4 เทคนิค ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน ช็อปปิ้ง ท่องเที่ยว ให้รางวัลตัวเองได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเก็บ
หลายคนตั้งใจเก็บเงิน แต่เก็บเท่าไหร่ก็ได้ไม่เยอะอย่างที่ตั้งใจสักที หรือเรากำลังเก็บเงินแบบผิด ๆ อยู่นะ? วันนี้ Goodlife มีเทคนิคการ ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน ที่สามารถทำได้จริง เห็นผลจริงได้ และไม่สำบากตัวเองจนเกินไป สามารถมีเงินไปช็อปปิ้ง กิน เที่ยว ให้รางวัลตัวเองได้ด้วยค่ะ
::: เปลี่ยนทัศนคติเรื่องการเก็บเงินเสียใหม่ :::
การเก็บเงินต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเป็นอย่างสุดท้ายเมื่อเงินเหลือ
หลายคนมีทัศนคติเกี่ยวกับการเก็บเงิน ออมเงินที่ผิดๆ โดยการใช้เงินที่หามาได้ก่อน เมื่อเงินเหลือค่อยนำมาเก้บออม ถ้าไม่เหลือก็ไม่ต้องเก็บเลยสักบาท ซึ่งความคิด และพฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้เรากลายเป้นคนไม่มีวินัยทางการเงิน ที่หาเงินได้เท่าไหร่ก็ไม่ค่อยเหลือเก็บสักเท่าไหร่ เป้าหมายในการออมเงินที่ตั้งไว้ ก็ทำไม่สำเร็จสักที จนบางครั้งก็สชรู้สึกท้อแท้ และตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมเราจึงไม่มีเงินเก็บอย่างใครเขาสักที
วิธีที่ถูกต้องที่สุด คือการ “เก็บก่อนใช้” แบ่งเงินเก็บออกมาจากรายได้ของเราทันทีที่ได้รับเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้เราเผลอใช้เงินนั้นจนหมด และทำให้เรามองเห้นจำนวนตัวเลขของเงินที่เราสามารถใช้ได้จริง ไม่ใช่ใช้เงินทั้งหมด โดยที่ไม่แบ่งมาเป้นเงินเก็บหรือเงินออมเลย
::: ตั้งเป้าหมายในการออมเงินที่ชัดเจน :::
บางคนคิดเอาไว้แค่ว่า อยากมีเงินเก็บ อยากออมเงินให้ได้เยอะๆ เพียงแค่คร่าวๆ แต่ไม่ได้ระบุลงรายละเอียดไปว่าต้องการเก็บเงินให้ได้จำนวนเท่าไหร่ ภายในระยะเวลาเท่าไหร่
หากเรามีเป้าหมายในการออมเงินอยู่แล้ว เช่น ต้องการเก็บเงินเพื่อนำไปซื้อบ้าน ซื้อรถ ท่องเที่ยว หรือเป็นเงินสำรองสำหรับวัยเกษียณ เราควรระบุลงรายละเอียดไปให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้มองเห็นจุดหมายปลายทางในการเก็บเงินของเรา และมีกำลังใจมากขึ้น เวลาที่เห็นตัวเลขเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น
::: แบ่งสัดส่วนเงิน :::
จดบันทึกรายรับรายจ่ายของเรา เพื่อให้รู้ว่าเรามีรายได้และรายจ่ายอะไร มากน้อยแค่ไหนบ้าง แล้วนำผลจากการจดบันทึกนี้ มาวิเคราะห์ว่า เราควรเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ มีเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกเท่าไหร่ และควรแบ่งเงินเป็นสัดส่วนเท่าไหร่สำหรับการให้รางวัลตัวเองด้วยการกินอาหารที่อยากกิน ไปเที่ยวในที่ที่อยากไปเที่ยว หรือช็อปปิ้งข้าวของที่ดีต่อใจ
::: นำเงินออมมาลงทุน :::
การเก็บเงินคือสิ่งที่ดี แต่จะดียิ่งกว่า ถ้าเรานำเงินเก็ยนั้น มาทำให้เกิดผลกำไรงอกเงย ด้วยการนำไปลงทุนต่อ โดยการลงทุนนั้น ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงที่ต้องยอมรับ ดังนั้น เราจึงควรศึกษารายละเอียดในการลงทุนให้ดีก่อน รวมถึงทำแบบประเมินความเสี่ยงในการลงทุน เพื่อที่เราจะได้สามารถเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะกับเราที่สุดได้
เขียนโดย: พิระดา ธรรมวีระพงษ์ (แอม)
Author: Pirada Tumweerapong (Amm)
ขอขอบคุณภาพจาก pinterest.ca
บทความเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ทอมกับเจอร์รี่ (Tom and Jerry) การ์ตูนแมวหนูสุดแสบ ครบรอบ 80 ปีที่ครองใจผู้ชม
- 5 วิธีใช้ชีวิต เริ่มต้นวันทำงาน ให้ดีและมีความสุข
- 15 ไอเดีย แต่งตัวโทนดำ เท่ๆ แบบ Super Black ให้น่าค้นหาและมีเสน่ห์
- 3 วิธีก้าวข้ามความผิดหวัง อย่างคนสตรอง มองโลกในแง่ดี
- 4 “ความกล้า” ที่ทุกคนควรมี เพื่อทำให้ ชีวิตมีคุณค่า ในทุกๆ วัน
- 7 ไอเท็ม แฟชั่นสาวอวบ สร้างความมั่นใจในแบบสวยชิค ที่มีความแซ่บต่อไม่รอแล้ว
- 5 วิธีสร้างความสบายใจ เปลี่ยนวันร้ายๆ ให้ดีขึ้นได้ทันตา
- 5 ขั้นตอน วางแผน จัดการเงินเดือน เงินพอใช้ มีเหลือเก็บ ไม่ต้องกินมาม่าช่วงปลายเดือน