ความสำคัญสูงสุดของประสบการณ์ในด้านดี คือ การที่เราสามารถจะหยิบมันออกมาเชยชมครั้งแล้วครั้งเล่า และพิจารณามองการกระทำของตัวเองว่าเราเคยทำวิธีใด แบบไหน ผลที่ออกมาจึงได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม การมองย้อนกลับไปในอดีตที่ถูกต้อง จึงควรจะเป็นการมองเข้าไปยังเหตุผลและวิธีการกระทำของเราเองในสมัยก่อน ก่อนที่จะเริ่มมองไปยังผลของการกระทำ และควรจะมองให้ลึกซึ้งว่าเหตุใดสิ่งที่เราทำจึงประสบความสำเร็จ ทำไมวิธีการที่ใช้จึงใช้งานได้ผล ณ ตอนนั้น และยังสามารถดึงเอาสาเหตุของการประสบความสำเร็จในสมัยก่อนนั้น กลับมาปรับปรุงใช้กับรูปแบบชีวิตของคุณ ณ ตอนนี้ได้อีกหรือไม่
>>การมองย้อนกลับไปยังข้อผิดพลาดที่เราเคยก่อขึ้น<<
นอกจากเราจะมองไปที่ประสบการณ์ในด้านดีๆ แล้วสิ่งที่คู่กันแบบขาดไม่ได้ก็คือ การมองย้อนกลับไปยังข้อผิดพลาดที่เราเคยก่อขึ้น เป็นผู้ร่วมก่อขึ้น หรือเคยได้ประสบพบเจอมาก่อนในอดีต เหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึก “เสียดาย” เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในทำนองว่า คิดว่าถ้าหากว่าเรา…….. หรือ ถ้าแค่………ข้อผิดพลาดเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นอีกรอบแน่ๆ ไม่แม้แต่อยากจะกลับหันไปมองมันอีกด้วยซ้ำ เพราะข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นทำให้คนเราโตขึ้นทำให้เราเติบโตมาได้ เหมือนที่เคยมีคนพูดว่าสี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ถึงอยากจะหลีกหนีมากแค่ไหน ก็ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยทำพลาด
เพราะคนเราทุกคนเคยทำผิด เคยพลาดพลั้ง เคยล้มและเคยลุกขึ้นใหม่กันมาแล้วทุกคน มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครสักคนจะทำพลาด ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะมีข้อผิดพลาดหรือจุดด่างพร้อยในชีวิต สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากคุณจะนำเอาข้อผิดพลาดนั้นกลับมาเป็นประโยชน์กับตัวเราเองได้มากน้อยแค่ไหนต่างหาก
>>ข้อผิดพลาดและโอกาสที่หลุดมือไป ทุกอย่างคือประสบการณ์<<
ไม่ใช่แค่ข้อผิดพลาดจากการกระทำของคุณเท่านั้นที่ถือเป็นประสบการณ์ โอกาสต่างๆ ที่เราปล่อยให้พลาดและหลุดมือไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็จัดว่าเป็นประสบการณ์ของตัวเราเองทั้งสิ้น เป็นอดีตที่สามารถนำกลับมาศึกษาได้เช่นกัน ว่าเพราะเหตุใดโอกาสเหล่านั้นถึงหลุดลอยออกไป ทำไมเราถึงคว้ามันเอาไว้ไม่ได้ หรือทำไมเราถึงไม่ยอมคว้ามันเอาไว้ และยังทันและพอมีเวลาหรือไม่ที่จะแก้ขตัวเองใสนตอนนี้ เพื่อกลับไปคว้าเอาโอกาสดีๆ เหล่านั้นให้กลับคืนมา ในอดีตที่ผ่านมาเคยคิดมั้ยว่าเราทำอะไรพลาดไปบ้าง แล้วรู้หรือยังว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะไม่พลาดโอกาสต่างๆ เหล่านั้นอีกในอนาคต มาถึงตรงนี้ใครเริ่มมองเห็นกันบ้างงหรือยังว่าโอกาสอันไหนคือใบเบิกทางไปสู่สิ่งที่คุณต้องการลองนึกดูดีๆ
>>หลังจากมองย้อนกลับไปสู่สิ่งต่างๆ ในอดดีตแล้ว ต่อไปก็ออกก้าวเดิน<<
หลังจากที่คุณพร้อมจะก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จในอนาคตด้วยการลองมองย้อนกลับไปสู่สิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีตของคุณ สิ่งต่อไปคือเราต้องเริ่มออกก้าวเดินต่อไปนั่นเองค่ะ อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าก้าวแรกแม้จะเป็นก้าวที่ยากมากสำหรับทุกๆ สิ่ง แต่การจะก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง และมุ่งมั่นต่อไปเรื่อยๆ นั้นถือเป็นสิ่งที่ยากและท้าทายไม่แพ้กัน หากเราสามารถอดทน ฟันฝ่ากับความท้าทายทั้งหลายไปได้ ผลสำเร็จแสนหอมหวานก็จะรอให้เราเชยชมอยู่เบื้องหน้าอย่างแน่นอน และรับรองว่าคุณจะไม่มีวันยอมและมันกับอะไรอื่นอีกเลยเป็นแน่
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อแนะนำที่จะทำให้คุณไปสู่จุดมุ่งหมายของชีวิต ด้วยการมองย้อนไปในอดีต หลายคนอาจมองว่าในชีวิตมันไม่ได้ง่าย แค่ทำเท่านี้มันไม่สามารถทำให้เราทะลุหรือก้าวผ่านกำแพงที่เป็นอุปสรรคไปได้ แต่เชื่อเถอะค่ะว่าไม่ว่ากำแพงจะสูงเพียงใด ขอเพียงเราไม่หันหลังกลับหรือเดินย้อนเส้นทางกลับมาก็พอ เพราะนั่นเป็นการหันหลังให้กับเป้าหมายความสำเร็จของชีวิตเรา กำแพงมันจะสูงแค่ไหนก็ลองปีนไปเถอะค่ะดีกว่าหันหลังให้จุดมุ่งหมาย แล้วต้องกลับมาตั้งต้นใหม่ตั้งแต่ก้าวแรกอีกนั่นเอง
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
