ขับไล่ความขี้เกียจในตัวคุณ

5 คาถา ขับไล่ความขี้เกียจในตัวคุณ

พูดถึงความขี้เกียจ ใครๆ ก็ต้องเคยเป็นกันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย ตอนที่กลับมาถึงบ้าน แล้วหมดแรงจะทำอย่างอื่น หรือแม้แต่ตอนที่ตื่นเช้าขึ้นมา ยังไม่อยาก จะลุกมาเผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่ต้องเริ่มเคลียร์อีกครั้ง ความจริงแล้วก็ไม่ผิดอะไรที่ ความขี้เกียจ จะเข้ามาเยี่ยมเยือนเราบ้างเป็นครั้งคราว ขึ้นอยู่กับว่าเราจะอยู่กับมันอย่างมีประสิทธิภาพ และไล่มันไปทางอื่นบ้างได้มั้ย เพราะฉะนั้นในเวลาที่เริ่มเหนื่อยและเนือย ลองเอาคาถาที่ใช้ ขับไล่ความขี้เกียจในตัวคุณ เหล่านี้มาใช้กันดีกว่าค่ะ

 

5 คาถา ขับไล่ความขี้เกียจในตัวคุณ

 

:: ควบคุมตัวเองให้ไม่อยู่ในสภาวะที่มีสิ่งล่อใจ ::

เคยมั้ย ที่รู้สึกว่ากำลังทำบางอย่าง ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน้าที่หลักๆ ของเราเลย แต่ก็ติดลมจนหยุดทำสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น การดูซีรี่ย์ การเล่นเกม การไถหน้าจอโซเชียลมีเดีย หากเรารู้ตัวว่ามีหน้าที่หลักๆ ที่จำเป็นต้องทำรออยู่ เช่นงานประจำ การบ้าน โปรเจคสำคัญที่ต้องส่งวันพรุ่งนี้ นอกจากการจัดลำดับความสำคัญแล้ว เราก็ควรจะหลีกเลี่ยง ไม่ข้องเเวะกับเรื่องที่สิ้นเปลืองเวลา หรือทำให้เกิดภาวะเสพติด เหล่านี้ไป

 

:: เขียนผลเสียหลักๆ ที่เกิดจากความขี้เกียจ ::

ลองคิดหาข้อเสียที่จะเกิดจากความขี้เกียจของเรา เช่น !  ถ้าไม่มีเงินซื้อของที่จำเป็นจะทำยังไง ใครจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ แบบนี้จะดูแลคนที่เรารักได้ยังไง หรือถ้าไม่มีใครที่รักเป็นพิเศษ ก็ต้องเริ่มจากการ รักตัวเอง ก่อน หากรู้สึกขี้เกียจบ่อยๆ ลอง list ผลเสียที่จะเกิดจากความขี้เกียจออกมาเป็นข้อๆ เเปะเอาไว้บนจุดที่มองเห็นได้ชัด เพิ่งย้ำกับตัวเอง ความขี้เกียจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน บางครั้งก็มาในช่วงที่เราเหน็ดเหนือย อ่อนล้า บางครั้งก็เกิดจาก ความเบื่อ เพราะสิ่งที่ทำ เป็นเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ แต่หากเอาแต่ขี้เกียจ ก็จะมีผลเสียที่ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตตามมา

 

:: กระตุ้นตัวเองด้วยคำว่า อยากลองทำแบบนี้ดูจัง ::

ความสนใจใคร่รู้ เป็นคุณสมบัติอันน่าชื่นชมที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่แรก หากเราเอาแต่คิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันช่างน่าเบื่อ เราก็จะขาดแรงจูงใจ ในการทำสิ่งต่างๆ ไป ลองเปลี่ยนจาก ‘ทุกสิ่งช่างน่าเบื่อ’ เป็น ‘ทำแบบนี้ต้องสนุกแน่ๆ’ หรือ ‘อยากลองทำแบบนี้ดูจัง’ ดู ปรับเปลี่ยนมุมมอง และกระตุ้นให้ตัวเอง กลับมาสนใจใคร่รู้กับเรื่องรอบตัวอีกครั้ง เป็นหนึ่งในวิธีสลัดตัวขี้เกียจให้พ้นทางค่ะ

 

:: ระลึกอยู่เสมอว่าไม่มีอะไรแน่นอน ::

ที่บางคนยังรู้สึกขี้เกียจอยู่ บางเป็นเพราะ เรื่องที่ต้องทำ ยังพอจะผัดไปทำวันอื่นๆ ได้ ยังมีเวลามากพอที่จะให้นอนเล่นไปวันๆ ได้ ความจริงแล้วไม่ผิด ที่เราจะอยากทำตัวว่าง ให้นานขึ้นอีกสักนิด แต่หากเอื่อยเฉื่อยไป ก็จะกลายเป็นความขี้เกียจ ขอให้คิดเผื่อเอาไว้ว่า ไม่มีสิ่งไหนแน่นอน งานที่คิดว่าส่งมะรืนไว้ค่อยทำก็ได้ชิ้นนั้น อาจจะมีเหตุให้ต้องเลื่อนส่งเร็วขึ้นอย่างกระทันหัน ผัดวันไม่ยอมออกกำลังกาย อาจมีโรคร้ายรอเราอยู่ในอนาคตอันใกล้ ก็เป็นได้ ดังนั้นอะไรที่สมควรทำ ก็อย่าชักช้าปล่อยวาง รีบทำไว้ก่อนจะดีกว่า

 

:: พูดว่า ‘ฉันทำได้ ยิ่งกว่าที่ทำอยู่นี้อีก’ ::

ในวันหม่นๆ คงมีบ้างที่เรารู้สึกหมดไฟ และคิดไปว่า เหนื่อยจะแย่ จะขยันอะไรกันหนักกันหนา ลองเปลี่ยนมาคิดว่า สิ่งที่ทำอยู่ กำลังเพิ่มพูนศักยภาพให้ตัวเอง ทีละเล็กละน้อย เหมือนกับ กฎ10,000ชั่วโมง ของมัล คอล์ม แกลดเวลล์ ที่กล่าวไว้ว่า คนเราจะเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งได้ ต้องใช้เวลากับมันอย่างต่ำ 10,000ชั่วโมง ขึ้นไป การเป็นคนมีศักยภาพ ย่อมดีกว่าคนที่หยุดนิ่งไม่ยอมพัฒนาไปสักทาง

 

อยากจะร่ายมนต์เพื่อขับไล่ตัวขี้เกียจ ต้องเริ่มที่ตัวเองเสมอค่ะ 🙂

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เชื่อสิว่า ถ้าก่อนนอนสวย…ตื่นมาก็จะสวย!!

รวมไอเดีย อาชีพเสริมรายได้ดี นอกเวลางานประจำ

4 แนวคิดพัฒนาชีวิต พาตัวเองก้าวขาออกจาก Comfort Zone

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.