“เป็นมิตรกับ ความกลัว” เรื่องเล่าขำๆ กว่าพระจะหายกลัวผี โดย ท่านปิยสีโลภิกขุ
บทความเรื่อง ” เป็นมิตรกับ ความกลัว ” เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Secret คอลัมน์ My Secret เขียนโดย ท่านปิยสีโลภิกขุ
ใครว่าฝรั่งไม่สนใจเรื่องผี ขึ้นชื่อว่าสิ่งลี้ลับ ไม่ว่าใครก็คงอดใจใคร่รู้ไม่ไหว ถึงจะมีฐานความคิดเชิงวิทยาศาสตร์สักเท่าใดก็ตาม
เย็นวันหนึ่ง ท่ามกลางวงสนทนาที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย ใครคนหนึ่งเอ่ยถึงทางเดินโบราณในป่าใกล้สะพานใหม่ (the New bridge) ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1782 หรือประมาณสองร้อยกว่าปีมาแล้ว (ขนาดนี้ถือว่า “ใหม่” สำหรับคนอังกฤษ) ว่ากันว่า พื้นที่นี้ทหารโรมันเคยสู้รบกันมาแต่ครั้งอดีต
พระหลายรูปที่เดินผ่านบริเวณนั้นยามค่ำคืน ต่างรายงานว่ามีบรรยากาศแปลกๆ โดยเฉพาะในคืนพระจันทร์เต็มดวง รายหนึ่งเล่าว่าเคยพยายามถ่ายรูปบริเวณนั้นกลางดึก แต่จนแล้วจนรอดก็ถ่ายไม่สำเร็จบางคราวขาตั้งกล้องทรุดลงขณะกำลังจะกดชัตเตอร์ หรือเกิดความรู้สึกเย็นเยียบเหมือนมีอะไรมายึดมือไว้
ขณะเล่า ผู้ฟังทุกคนเงียบกริบ สายตาทุกคู่จับจ้องตัวผู้เล่าด้วยใจจดจ่อ ชวนให้นึกถึงเวลาออกค่ายอาสาฯสมัยเรียนหนังสือ ซึ่งมักจะเล่าเรื่องลึกลับสู่กันฟังยามดึก ไม่ว่าจะเล่าครั้งใดก็จับความสนใจของผู้ฟังอยู่หมัดทุกครั้ง ไม่นึกเลยว่ามาถึงเมืองอังกฤษจะเจอบรรยากาศเช่นเดียวกันนี้
พระอเมริกันที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมาชวนไปนั่งสมาธิบริเวณที่ว่าในคืนวันเพ็ญที่จะมาถึง ฟังดูเข้าที เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าคนไม่กลัวผีจะเผชิญเรื่องนี้อย่างไร
สมัยบวชใหม่ เส้นทางกลับกุฏิจะต้องผ่านถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งว่ากันว่ามีอะไรน่าพิศวงหลายอย่าง มีผู้เห็นคนชุดขาวเดินไปมาแถวนั้นยามค่ำคืนแถมยังมีกระดูกช้างชิ้นเบ้อเริ่มวางไว้แถวๆ นั้นเสียด้วย เพียงแค่ฟังก็ทำให้จินตนาการเตลิดไปไกลสุดกู่แล้ว
คืนหนึ่งขณะเดินผ่านบริเวณนั้นก็เกิดความรู้สึกเย็นเยือกขึ้นมาจับจิต จึงตัดสินใจเดินไปพิสูจน์ตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า“กลัวที่ไหน ให้ไปที่นั่น” ถ้าขจัดความกลัวไม่ได้ก็ต้องอยู่ร่วมกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ คิดดูแล้วอย่างหลังน่ากลัวกว่าเยอะ
ประสบการณ์คืนนั้นทำให้เห็นการต่อสู้ในใจชัดเจนมากที่สุดในชีวิตใจหนึ่งไม่อยากจะไปเลย แต่อีกใจหนึ่งก็บอกว่าต้องพิสูจน์ให้รู้ดำรู้แดงใจสองฝ่ายต่างหาเหตุผลมาหักล้างกันอย่างดุเดือด แทบจะต้องฉุดขาให้เดินไปทีละก้าวนั่นเทียว
ครั้นเดินถึงถ้ำที่ใครๆ หวั่นเกรงนักหนา จู่ๆ ความกลัวที่ท่วมท้นใจก็ปลาสนาการไปสิ้น ความกล้าหาญอย่างที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนปรากฏขึ้นแทนที่ สามารถบอกตัวเองให้ฉายไฟดูทุกซอกทุกมุมชนิดที่ทำไม่ได้ในยามปกติ ประสบการณ์นี้ทำให้รู้ว่า ความกลัวกับความกล้านั้นมีเพียงเส้นบางๆ คั่นอยู่เท่านั้น และความกลัวอาจเป็นมิตรที่ให้ความรู้แก่เราอย่างคาดไม่ถึง
จากวันนั้นถึงวันนี้ แม้ความกลัวยังไม่หายไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็อยู่ในป่าได้เป็นปกติ เดินไปมาในความมืดตามลำพังได้โดยไม่มีปัญหา อิสรภาพจากความกลัวช่วยให้ชีวิตโล่งและเบาลงเยอะ
เรื่องเล่าในวงสนทนาปิดท้ายด้วยตำนานป้อมทหารในป่า กุฏิที่พักอยู่ตอนนั้นก็บังเอิญตั้งอยู่บนป้อมที่ว่าเสียด้วย การรบสมัยก่อนใช้ดาบต่อสู้ระยะประชิด จึงเชื่อกันว่ามีทหารอังกฤษเสียชีวิตในบริเวณนั้นไม่น้อย พระฝรั่งรูปหนึ่งแกล้งพูดว่า วันดีคืนดีอาจได้ยินเสียงนักรบชุดเกราะขี่ม้าย่ำไปมาก็ได้
นึกสงสัยว่า คำแผ่เมตตาเป็นภาษาบาลี ผีฝรั่งจะฟังรู้เรื่องหรือเปล่า เกิดเข้าใจว่าเป็นหมอผีมาปราบเห็นทีจะยุ่งกันใหญ่ว่าแล้วก็บอกพระรูปนั้นไปว่า ระหว่างเดินกลับกุฏิด้วยกันคืนนี้ถ้าเจออะไรแปลกๆ ต่างคนต่างโกยก็แล้วกัน
บทความน่าสนใจ
คิดเก่ง ทุกข์เก่ง บทความธรรมะจาก ปิยสีโลภิกขุ
ลิ้มรสความเงียบ เรื่องเล่าช่วงเข้าพรรษา ปิยสีโลภิกขุ
ท่าทีต่อชีวิต คือสิ่งลิขิตความเป็นคุณ บทความจาก ปิยสีโลภิกขุ
แบบทดสอบ ความกลัว การพูดในที่สาธารณะ
หากกลัวความทุกข์ จงข่มจิตให้อย่ากลัวความทุกข์ คำแนะนำจากแม่ชีศันสนีย์