นสุดลง ความอดทนของเดลล์ก็สิ้นสุดตามไปด้วยเช่นกัน เขาตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อเริ่มต้นธุรกิจในฝัน ด้วยเงินทุนเพียง 1,000 เหรียญ ภายใต้แนวคิดว่า ผู้บริโภคสามารถเลือกคุณสมบัติ (Spec) คอมพิวเตอร์ตามต้องการได้ และสามารถติดต่อซื้อขายกับทางบริษัทได้โดยตรง ทั้งทางโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต ใบสั่งซื้อ โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ทั้งนี้ ทีมงานทุกคนพร้อมที่จะให้คำแนะนำและข้อมูลแก่ลูกค้าทันที
ด้วยระบบการขายตรง กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ และการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม ทำให้บริษัทของเดลล์ภายใต้ชื่อ Dell Computer Corporation เติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวขึ้นเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งของโลกใน ค.ศ. 1999 แทนที่ยักษ์ใหญ่ไอบีเอ็มได้สำเร็จ โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ขณะนั้นกว่าพันล้านเหรียญ !
ทว่าโลกธุรกิจคือโลกกแห่งการแข่งขัน การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา หลายปีต่อมาบริษัทของเดลล์ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น เดลล์ อิงก์ ก็เสียตำแหน่งมือหนึ่งของโลกให้แก่เอชพี (HP) เท่านั้นยังไม่พอ เดลล์ อิงก์ ยังได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจกระหน่ำซ้ำอีก จนผลประกอบการลดลงอย่างน่าใจหาย ร้อนถึงผู้บุกเบิกอย่างเดลล์ที่ได้วางมือจากตำแหน่งซีอีโอไปเมื่อ ค.ศ. 2003 ต้องหวนกลับมาแก้ไขวิกฤตินี้อย่างเร่งด่วน
ไมเคิล เดลล์ ชายผู้เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นและความกล้าหาญ จะกอบกู้สถานะของเดล อิงก์ และทวงตำแหน่งผู้นำวงการไอทีโลกกลับคืนมาได้หรือไม่ เป็นเรื่องยากจะคาดเดา
ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ตราบใดที่ไม่ท้อ ไม่หมดหวัง และทุ่มเทใจสู้… โอกาสที่เดลล์จะกลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้งก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 34
คอลัมน์ : Inspiration
ผู้เขียน/แต่ง : ปาปิรัส
ภาพ : www.flickr.com
http://www.businessinsider.com
บทความน่าสนใจ
จากคนไร้บ้าน สู่มหาเศรษฐีพันล้านจากคนไร้บ้าน สู่มหาเศรษฐีพันล้าน คริสโตเฟอร์ พอล การ์ด เนอร์
พระอาจารย์สิริปันโน ลูกชายมหาเศรษฐีมาเลเซีย ไม่ยึดติดสมบัติ บวชตลอดชีวิต
ธนญชัยเศรษฐีสอนลูกสาวก่อนแต่งงาน คำสอนในพิธีแต่งงาน สมัยพุทธกาล
สุวิจักขณ์ ศรีอาริย์ ลูกกรรมกรผู้กลายเป็นเศรษฐีร้อยล้านเพราะธรรมะ