เราทุกคนต่างล้วนก็ต้องมีเพื่อนด้วยกันทั้งนั้น มีคนเข้ามาในชีวิตเรามากมาย มีทั้งดีและไม่ดี บางคนก็เรียกว่าแค่คนรู้จัก เพราะเมื่อเรายิ่งโตขึ้นเราจะยิ่งเห็นชัดว่ามีเพื่อนที่จริงใจกับเราน้อยลงไปเรื่อยๆ บางคนอาจบอกว่าฉันอยู่คนเดียวได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนก็ได้ ซึ่งอาจจะใช่ แต่เอาจริงๆ ทุกคนก็คงอยากมีใครสักคนที่คอยรับฟังยามเรามีเรื่องไม่สบายใจ คอยให้คำปรึกษาเวลาต้องการ ดังนั้น เพื่อนถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตอีกสิ่งหนึ่งเลย บางคนชีวิตจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับการคบเพื่อนเลยนะคะ ถ้าจะพูดให้เห็นภาพก็คือเพื่อนดีเหมือนมีคนช่วยรดน้ำ พรวนดินให้พลังใจในตัวเราเติบโตงอกงามขึ้น นำเราไปสู่ความสุขความสำเร็จนั่นเอง
เมื่อเพื่อนเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญมากในชีวิตเรา วันนี้เราเลยมีคำแนะนำให้ทุกคนในเรื่องของการคบเพื่อน ใช่แค่เพื่อนแบบไหนที่ควรคบ แต่จะพูดถึงว่าเพื่อนแบบไหนที่มีแล้ โอ้โห! ชีวิตเราดีขึ้น เจริญขึ้นด้วยไม่ใช่แค่ดีเฉยๆ เท่านั้นค่ะ
>> จริงใจในการวิจารณ์ เป็นกระจกสะท้อนตัวเรา ทำให้เราได้มองเห็นตัวเองอีกมุม >>
เวลาที่เราต้องการคนที่คอยให้คำปรึกษา จะมีเพื่อนที่คอยแนะนำแบบไม่เกรงใจ เพราะถ้าเป็นเพื่อนกันย่อมต้องรับฟังคำวิจารณ์ของเพื่อนได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าคำวิจารณ์นั้นอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงหรือเปล่า เพื่อนที่ไม่ได้คล้อยตามไปกับเราในทุกเรื่อง เช่น เวลาเราด่าหัวหน้าให้ฟังก็จะไม่ได้ด่าผสมด้วย แต่จะบอกว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้เจ้านายทำแบบนี้กับเรา เราควรแก้ไขยังไงให้เจ้านายรัก ดีกว่าจะเม้าท์ไปด้วยถ้าแบบนั้นเราก็แค่ได้ระบายอารมณ์ แต่ชีวิตไม่ได้ดีขึ้นเลยจริงมั้ยคะ
คนที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ เค้าจะไม่เข้าข้างเพื่อนเมื่อทำผิดค่ะ ต้องรู้จักบอก เตือน ตำหนิ เวลาเราทำผิด เป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เราเห็นตัวเองในอีกมุม สังเกตง่ายๆ ก็คือเมื่อคุยกับเพื่อนคนนั้แล้วเรามีความคิดที่ดีขึ้นหรือเปล่าแค่นั้นเอง จำไว้ว่าเพื่อนที่ดีต้องไม่ใช่แค่มีไหล่ให้ซบ แต่บางทีก็ต้องคอยตบให้ตื่นด้วยค่ะ
>> เพื่อนที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ยิ่งเขาสูงขึ้น ก็จะดึงเราขึ้นไปด้วย >>
ทุกครั้งที่เราเจอเพื่อน ลองสังเกตว่าเพื่อนคนนั้น ได้ทำอะไรดีๆ ขึ้นจากเดิมหรือเปล่า เช่น อ่านหนังงสือใหม่ๆ ดีๆ อ่านบทความดีๆ มาบอกเราบ้างหรือเปล่า คือ คุยแต่เรื่องใหม่ๆ ที่ไปเจอมาให้เราฟัง แสดงว่าเพื่อนคนนั้นเค้าคอยพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ซึ่งคนที่รู้จักเพิ่มความสามารถให้ตนเองอยู่เรื่อยๆ เป็นคนที่น่าคบหาสมาคมด้วย เพราะเมื่อเค้ามีความขยัน มีความก้าวหน้าเพื่อนคนนั้นก็จะดึงเราให้ก้าวหน้าตามไปด้วย เพราะคนที่มีการพัฒนาตัวเองตลอด มีความขยันขันแข็ง สู้งาน รู้จักทำมาหากินเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว พึ่งพาตัวเองเป็นคนที่น่ายกย่อง ไม่สำคัญว่างานที่เขาทำจะมีตำแหน่งใหญ่โตหรือไม่ เพียงแค่เป็นงานสุจริตก็น่าชื่นชมแล้วค่ะ
>> สนับสนุนความฝันของเรา ชวนไปทำสิ่งที่ชีวิตเจริญ ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายและความฝัน>>
ให้คำแนะนำ ชักจูงไปในทางที่ถูกต้องจากเพื่อนสักคน ถือเป็นการสนับสนุนความฝันของกันและกันได้อย่างหนึ่งนะคะ เพราะในความฝันบนเส้นทางอาชีพของคนเราที่ต่างกันนั้น บางคนอาจมองว่าไม่เกี่ยวกันเรื่องงานกับเรื่องเพื่อน ผิดค่ะ เพราะหากมีคนช่วยหนุน ช่วยดัน ช่วยเสริมให้ฝันนั้นเป็นจริงได้ก็ถือเป็นความโชคดีของเราที่มีเพื่อนแบบนั้นจริงมั้ยคะ การที่เราได้รับกำลังใจก็ถือเป็นการสนับสนุนในความฝันซึ่งกันและกันแล้ว ไม่มีการห้ามหรือกีดกันความฝันซึ่งกันและกัน ต้องช่วยกันผลักดันให้พวกเราเดินถึงฝันไปด้วยกันด้วยความรักและความเข้าใจ
>> เพื่อนที่โทรหาเราตอนมีความสุขไม่ใช่แค่ตอนที่มีความทุกข์ >>
หลายคนเคยสังเกตมั้ยคะว่าเพื่อนที่โทรมาหาเราส่วนใหญ่โทรมากันตอนไหน ตอนที่พวกเขามีความสุข หรือมีความทุกข์ ส่วนใหญ่เพื่อนจะโทรมาหาเราเวลาเหงา หรือชวนเราออกไปเที่ยว ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่สิ่งผิดนะคะ แต่เพื่อนที่น่าคบจริงๆ ต้องคอยโทรมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันบ้าง มีข่าวดีมาบอก เช่น ได้ทำตามฝันแล้ว และถามกลับว่าเราเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ปัญหามาเล่าให้ฟังอย่างเดียว เวลาคุยกันไม่พูดถึงแต่เรื่องของตัวเอง เพื่อนต้อง “หวังดี” ไม่ใช่ “หวังได้” เวลาเราพูดออกไปก็ไม่มีอะไรตอบกลับมา ไม่มีกำลังใจ ไม่มีคำแนะนำ มีแค่คำพูดของเราที่ลอยลมออกไปเท่านั้น แล้วก็จะวนกลับมาที่เรื่องของอีกฝ่ายอีกครั้ง เพื่อนแบบนั้น ตัดค่ะ ตัด!! เพื่อนดีควรนึกถึงกันตอนมีความสุขด้วย ไม่ใช่นึกถึงตนมีทุกข์เท่านั้นนะคะ
ก่อนจบเรื่องเพื่อนวันนี้ ขอหยิบยกเอาคำกล่าวของท่าน พุทธทาสภิกขุที่ว่า “อันเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา เหมือนเกลือดีมีน้อยด้อยราคา ยังดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล”
เพื่อนดีหาไม่ยากหลอกค่ะเค้าอยู่ใกล้ๆ ตัวเรานั่นแหละ แค่ลองสังเกตดีๆ ว่าที่คบอยู่นั้นเป็นคนรู้ใจหรือแค่คนรู้จัก ลองนำข้อสังเกตที่เราบอกสังเกตดูนะคะ ใครที่มีเพื่อนที่มีนิสัยตรงตามข้อเหล่านี้อยู่แล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณมีเพื่อนแท้ตัวจริงในชีวิตแล้ว ซึ่งก็ควรจะรักษาสัมพันธภาพดี ๆ แบบนี้เอาไว้ให้เหนียวแน่นยาวนานให้สมกับความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันและกัน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
อยากมีชีวิตดี๊ดี ลองเริ่มแบบนี้ดูสิ
พูดให้พอดี ไม่เสียงาน ไม่เสียเพื่อน
วิธีสร้างกระดานแห่งความฝัน