วิธีพิ่มพลังบวก ทำได้ง่ายๆ แค่เริ่มจากการมองโลกให้เป็น

เพราะการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา ‘ความคิด’ ก็จะมีส่วนช่วยเปลี่ยนโลกใบเดิมๆ ให้กลายเป็นโลกใบใหม่ที่ดียิ่งกว่า เพียงแค่รู้จักมองโลกให้เป็นอีกหน่อย เข้าใจตัวเองมากขึ้นอีกนิด ก็ถือเป็นอีกหนึ่ง วิธีพิ่มพลังบวก ให้กับตัวเองได้แล้วนะทุกคน

ว่ากันว่ามีอยู่สองสิ่งในชีวิตคนเรา ที่ไม่สามารถหยุดหรือควบคุมมันได้เลยนั่นคือ ‘ความคิดและความรู้สึก’ เพราะในบางครั้งเราเองก็อดยอมรับไม่ได้เช่นกันว่า ต่อให้เป็นคนมองโลกในแง่ดีมากขนาดไหน ก็ไม่อาจต้านทานความคิดด้านลบที่เกิดขึ้นภายในจิตใจได้เลย

แต่ข้อดีของการเป็นคนมองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ ก็สามารถช่วยเพิ่มพลังด้านดีได้มากกว่าที่คิดเอาไว้ เพราะอย่างน้อยๆ ก็ทำให้เราได้มองเห็นอุปสรรคที่เจอในแต่ละวันกลายเป็นบทเรียนอันท้าทาย ไม่ใช่มองเห็นว่าเป็นปัญหาที่ต้องมานั่งแก้ไขอย่างรู้สึกเป็นทุกข์

เพราะฉะนั้น การแก้ไขสถานการณ์คับขันหรืออุปสรรคอันหนักหน่วง ที่อาจต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จะกลายเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น หากเรามองมันให้เหมือนเกมชนิดหนึ่ง หรือมองให้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ควรลองทำสักครั้งในชีวิต

ถ้าอย่างนั้น เรามาเรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ที่พอจะช่วยสร้างพลังงานบวกให้เกิดขึ้นในชีวิตด้วยการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนมองโลกในแง่ดีกันดีกว่าค่ะ

เข้าใจความเป็นไปของทุกอย่างบนโลก

คงไม่มีสิ่งใดบนโลกนี้เป็นไปตามอย่างที่ใจเราคิดไว้เสมอ และคงไม่มีใครบนโลกนี้อีกเช่นกันที่จะสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความผิดหวังได้ ดังนั้น ควรหัดเผื่อใจให้เป็นกับทุกๆ เรื่อง หากชีวิตจะต้องพบเจอกับความผิดหวังบ้าง จึงควรมองให้เป็นเรื่องธรรมดา เพราะถ้าไม่เคยพบเจอกับความผิดหวังเลย ก็คงจะไม่ได้เรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง และคงไมได้รู้จักกับคำว่า ‘ ความหวังครั้งใหม่ ‘ ได้อย่างแน่นอน

ยอมรับความจริงให้ได้

เพราะไม่มีใครหรืออะไรสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าได้ เพราะฉะนั้น ‘ การยอมรับความจริง ‘ จึงถือเป็นหนทางที่อาจทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ยากเกินจะผ่านพ้นไป ซึ่งผลดีของการเป็นคนที่สามารถยอมรับความจริงในทุกๆ เรื่องได้นี้ จะมีส่วนช่วยให้เราเข้าใจในเหตุและผลของทุกๆ เรื่องราว รวมถึงทุกๆ การกระทำที่เกิดขึ้น และหันกลับมามองมันด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ไม่มัวเสียเวลาหันไปโทษสิ่งต่างๆ อย่างคนขี้แพ้เหมือนเคย

เรียนรู้การมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ

‘ความสุขมีอยู่รอบๆ ตัวเรา’ ประโยคนี้ยังคงความหมายที่จริงอยู่เสมอ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตในรูปแบบเดิมๆ เราก็จะเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่เคยมองข้าม กลับกลายมาเป็นมีความหมายต่อจิตใจมากขึ้นอีกครั้ง เพราะฉะนั้น จงเรียนรู้ที่จะมองเห็นความสุขต่างๆ จากสิ่งรอบตัวก่อน ไม่ต้องไปตามหาหรือค้นคว้าความสุขจากที่ไหนไกล เพราะอารมณ์สุขและรอยยิ้มที่ออกมาจากใจ คือสิ่งที่เรียกว่าความสุขของมนุษย์ได้อย่างแท้จริง

อย่าทะเยอทะยานเกินตัว

ความทะเยอทะยานที่มากเกินไปไม่เคยทำให้ใครเกิดความรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ เพราะเราทุกคนควรเลือกสิ่งที่พอดี พอเหมาะ และเหมาะสมกับตัวเอง การมองหาหรือไขว่คว้าสิ่งที่ประเมิณดูแล้วว่า เกินตัวมากไป สุดท้ายแล้วอาจทำให้ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์ได้แบบไม่รู้ตัว ดังนั้น จงพอใจอยู่กับสิ่งที่มี และค้นคว้าหาสิ่งที่ไม่เคยมี ด้วยความพอดีและไม่มากเกินไป ซึ่งจะช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างเรียบง่ายและไม่เหนื่อยกับความอยากได้อยากมีที่ไม่สมเหตุสมผล

อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

จำไว้ว่า ‘ เราก็คือเรา ‘ และ ‘ เรา มีเพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ ‘ ไม่มีใครสามารถเป็นได้เหมือนเรา และเราก็ไม่สามารถเป็นได้เหมือนใคร เพราะฉะนั้น จงภูมิใจในตัวเองที่ได้เกิดมา และอย่ามัวเสียเวลาเอาตัวเองไปเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียอยู่กับผู้อื่น นอกจากจะทำให้บั่นทอนจิตใจและเกิดความหดหู่แล้ว ยังรู้สึกได้ถึงความไร้ค่าภายในตัวเองอีกด้วย ดังนั้น จงใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่าไปกับการพัฒนาตัวเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอย่านำตัวเองไปเทียบกับใครอีกเลย