ในทุกข์… มีสุขเสมอ – ประสบการณ์สูญเสียที่ทำให้เห็นสัจธรรมชีวิต
ในเวลาที่มีความทุกข์ คนเรามักจะมองโลกในด้านเดียวเสมอ คือด้านร้าย เรามักจะเฝ้าถามตัวเองด้วยคำถามซ้ำๆ ว่า ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดกับเรา ทำไมต้องเป็นเรา จนลืมไปว่า ในเวลาที่เราทุกข์ใจแสนสาหัสนั้น ยังมีสิ่งอื่นๆ ให้เราได้เรียนรู้อีกมากมาย…รวมทั้งความสุข
เรื่องที่ฉันจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฉันเอง…
ประมาณห้าปีก่อน ทุกคนในครอบครัวได้รับข่าวดีจากพี่สาวและพี่เขยของฉันว่ากำลังจะมีสมาชิกใหม่ ขณะนั้นพี่นิว พี่สาวของฉันซึ่งแต่งงานได้ประมาณสามปีตั้งครรภ์อ่อนๆ พวกเราดีใจกันมาก เพราะนี่เป็นหลานคนแรกของบ้านฉันและบ้านของพี่เขย
แต่พอตั้งครรภ์ได้ประมาณห้าเดือน พี่นิวเริ่มมีอาการผิดปกติ เริ่มจากหน้าบวม เวลานอนจะหายใจไม่สะดวก รู้สึกแน่นที่คอบ่อยๆ แต่เมื่อไปตรวจกับแพทย์ก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคใด ต่อมาอาการที่เป็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พี่นิวหน้าบวมมากขึ้น และเริ่มมีอาการเหนื่อยมากขึ้น พี่นิวบอกกับฉันว่า เวลานอนจะนอนไม่ได้เลย รู้สึกเหมือนโดนบีบคอ หายใจไม่สะดวก ต้องลุกขึ้นมานั่งทุกคืน พี่นิวจึงตัดสินใจไปตรวจกับแพทย์อีกครั้ง
ครั้งนี้แพทย์ที่ดูแลส่งตัวไปเอกซเรย์ปอด แล้วพบสิ่งที่น่าตกใจมาก คือ ในช่องอกของพี่นิวมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ประมาณ 12 เซนติเมตรอยู่ทั้งสองข้าง ก้อนเนื้อนี้ไปเบียดขั้วปอด ทำให้หายใจลำบาก รวมทั้งยังไปกดเส้นเลือดดำใหญ่ที่นำเลือดจากศีรษะและใบหน้ากลับสู่หัวใจ ทำให้ไม่สามารถนำเลือดดำเข้าหัวใจเพื่อไปฟอกเป็นเลือดแดงที่ปอดได้ (ภาวะนี้เรียกว่า superior vena cava obstruction) หน้าของพี่นิวจึงบวมขึ้น และนอนราบไม่ได้ เมื่อเห็นดังนั้น แพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนจึงส่งพี่นิวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์ เพราะโรคที่เป็นซับซ้อนรุนแรงเกินกว่าจะรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนั้นได้
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลราชวิถี แพทย์แนะนำให้นอนโรงพยาบาลทันที เนื่องจากต้องฉีดยาลดบวมทุก 6 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ก้อนเนื้อยุบบวมลงชั่วคราว ทำให้พี่นิวสามารถนอนหลับและหายใจสะดวกขึ้นแพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่า ก้อนในช่องอกนี้น่าจะเป็นมะเร็ง แต่ก็ต้องตัดชิ้นเนื้อมาตรวจก่อนจึงจะทราบผลที่แน่นอน
วันที่ต้องนอนโรงพยาบาลวันแรก ทางโรงพยาบาลไม่มีห้องพิเศษว่างเลย เหลือแต่ห้องพิเศษที่กำลังรอซ่อมหลังคาที่รั่วอยู่เพียงหนึ่งห้อง หากฝนตกก็อาจจะเกิดอันตรายจากไฟดูดได้ จึงไม่ได้เปิดใช้ แต่ด้วยความจำเป็นและความช่วยเหลือของพยาบาลที่ตึก จึงอนุญาตให้ใช้ได้ชั่วคราว เราจึงตกลงให้พี่นิวพักที่ห้องนี้ไปก่อน พวกเราต่างก็ภาวนาขอให้ฝนไม่ตก และคืนนั้นพวกเราก็โชคดีมากที่ฝนไม่ตกจริงๆ ทั้งๆ ที่ช่วงนั้นเป็นฤดูฝน
พี่นิวพักอยู่ที่ห้องนั้นสองคืนจึงได้ย้ายมายังห้องอื่น ต่อมาไม่กี่วัน แพทย์ที่ดูแลก็ผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อในช่องอกไปตรวจ ผลชิ้นเนื้อบอกว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และจำเป็นต้องฉายรังสีด่วนเพื่อให้ก้อนมะเร็งยุบลง แต่ยังไม่สามารถทำได้ เพราะพี่นิวตั้งครรภ์เพียงห้าเดือน หากฉายรังสีก็มีโอกาสสูงที่จะทำให้ทารกพิการ แพทย์ที่ดูแลจึงแนะนำให้พี่นิวยุติการตั้งครรภ์เสีย เพราะหากจะรอจนครบกำหนดคลอด พี่นิวเองอาจจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้
สุดท้ายพี่นิวและสามีก็ตกลงให้แพทย์ยุติการตั้งครรภ์เพื่อรักษาชีวิตของพี่นิวไว้ หลังจากนั้นจึงเริ่มรักษาด้วยการฉายรังสีและให้เคมีบำบัดอีกแปดครั้ง
ผลจากการให้ยาเคมีบำบัด ผมของพี่นิวเริ่มร่วงตั้งแต่ฉายแสงครั้งแรก มีอาการอาเจียนรุนแรงอยู่บ่อยๆ พี่นิวบอกว่ารู้สึกพะอืดพะอมและขมปากอยู่ตลอด ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยมาก มีบ่อยครั้งที่การให้เคมีบำบัดต้องให้ทางน้ำเกลือที่แขนทั้งสองข้างพร้อมกัน แต่พยาบาลไม่สามารถแทงน้ำเกลือได้ จึงต้องเจ็บตัวหลายครั้ง บางครั้งหาเส้นเลือดไม่ได้ ก็ต้องแทงน้ำเกลือที่ข้อเท้า ทำให้ลุกเดินไปไหนมาไหนไม่ได้เลย ต้องนอนอยู่นิ่งๆ บนเตียงวันละหลายชั่วโมง พี่นิวต้องอดทนกับการเจาะไขกระดูก เจาะเลือด แทงน้ำเกลือนับสิบๆ ครั้ง แต่ก็ยังอดทนและยิ้มอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ต้องเสียลูกไป ไหนยังต้องทรมานจากการเจ็บป่วยและการรักษามะเร็ง ซึ่งเราทราบกันดีว่าคงจะทรมานมาก
ในอีกแง่มุมหนึ่ง ฉันพบว่า การเจ็บป่วยและการสูญเสียครั้งนี้ ครอบครัวของเรากลับได้เรียนรู้สิ่งที่เราหลงลืมไปหลายๆ อย่าง เราเริ่มคิด พูด ทำแต่สิ่งที่ดีต่อกันมากขึ้น ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นเวลาไปเฝ้าไข้พี่นิว ได้นั่งคุยกันเงียบๆ ได้เรียนรู้การเผชิญความทุกข์ร่วมกัน ส่วนพ่อของเราซึ่งหย่ากับแม่และอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้พบกัน ก็เดินทางมาเยี่ยมพี่นิวถึงโรงพยาบาล ทำให้ครอบครัวเราได้พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง
นอกจากนั้น การป่วยไข้ยังทำให้พี่นิวต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างใหม่ จากเดิมที่มักจะรับประทานอาหารตามใจปากตามประสาคนทำงานบริษัท ซึ่งมักจะยุ่งตลอดวัน และมักจะรับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่บ่อยๆ ซึ่งตามหลักของการกินอาหารตามหมู่เลือดแล้ว เลือดกรุ๊ปเออย่างพี่นิวไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่ เมื่อเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง พี่นิวได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น และเลือกรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เช่น พวกผักและผลไม้ และเลิกกินเนื้อสัตว์ใหญ่โดยเด็ดขาด
เมื่อให้เคมีบำบัดครบและร่างกายแข็งแรงขึ้น พี่นิวก็เริ่มเล่นกีฬา เพราะการออกกำลังกายจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ นอกจากจะหันมาใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้นแล้ว พี่นิวซึ่งเดิมไม่ใช่คนที่ชอบอ่านหนังสือเท่าใดนัก แต่เมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล ต้องนอนนิ่งๆ บนเตียงผู้ป่วย จึงเริ่มหันมาอ่านหนังสือมากขึ้นจนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นหนอนหนังสือคนหนึ่ง
พี่นิวได้เริ่มศึกษาธรรมะจากหนังสือ ซึ่งทำให้เข้าใจความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ ยอมรับและทำใจในการสูญเสียและการเจ็บป่วยของตัวเอง เมื่อสามารถทำใจและเข้าใจธรรมชาติของโลกได้ว่ามีทั้งสุข – ทุกข์ ได้มา – เสียไป เป็นของคู่กัน ไม่มีสิ่งใดยั่งยืนไปได้ตลอด ทำให้เห็นว่าความทุกข์ทั้งปวงที่เข้ามานั้นไม่หนักหนาเกินกว่าที่ใจของเราจะทนได้
การเจ็บป่วยครั้งนี้แม้จะผ่านไปห้าปีแล้ว และตอนนี้พี่นิวก็แข็งแรงดีและกลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ทุกวันนี้พี่นิวก็ยังคงดูแลอาหารการกินอย่างถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมทั้งทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกทุกปี ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉันสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิว่า สิ่งที่เราต้องประสบในชีวิต หลายครั้งแม้จะทำให้เราทุกข์มากมายเพียงใด ในความทุกข์นั้นก็ยังมีความสุขซ่อนอยู่เสมอ
ครอบครัวของเราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากความทุกข์ที่มีร่วมกัน ทำให้ทราบว่า ความรักจากคนในครอบครัวนั้นจริงแท้เพียงใด ได้รู้ว่าแม้ครอบครัวเราจะไม่แสดงออกมากนัก แต่จริงๆ แล้วเรารักและห่วงใยกันมากแค่ไหน ได้เห็นกำลังใจที่เข้มแข็งของพี่นิว ได้เห็นน้ำใจของคนรอบข้างที่มีต่อเรา ได้เห็นความเอาใจใส่ของแพทย์และพยาบาลที่ดูแลอย่างดี ได้หันมาดูแลร่างกาย จิตใจของตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น ที่สำคัญคือ ได้หันมาใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น
เหนืออื่นใดคือ เราได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธศาสนา ซึ่งสอนให้เข้าใจในความจริงของชีวิตมนุษย์ รู้เท่าทันทุกข์และสุข เมื่อเรานำหลักธรรมมาใช้ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าต่อไปวันข้างหน้าจะมีอะไรเข้ามา ธรรมะก็จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงของเราตลอดไป
(ในทุกข์)
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง puitipa
บทความน่าสนใจ
“รับความจริงได้ย่อมไร้ทุกข์” ธรรมะจาก พระอาจารย์ชาญชัย อธิปัญโญ
ดับ “ตัวกู” ได้ย่อมหมดทุกข์ ธรรมะจาก พระไพศาล วิสาโล
สุข-ทุกข์อยู่บนเหรียญคนละด้าน แต่เหรียญไม่ได้มีแค่สองด้าน
มองใจให้ถูก ใจจึงจะดับทุกข์ได้ ธรรมะโดย พระอาจารย์มานพ อุปสโม
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้ก็เพราะทุกข์ ธรรมะโดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ