ความสงบ บทความธรรมะโดย พระราชญาณกวี (ท่านปิยโสภณ)
โลกนี้ไม่สงบ เพราะใจมนุษย์วุ่นวาย ถ้าใจสงบโลกก็เบาสบาย ใจเราหนึ่งดวงยังวุ่นวายขนาดนี้ ถ้ารวมใจอีกหลายล้านดวงเข้าหากันจะวุ่นวายเพียงใด ความสงบ
ให้หันมาเพ่งมองดูใจเราเอง ขจัดความวุ่นวายออกไปให้หมด แม้วันนี้ยังกำจัดขยะเก่าไม่ได้ ก็อย่านำขยะใหม่เข้ามา เรื่องที่ทำให้ร้อนใจ ส่วนใหญ่มักมาจากปากที่พูดไม่จบ หูที่ฟังทุกอย่าง ตาที่ดูโดยไม่ระมัดระวัง ถ้าต้องการความสงบ ให้สำรวมปาก ตา หูให้ดี อะไรที่ควรพูด ควรดู ควรฟัง เรารู้อยู่แก่ใจ เราจะปลอดภัยหรือเสี่ยงภัย อยู่ที่ 3 เรื่องนี้เท่านั้น ถ้าระวังได้ดีก็ปลอดภัย ถ้าไม่ระวังก็เสียหาย
ข้าพเจ้ามีความเชื่อส่วนตัวว่า ปัญหาส่วนใหญ่มักจบลงด้วยดีหากหยุดพูดถึง แต่ปัญหาจะกระพือไปไกล เมื่อหลายปากมารวมกันพูด การพูดไม่ได้แก้ปัญหา แม้กับปัญหาที่พอจะแก้ไขได้ จงระวังปากคน อย่าตกเป็นเหยื่ออารมณ์ เก็บหูไว้ อย่าฟังเรื่องไร้สาระ ขัดแย้ง พยาบาท หยุดตาไว้ อย่าดูเรื่องร้อนทางอารมณ์
เวลาในชีวิตมีจำกัด พระอาทิตย์ขึ้นอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ตก เดี๋ยวมืด เดี๋ยวสว่าง เดี๋ยวเกิด แก่ เจ็บ ตาย เวียนว่ายอยู่เช่นนี้ เวลาในชีวิตแต่ละวันหมดไปอย่างรวดเร็ว เราเก็บอะไรใส่เข้าไปในจิตบ้าง บางคนใส่ขยะที่คนอื่นทิ้ง แต่บางคนใส่แต่ของดี ๆ เข้าไป
ใส่สิ่งใดเข้าไป ใจของเราก็เป็นเช่นนั้น จิตเหมือนแก้วใส ใส่น้ำขุ่นก็ขุ่น ใส่น้ำใสก็ใสผ่อง เราไม่อาจหลีกเลี่ยงอารมณ์ แต่สามารถห้ามปากพูด ห้ามตาดู ห้ามหูฟังโดยไม่ให้หลงอารมณ์
ความสงบของจิตคือความสงบของชีวิต ทบทวนเรื่องราวในชีวิตเรา ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ ดูให้ดีว่ามีกี่พันเรื่อง เลือกเฉพาะเรื่องดี ๆ มาพูดคุย คนที่คบมีกี่พันคน จะเลือกคบคนเช่นไร
ไม่มีใครบัญชาใจเราได้นอกจากตัวเราเอง ตัวเราอยู่ที่ไหน อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่ไหน อยู่ที่อารมณ์ จะขจัดอารมณ์ร้ายต้องฝึกสติและสัมปชัญญะ คือความระลึกได้และความรู้ตัว ทั้งสองนี้เป็นเสมือนเบรกห้ามล้อมิให้รถวิ่งเร็วจนเกิดอุบัติเหตุ
ร่างกายเหมือนรถใหม่ แรงดี วิ่งเร็ว จิตใจเหมือนคนขับ กิเลสร้อนเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิง สติสัมปชัญญะเหมือนพวงมาลัยและเบรก
นิ่งคิดสักนิด ชีวิตจะมีสุข
ที่มา นิตยสาร Secret
บทความที่น่าสนใจ
เคล็ดลับอยู่ร่วมกับคนอื่นแบบเป็นสุข 6 หลักธรรมที่ชาวพุทธควรรู้