5 ผลกระทบจากการไม่มูฟออนจากความผิดพลาด ที่ทำให้เรากลายเป็น คนคิดลบ

5 ผลกระทบที่มาจากการไม่มูฟออนจากความผิดพลาด ที่ทำให้เรากลายเป็น คนคิดลบ

ความผิดพลาดที่ทำให้เรารู้สึกแย่อย่างไม่หยุดไม่หย่อนนั้น ไม่ได้ทำให้เราคิดลบแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียอื่นๆอีกมากมายกับเราไม่ว่าจะทางกาย หรือทางใจ แต่มีอะไรบ้างที่ทำให้เราแย่ลงเรื่อยๆจากการไม่มูฟออนจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น วันนี้ GL ก็เลยขอยกตัวอย่างสั้นๆ กับ 5 สิ่งที่ได้จากการไม่มูฟออนจากความผิดพลาดมาฝากกันค่ะ รู้แบบนี้เรามาก้าวข้ามผ่านความผิดพลาดนี้กันเถอะ

1.อาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้

แน่นอนว่าการที่เราเอาแต่คิดถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และไม่สามารถก้าวผ่านมันไปได้ หรือมองว่าสิ่งนี้คือบทเรียน คือประสบการณ์ที่ทำให้เราโตขึ้นต่อไปได้ ก็จะทำให้เรายิ่งรู้สึกผิดหวังกับตัวเอง รู้สึกแย่กับตัวเอง คอยโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว สภาพจิตใจของเราก็แย่ตามไปด้วย ดังนั้นการที่เราเอาแต่คิดวนไปวนมาและโทาตัวเองกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จะทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าสูง

2. สุขภาพกายแย่ลง

ใช่ค่ะ แม้ว่าสิ่งที่เราเอาแต่คิดจะมีผลต่อสุขภาพจิตของเรา ทำให้เรารู้สึกแย่ แต่มันก็จะเกี่ยงเนื่องไปกับสุขภาพกายของเราด้วยเช่นกัน เช่นการที่เราคิดมาก ทำให้เราเครียด วิตกกังวล ซึ่งอาจทำให้เรามีคุณภาพการนอนที่ไม่ดีเท่าไหร่ นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท รวมไปถึงทำให้เราไม่ค่อยอยากอาหาร หรือบางคนอาจจะมีอาการอยากของหวานมากกว่าปกติ กินอาหารมากกว่าปกติ ก็เป็นได้ แยบบนี้ไม่ดีต่อกายและใจแน่นอน

3. ความจำแย่ลง ขี้หลงขี้ลืม

ยิ่งถ้าเราคิดมาก คิดเยอะ คิดวนลูปอยู่แต่ในสิ่งเดิมๆ ก็จะทำให้ความสามารถในการจดจำของเราแย่ลงไปด้วยเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะเราไม่สามารถโฟกัสอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากพอ บวกกับการที่เรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือบางคนแม้ว่าจะนอนเยอะแต่ก็ไม่ได้เป็นการนอนที่มีคุณภาพก็จะทำให้สุขภาพร่างกายของเราไม่เต็มร้อย สมองทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ยิ่งบางคนที่กินของหวานมากเป็นพิเศษ หรือทานอาหารไม่ค่อยมีประโยชน์ และกินน้อยจนเกินไป ก็จะทำให้ร่างกายของเราทำงานหนัก แน่นอนว่าสมองของเราก็ทำงานหนักเช่นกัน ทำให้ความจำของเราไม่ดีเท่าที่เคยเป็น

4. คิดแต่เรื่องความผิดพลาด จนไม่ทันได้คิดหาทางออก

เวลาที่มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น หลายคนอาจจะเอาแต่คิดว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เพราะอะไรที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้าง ความจริงแล้วเรื่องแบบนี้ใครเป็นคนผิด แต่ไม่ได้คิดหาวิธีการแก้ไข้ หาทางออก หรือมูฟออนจากมัน และเอาความผิดพลาดนี้มาเป็นบทเรียน ซึ่งการคิดแต่โทษตัวเอง หรือโทษคนอื่นอยู่เรื่อยๆ จนทำให้เราไม่ทันได้คิดหาวิธีแก้ไข้ หรือคิดหาทางเดินต่อไป ก็เหมือนเป็นการที่เราหยุดอยู่กับที่ ไม่ได้ก้าวไปไหนต่อ จมอยู่แต่กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และกลายเป็นคนที่ไม่ได้มีการพัฒนาอะไร มีแต่แย่กับแย่ลงเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ดีแน่นอน

5. กลายเป็นคนคิดลบ มองโลกในแง่ร้าย

การที่เราเอาแต่คิดถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เอาแต่โทษตัวเองบ้าง โทษคนอื่นบ้าง แบบนี้ไปเรื่อยๆ และจมปลักอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ค่อยๆมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ คิดแต่สิ่งที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้เรากลายเป็นคนขี้วิตกกังวลใจได้ แน่นอนว่าการมองโลกในแง่ร้ายนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย เพราะนอกจากจะทำให้การเข้าสังคมของเราแย่ลงแล้ว ยังทำให้คนอื่นๆที่อยู่รอบตัวเราค่อยๆออกห่างไปเรื่อยๆทีละคน สองคนอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้การที่เราคิดมากคิดเยอะ จนกลายเป็นคนคิดลบ มองโลกในแง่ร้าย ยังส่งผลเสียอีกมากมายต่อสุขภาพกาย และสภาพจิตใจ ทั้งของเรา และคนที่เรารักอีกด้วย