“บางครั้ง…เรามองหา สิ่งที่ขาด จนพลาด สิ่งที่มี และบางครั้งก็เฝ้าหา สิ่งที่ดี จนทำให้ สิ่งที่มี นั้นหายไป..” ประโยคเด็ดประโยคนี้หลายคนคงเคยอ่านเจอในโซเชียลกันอยู่บ่อยๆ ใช่มั้ยคะ แต่สังเกตได้ว่าไม่ค่อยมีใครขยายความหรือให้คำจำกัดความที่ลงลึกกับประโยคดังกล่าวกันเท่าไรนัก เอาจริงๆ ถ้าอ่านดูดีๆ ความหมายของประโยคนี้ก็ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว แต่วันนี้ทางเราอยากมาขยายความเพื่อให้เข้าถึงและเข้าใจมากขึ้น เผื่อบางทีใครอยากเอาไปเป็นข้อคิด เตือนใจ หรือหันกลับมามองตัวเองว่า เรา “กำลังมองหาสิ่งที่ขาดจนทำให้ต้องพลาดสิ่งที่มีไปรึเปล่า?”
บนโลกแห่งความเป็นจริงคนเรามักจะมองว่าอะไรที่ อยู่ใกล้ตัว อะไรที่มีอยู่แล้วมักไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไรนัก แต่จะพยายามเสาะแสวงหาสิ่งที่ยังไม่มีเพื่อให้ได้มา แม้ว่าการตามหาจะทำให้เกิดความทุกข์ ความไม่สบายใจ หรือความลำบากก็ยอม ทั้งสิ่งของหรือแม้แต่คนรอบกาย …มาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถามว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่มีอยู่นั้นสำคัญกับเรา?
เรื่องนี้ขอแนะนำว่าให้คุณมองและไตร่ตรองดูให้แน่ใจ และคิดดูดีๆ ว่าถ้าคุณขาดสิ่งนั้นไปจริงๆ ชีวิตของคุณจะยังโอเคอยู่หรือเปล่า ถ้าคำตอบคือ “ไม่โอเค” แสดงว่าสิ่งนั้นแหละเป็นสิ่งสำคัญ แล้วก็ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาอะไรเพิ่มอีกเพื่อให้ตัวเองต้องลำบาก ต้องทุกข์ ต้องไม่สบายใจ เพียงแค่รักษาสิ่งที่มีนั้นเอาไว้ให้อยู่เพื่อชีวิตจะได้โอเคแบบนี้ไปนานๆ ก็พอ
>> ตามหาสิ่งที่ขาด ไม่สำคัญเท่ารักษาสิ่งที่มี
ในขณะที่บางคนก็มีทุกอย่างพร้อมแล้วแต่ยังพยายามมองหาสิ่งต่างๆ อยู่ร่ำไป จนทำให้สิ่งสำคัญในชีวิตหายไป มาหาความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ให้เต็มที่เสียก่อน บางทีกลับมองว่าชีวิตที่เจอมีแต่ปัญหามากมายนั้นมาจากสิ่งที่ตัวเองยังขาด และตามหา ก็ได้แต่นั่งบ่นระบายอารมณ์ออกมา แต่มีไม่กี่คนที่พยายามคิดหาวิธีแก้ไข หาคำตอบในสิ่งที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น การที่คุณตั้งทัศนคติที่จะพยายามหาคำตอบว่าอะไรที่ทำให้ชีวิตเจอปัญหา แล้วคิดหาทางออกให้เจอนั่นเรียกว่าเป็นความสำเร็จอีกอย่างของชีวิตแล้ว เพราะนั่นคือทัศนคติเริ่มต้นของคนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตได้นั่นเอง เริ่มมองเห็นแล้วว่าการตามหาสิ่งที่ขาด ไม่สำคัญเท่าการรักษาสิ่งที่มีเอาไว้นั่นเอง
บางครั้งเรามัวแต่มองออกไปภายนอก จนลืมมองถึงสิ่งดีๆ ที่เรามีอยู่กับตัว หากเราได้ตั้งสติ และมองออกจากภายใน มองด้วยจิตใจที่งดงาม เราคงได้เห็นความงดงาม และคุณค่าของสิ่งดีๆ อีกมากมาย ที่อยู่รอบตัวเรา ใจของเราคงผ่องใส ชีวิตของเราคงมีแต่ความสุขได้ทุกวัน บางคนมัวแต่มองหาว่าตัวเองขาดอะไร หรือมองแต่สิ่งที่คิดว่าถ้าได้ครอบครองจะมีความสุข จนลืมนึกไปว่าสิ่งใดที่ครอบครองสิ่งนั้น สุดท้ายต้องสูญเสียมันไป และเขาก็ลืมสิ่งที่มีหรือคนข้างๆ แท้จริงแล้วสิ่งที่เขาต้องการนั้นอาจจะไม่ดีเท่าสิ่งที่เขามีหรือคนที่รักเขา จนเขาคนนั้นได้เดินจาก พอหันกลับมาจึงเข้าใจว่าคนนั้นเขาไม่รอแล้ว เพราะเขาได้เดินจากไปไกลเกินกลับมา
>> มีช่วงเวลาดีๆ ให้คุณได้ชื่นชมเวลามองตัวเองในกระจก
แต่ก็นั่นแหละค่ะไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่คุณสามารถมองตัวแล้วชื่นชมกับตัวคุณเอง อันนี้ต่างจากการหลงตัวเองนะคะ เพราะมันคือการที่คุณมองเห็นคุณค่าในตัวคุณเอง รู้สึกได้ว่าชีวิตของคุณมีความงดงามในแบบที่คุณตัวเองรู้สึกได้โดยไม่ต้องรอให้คนอื่นมาตัดสิน การเริ่มยิ้มให้กับตัวเอง ภูมิใจกับตัวเอง เป็นความสำเร็จที่คุณสร้างได้ด้วยตัวเองที่สำคัญมากๆ ถ้าคุณทำได้วันนี้ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ เลยล่ะค่ะ
>> มีคนที่คอยสนับสนุนคุณในทุกๆ เรื่อง
การที่คนเรามีคนดีๆ อยู่รอบกาย แต่เอาใจไปผูกกับคนที่คิดไม่ดีกับเรา คนที่คอยแต่จะทำร้ายเรา นั่นก็ทำให้เกิดความทุกข์ เมื่อทุกข์การแสดงออกกับคนดีๆ ที่อยู่รอบกายก็ไม่เกิดขึ้น คุณอย่าลืมว่าการมีกัลยาณมิตรเป็นทรัพย์ประเสริฐที่มีเงินมากมายก็ยังหาซื้อกันไม่ได้นะคะ ยิ่งการมีคนที่คุณสามารถพึ่งพาเขาได้ในยามยาก มีคนที่คุณรู้ว่าเขาจะสามาถช่วยคุณได้ในทุกๆ เรื่อง และพร้อมที่จะทำทุกๆ อย่างเพื่อคุณถือว่าเป็นอะไรที่สุดจะประเสริฐในชีวิตแล้วล่ะค่ะ
>> มีความรู้สึกร่วมกับผู้อื่น และใส่ใจคนข้างๆ
คนทั่วไปมักสนใจแต่ตัวเองหรือไม่ก็สนใจแต่คำพูดของคนที่ไม่หวังดี ถ้าคุณหันมามองคนข้างๆ และใส่ใจในความหวังดีของเขาเหล่านั้น ใส่ใจในคำเตือน และเข้าใจในความรู้สึก ก็จะทำให้คุณได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ นอกจากนี้แล้วหากคุณเข้าใจความรู้สึกของคนที่ข้างกายที่หวังดีกับคุณ คุณเริ่มรู้สึกเป็นห่วง แคร์ อยากช่วยเหลือคนเหล่านั้น นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าจิตใจของคุณงดงามขึ้นกว่าเดิม แล้วความสุขในชีวิตก็จะตามมา
>> หยุดแคร์ว่าคนอื่นจะพูดถึงคุณอย่างไร
ปกติคนเรามักจะยึดติดความรู้สึกของตัวเองกับคำพูดของคนอื่น จะทำอะไรก็กลัวว่าจะถูกคนอื่นมองไม่ดี จากคนนั้นคนนี้ ทำให้ชีวิตขาดความสุข เอาชีวิตไปผูกติดกับติดกับอะไรหลายๆ อย่างโดยไม่จำเป็น เมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถสลัดความคิดและการแคร์คนอื่นที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับชีวิตคุณไปได้ คุณจะรู้สึกว่าชีวิตคุณดีขึ้นเยอะมาก ฉะนั้นถ้าคุณสามารถเลิกคิดเรื่องว่าคนอื่นจะมองคุณอย่างไรได้แล้ว แล้วหันมาแคร์แต่คนที่แคร์คุณนั่นคอเรื่องท่ายินดีด้วยมากๆเลยค่ะ
สุดท้ายแล้วต้องไม่ลืมว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่คุณจะรักตัวคุณเอง เพราะคนเดียวที่จะอยู่กับคุณไปทั้งชีวิต ก็คือตัวคุณ ถ้าคุณกล้าที่จะยอมรับและรักในสิ่งที่คุณเป็น และเปิดโอกาสให้คนที่รักและหวังดีในตัวคุณจริงๆ ได้สัมผัสตัวตนของคุณ ถ้าทำได้แบบนั้นแล้ว คุณคือคนที่โชคดีมากๆ เลยล่ะค่ะ และนี่ก็เป็นข้อคิดดีๆ ที่ได้กลั่นกกรองเอามาให้ได้อ่านกัน อาจจะได้ทั้งข้อคิด และกำลังใจดีๆ ในการดำเนินชีว้ตต่อไป ถึงจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน…#รัก