พระพุทธเจ้าทรงเตือนเอาไว้ว่า ในอนาคต ศาสนาพุทธ จะมีอนาคตภัย 5 ประการ
ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 22 พระพุทธเจ้าตรัสถึง “ อนาคตภัย ” ซึ่งจะทำให้พระธรรมวินัย (พุทธศาสนาเป็นชื่อใหม่ เกิดหลังพุทธกาลหลายร้อยปี แต่เดิมพุทธศาสนามีชื่อว่า “ธรรมวินัย” บ้าง “พรหมจรรย์” บ้าง) เสื่อมสูญ อันตรธานไป
อนาคตภัยของ ศาสนาพุทธ มีอะไรบ้าง ท่าน ว. วชิรเมธี ได้สรุปมาให้พิจารณาดังนี้
1.
ในอนาคตกาล ภิกษุทั้งหลายจักไม่ได้อบรมกาย ศีล จิต และปัญญา ทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่มีศีล สมาธิ ปัญญา แต่ก็จะทำหน้าที่บวชให้แก่คนทั่วไปที่มาขอบวช เมื่อตนเอง “ไม่รู้ธรรม แต่สอนธรรม” ผลคือธรรมะที่สอนก็ผิดพลาด คลาดเคลื่อน วินัยที่สอนก็ผิดเพี้ยน นอกรีตนอกรอย
2.
ในอนาคตกาล ภิกษุทั้งหลายจักไม่ได้อบรมกายศีล จิต และปัญญา แต่ภิกษุเหล่านั้นก็จะตั้งตนเป็นอาจารย์ดูแล สั่งสอน ฝึกอบรมศิษยานุศิษย์แบบผิด ๆ เพี้ยน ๆ ซึ่งด้วยวิธีการเช่นนี้ก็จะทำให้พระธรรมวินัยวิปริตผิดเพี้ยน
3.
ในอนาคตกาล ภิกษุทั้งหลายจักไม่ได้อบรมกายศีล จิต และปัญญา เธอเหล่านั้นแสดงธรรมที่ลึกซึ้ง ครั้นสอนผิดจากที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ผิดจากความเป็นจริง หรือผิดจากความจริง ก็จักไม่รู้ตัว นั่นเป็นอีกเหตุหนึ่ง ที่ทำให้พระธรรมวินัยวิปริตผิดเพี้ยน
4.
ในอนาคตกาล ภิกษุทั้งหลายจักไม่ได้อบรมกายศีล จิต และปัญญา เธอเหล่านั้น … ครั้นเมื่อมีผู้กล่าวสูตรทั้งหลายที่เป็นคำสอนแท้ ๆ ของพระพุทธเจ้า มีเนื้อหาลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องความว่าง พวกเธอก็จักไม่ตั้งใจฟัง ไม่ให้ความสำคัญ ไม่คิดจะศึกษาให้ลึกซึ้ง แต่ครั้นเมื่อมีใครก็ตาม กล่าวพระสูตรทั้งหลายที่กวีแต่งขึ้นมาใหม่ เป็นกวีนิพนธ์ มีภาษาไพเราะ เป็นเรื่องภายนอกซึ่งไม่เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่มีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง เป็นคำสอนของสาวกรุ่นหลัง ๆ พวกเธอกลับพากันตั้งใจฟัง สนใจเสียยิ่งกว่าคำสอนที่เป็นเนื้อหาสาระของพระพุทธศาสนาแท้ ๆ นี่ก็เป็นอีกเหตุหนึ่ง ที่ทำให้พระธรรมวินัยวิปริตผิดเพี้ยน
5.
ในอนาคตกาล ภิกษุทั้งหลายจักไม่ได้อบรมกาย ศีล จิต และปัญญา ภิกษุทั้งหลาย ที่เป็นเถระผู้ใหญ่ จะตกเป็นทาสของลาภสักการะผลประโยชน์ ประพฤติย่อหย่อนไม่เคร่งครัดในวินัย เป็นผู้นำในทางเชือนแช ถือหลักธุระไม่ใช่ ไม่สนใจอยู่อย่างสงบสงัด ไม่มุ่งมั่นเพื่อปฏิบัติธรรมเพื่อละกิเลส คนรุ่นหลังเมื่อเห็นตัวอย่างไม่ดีเช่นนั้น ก็จักพากันปฏิบัติตาม โดยนัยดังกล่าวมานี้เอง พระธรรมวินัยก็วิปริตผิดเพี้ยน
ภัยที่จะเกิดในอนาคตทั้ง 5 ประการเหล่านี้ พระพุทธองค์ทรงเตือนเอาไว้ให้ชาวพุทธรู้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้หาทางป้องกันเสียแต่ต้น
คำว่า “ในอนาคตกาล” ของพระพุทธองค์นั้น น่าจะเป็นในเวลาช่วงปัจจุบันนี้เอง เพราะการสอนเรื่องกรรมแบบผิด ๆ ก็ดี การสอนให้ตัดกรรมแบบเพี้ยน ๆ ก็ดี จตุคามองค์ใหญ่ที่สุดในโลกก็ดี พิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในโลกก็ดี ล้วนเสกและสร้างโดยพระสงฆ์ไทยทั้งนั้น ไม่เอะใจกันสักนิดหรือว่า พุทธไม่ใช่ลัทธิกรรมเก่า ไม่ใช่ลัทธิเทวนิยม แต่พุทธสอนให้พึ่งตนเอง ให้ใช้มันสมอง สองมือ สร้างตนสร้างชีวิต เวลานี้เราสอนผิด ๆ ถึงเพียงนี้ มีใครรู้สึกตัวกันบ้าง
ฉะนั้น หากเราทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นชาวพุทธที่แท้ ก็ควรลุกขึ้นมาช่วยกันป้องกันอนาคตภัยเสียตั้งแต่วันนี้ ด้วยการปฏิบัติตัวตามหลักชาวพุทธโดยเคร่งครัด ก่อนที่เราจะมีแต่กาก และปล่อยให้แก่นไปอยู่ในมือของฝรั่ง
หมายเหตุ : บทความนี้เคยตีพิมพ์ในคอลัมน์ Answer Key นิตยสาร Secret ชื่อเรื่อง “อนาคตภัยของพุทธศาสนา : รู้เท่าเอาไว้กัน รู้ทันเอาไว้แก้” เขียนโดย ท่าน ว.วชิรเมธี ซึ่งเป็นการตอบปัญหาธรรมผู้อ่านว่า “พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้หรือไม่ ถึงเหตุแห่งการเสื่อมและสูญสลายของ พุทธศาสนา และมีวิธีป้องกันภัยเหล่านั้นอย่างไร”
บทความน่าสนใจ
3 ลัทธิ ที่ชาวพุทธพึงทราบว่า “ไม่ใช่พระพุทธศาสนา” ว.วชิรเมธี
สุขทุกวัน 7 วัน 7 กูรู ตอน วัตถุมงคล ความเชื่อ กับพระพุทธศาสนา โดย ท่านปิยโสภณ