เบื้องหลังการทำความดี ของชายขับแท็กซี่เจ้าของฉายา แท็กซี่อุ้มบุญ
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ แท็กซี่อุ้มบุญ กันมาบ้างแล้ว…นี่คือฉายาของเจ้าของแท็กซี่สีเขียวเหลือง นามว่า
สุวรรณฉัตร พรหมชาติ ที่โด่งดังจากการให้พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี คนพิการและคนตาบอด นั่งรถฟรี แถมยังอาสาอุ้มผู้พิการ อัมพฤกษ์ อัมพาตขึ้นรถฟรีอีกด้วย
แน่นอนว่า การทำดีของใครสักคน มักจะมีแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลัง…และนี่ คือเรื่องราวตอนหนึ่งของเขา
ย้อนไปในวัยเด็ก ชีวิตของสุวรรณฉัตรลำบากมาก จนต้องบวชเป็นสามเณร เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะแบ่งเบาภาระของแม่ได้ ระหว่างนั้น เขาออกตามหาพ่อที่ไม่เคยพบกัน
“ผมออกตามหาพ่อขณะที่ยังเป็นสามเณร ตอนนั้นเดินตามหาไปตามที่ต่างๆ จนได้พบคุณลุงขับรถตู้คนหนึ่ง ท่านพาผมไปส่งยังที่หมายโดยไม่เก็บค่ารถ ทั้งยังถวายปัจจัยให้ด้วย 100 บาท ผมประทับใจว่า ท่านเป็นพุทธบริษัทที่ดี และตั้งใจว่าต่อไปจะทำอย่างที่คุณลุงท่านนี้เคยทำให้ได้ จึงเป็นที่มาของการนิมนต์พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี นั่งรถฟรี”
หลังจากที่ได้พบกับพ่อ สุวรรณฉัตรจึงสึกออกมาทำงาน พออายุ 15 ปีก็ตัดสินใจเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แต่กลับโดนหลอกไปใช้แรงงานในเรือประมงที่จังหวัดชุมพร ครั้งนี้เขาได้รับน้ำใจอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันลืม
“ก่อนถูกบังคับให้ลงเรือ ผมถูกเรือชนขาจนเป็นแผลฉกรรจ์ แปดวันที่อยู่บนเรือลำนั้นผมไม่ได้กินยาหรือใส่ยาใด ๆ เลย เมื่อกลับเข้าฝั่งจึงหนีออกมา จนได้เจอกับรถสองแถว คนขับรถมีน้ำใจพาไปส่งที่สถานีรถไฟชุมพร แม้รถไม่ผ่านทางนั้น ผมนอนไข้ขึ้นอยู่ที่ม้าหินอ่อนในสถานีรถไฟ หัวเข่าเน่าเฟะ แมลงวันตอม คนผ่านไปผ่านมาทั้งวันไม่มีใครสนใจ มารู้สึกตัวอีกทีตอนมีคนมาเขย่าตัว ลืมตาขึ้นมาก็เห็นชายหญิงหกเจ็ดคน ซึ่งคงเป็นคนมาใช้แรงงานที่นี่
“ผมเล่าเรื่องที่เจอมาให้พวกเขาฟัง เขาก็ไปซื้อข้าว ซื้อน้ำ ซื้อตั๋วรถไฟ และรวบรวมเงินมาให้อีก 300 บาท พวกเขาเป็นเหมือนเทวดามาโปรด ถึงไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่หมางเมินเพื่อนมนุษย์ ความเมตตาของพวกเขากลายเป็นแรงผลักดันให้ผมช่วยเหลือผู้ป่วย โดยบริการอุ้มผู้พิการ อัมพฤกษ์ อัมพาต นอนติดเตียงไปกลับโรงพยาบาลมาตลอด”
สุวรรณฉัตร เล่าถึงการทำความดีของเขาว่า
“บางคนบอกว่าต้องรวยก่อน ค่อยช่วยเหลือคนอื่น แต่ผมไม่ต้องรอวันนั้น เพราะผมทำอยู่ทุกวันอยู่แล้วผมมีเพียงแค่มีพละกำลังก็สามารถแบ่งปันให้สังคมได้ ถ้ามัวคิดแต่เรื่องเงิน ชาตินี้คงทำไม่ได้หรอก การได้ช่วยเหลือคนอื่นทำให้ผมมีความสุข และรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า เหนื่อยกายแค่ไหน เดี๋ยวก็หาย ถ้าพรุ่งนี้ผมตายก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว”
สุดท้ายแล้วความดีของเขาก็ไม่ถูกมองข้าม แม้ปัจจุบันเขาจะเน้นการช่วยเหลือเป็นหลัก ทำมาหากินเป็นรอง แต่กลับไม่เคยขัดสน
“บางเดือนผมแทบไม่ได้กดมิเตอร์เลยแต่ก็มีคนใจดีช่วยสนับสนุนตลอด บางครั้งไปกินข้าว เจ้าของร้านจำได้เขาก็ไม่คิดเงิน บางทีรถติดอยู่ก็มีคนขับรถเก๋งคันข้างๆ ยื่นเงินมาร่วมทำบุญ เด็กแว้นก็ขับตามเอาเงินมาช่วย เวลาไปอุ้มคนไข้ หมอ พยาบาลก็ช่วยเหลือเสมอ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับมา ผมนำมาใช้เป็นทุนในการทำงานเพื่อสังคมต่อไป
“ล่าสุด คุณต๊อด - ปิติ ภิรมย์ภักดีซึ่งติดตามเฟซบุ๊กของผมและเห็นผมช่วยเหลือคนมาตลอด จึงมอบรถคันใหม่ให้ โดยไม่ต้องการผลประโยชน์ใดๆ เพียงแค่อยากสนับสนุนให้ผมช่วยเหลือสังคมต่อไป แต่ผมอยากให้คุณต๊อดได้ไปช่วยเหลือสังคมกับผมทุกที่ จึงติดสติ๊กเกอร์โลโก้สิงห์เพื่อเป็นเกียรติที่คุณต๊อดสนับสนุนให้ทำความดี และรู้สึกว่าได้ไปช่วยเหลือคนด้วยกันตลอด”
สุรรณฉัตรมุ่งมั่นที่จะช่วยสังคมไปจนกว่าตัวเองจะหมดแรง และเชื่อได้ว่าความดีที่เขาได้ทำมาตลอดจะยังคงอยู่ในใจของผู้รับทุกคนเสมอ
เรื่อง กองบรรณาธิการ ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี สไตลิสต์ ณัฏฐิตา เกษตระชนม์
บทความที่น่าสนใจ
“ขอทำความดีทุก ๆ ลมหายใจ” ทนายสงกานต์ เจ้าของฉายา เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย
เรื่องราวของยายยิ้ม เย้ยยาก…หญิงชราผู้มีใจรักให้ทุกชีวิต
Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/