หากมีสามีแล้ว แต่ อยากนิพพาน ดิฉันควรจะวางตัวอย่างไรดี
ถาม: ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เห็นทุกข์ จึงเริ่มศึกษาธรรมะ ใจของดิฉันตอนนี้จึงมุ่งสู่การพ้นทุกข์ อยากนิพพาน เป็นหลัก ทุกวันนี้ดิฉันเลี้ยงลูกชาย 2 คน พร้อมกับปฏิบัติธรรมไปด้วยเท่าที่จะทำได้ แต่ปัญหาของดิฉันก็คือ ดิฉันต้องการอยู่กับสามีแบบเพื่อน ในขณะที่สามีต้องการอยู่แบบคู่สามีภรรยาทั่วไป แม้ดิฉันจะอนุญาตให้เขาแต่งงานใหม่ มีภรรยาอีกคน หรือจะไปเที่ยวสถานบริการก็ได้ เขาก็ไม่ยอม แต่เขาก็ไม่ได้มาเซ้าซี้กวนใจดิฉัน เพียงแต่จะมากระเซ้าเย้าแหย่บ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น ดิฉันใคร่ขอเรียนถามว่า ดิฉันควรจะวางตัวอย่างไรดี หรือควรจะทำอย่างไรให้เขาหันมาปฏิบัติธรรม จะได้ลดกิเลส ตัณหา ราคะได้บ้าง
พระเมธีวชิโรดม หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี พระอาจารย์ ณ ไร่เชิญตะวัน ศูนย์วิปัสสนาเชียงราย ได้ตอบปัญหานี้เรื่องนี้ไว้ว่า
ตอบ: พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า การปฏิบัติธรรมท่ามกลางการครองเรือนนั้น เป็นไปได้ยากมาก ที่จะทำให้ปฏิบัติธรรมได้ 100 เปอร์เซ็นต์อย่างที่ใจปรารถนา กรณีของคุณจึงนับเป็นตัวอย่างแห่งพุทธดำรัสของพระพุทธเจ้าโดยแท้ ทางที่ดีก็ควรจะยึดหลัก “ทางสายกลาง” เอาไว้นั่นแหละดีที่สุด ทั้งนี้คุณต้องไม่ลืมว่า ก่อนที่คุณจะมาเป็นผู้ปฏิบัติธรรมนั้น คุณมีสถานภาพของการเป็น “ภรรยา” ของสามีด้วย ก่อนแต่งงาน คุณคงไม่ได้บอกสามีล่วงหน้าเป็นแน่ว่า เมื่อแต่งงานไปแล้ว และมีลูกสัก 2 คน จะขออนุญาตปล่อยวางทางโลก เพื่อมุ่งสู่ทางธรรม ในเมื่อเงื่อนไขทางธรรม เป็นเงื่อนไขที่มาทีหลังการสมรส ดังนั้นคุณควรจะเห็นใจสามีของคุณ พอ ๆ กับที่คุณก็ควรจะอธิบายให้สามีเห็นใจคุณด้วย เพราะอย่างน้อย ต่างฝ่ายต่างก็ได้ผ่านโลกียวิสัยกันมาพอสมควรแล้ว หากมีเวลาว่าง ๆ ลองนั่งคุยกันเพื่อหา “ทางสายกลาง” ของเรื่องนี้อย่างเปิดเผยทั้งสองฝ่ายจะดีที่สุด
ส่วนเรื่องการชักนำให้สามีปฏิบัติธรรมนั้น หากจะให้ได้ผลดี ต้องเริ่มจากการที่เขามี “ธรรมฉันทะ” (ความอยากที่จะปฏิบัติ ความเลื่อมใสในการปฏิบัติ) เป็นรากฐานเสียก่อน หากเขาไม่มีธรรมฉันทะเป็นทุนอยู่แล้ว จู่ ๆ เราไปชักชวน หรือพยายามยัดเยียดให้เขาปฏิบัติธรรม เขาจะมีทัศนคติเชิงลบต่อการปฏิบัติธรรมทันที ทางออกของเรื่องนี้ คือ คุณนั่นเองควรดำรงชีวิตอย่างผู้ปฏิบัติธรรมให้เขาดูว่า พอคุณอยู่กับธรรมแล้ว ชีวิตคุณดีขึ้นขนาดไหน
หากคุณเป็นตัวอย่างที่มีพลังมากพอแล้ว ไม่นานหรอกสามีจะอยากปฏิบัติธรรมขึ้นมาเองโดยไม่ต้องชี้ชวน หรือหากรอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่เคยมีธรรมฉันทะสนใจในธรรมขึ้นมาเลย ก็โปรดอย่าตำหนิเขาเลย คนเราก็เป็นอย่างนี้เองคลุกคลีอยู่ในโลก จนติดโลก ครั้นมีคนมาชวนให้พรากกายพรากจิตจากโลก จึงเป็นเรื่องที่ยากจะฝืน อุปมาดั่งปลาที่เวียนว่ายอยู่ในน้ำมาทั้งชีวิต ครั้นมีคนจับมาวางบนบก จึงพยายามจะดิ้นกลับลงไปในน้ำอยู่ตลอดเวลา
มนุษย์อยู่กับกามารมณ์มาจนเคยชิน จู่ ๆ จะให้มองเห็นโทษของกามนั้นไม่ง่ายเลย คุณควรอดทน ใจเย็น และรอคอย ระหว่างนี้ก็ควรทำหน้าที่ของภรรยาและทำหน้าที่ของแม่ที่ดีเลี้ยงลูกไป ดูแลสามีไปตามอัตภาพก่อน วันหนึ่งข้างหน้าหากบารมีทางธรรมของคุณแก่กล้าพอ สามีจะอนุโมทนากับคุณอย่างหมดใจเอง
หากผู้อ่านมีปัญหาหนักใจ ต้องการคำแนะนำแฝงด้วยแนวคิดทางธรรม สามารถส่งคำถามมาได้ที่ Secret Magazine (Thailand)
ที่มา นิตยสาร Secret
บทความน่าสนใจ