โรคสะเก็ดเงิน

True Story : ความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเข้าใจ ความทุกข์ของผู้ป่วยด้วยโรคสะเก็ดเงิน

 

ต่อมาฉันตั้งท้อง จึงกังวลว่าลูกอาจติดโรคที่ฉันเป็น แต่หมอยืนยันว่าลูกจะไม่ติด เมื่อลูกสาวคลอดออกมาก็เป็นปกติทุกอย่าง ตั้งแต่มีลูก ฉันก็เลี้ยงลูกอยู่บ้าน ไม่ยอมออกไปไหน เมื่อลูกโตขึ้นมาหน่อย สามีก็พยายามชวนฉันออกไปนอกบ้าน พาไปเปิดหูเปิดตาในเมืองบ้างก่อนออกจากบ้าน ฉันจะถามเขาเสมอว่า

“หน้าฉันแดงไหม ถ้าหน้าแดงฉันไม่ไปนะ ไม่อยากให้คนมอง”

“จะแดงหรือไม่แดงก็ออกไปข้างนอกได้ อย่าไปสนใจคนอื่นเลย”

เมื่อเขาตอบเช่นนี้ ฉันจึงยอมออกไปด้วย เพราะใจจริงแล้วก็อยากออกไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ให้ลูกอยู่เหมือนกัน แต่การออกไปครั้งนั้น ฉันก็หนีไม่พ้นเสียงซุบซิบนินทา และสายตาที่มองมาอย่างรังเกียจไม่ได้ คนในเมืองที่ดูดีมีการศึกษา กลับไม่เป็นมิตรกับฉันเหมือนอย่างคนในหมู่บ้าน พวกเขามองจ้องเขม็ง ไม่ละสายตา มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉันรับรู้ได้ถึงความรังเกียจและอยากเดินเข้าไปบอกพวกเขาเหลือเกินว่า

“โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อโปรดเห็นใจ และอย่าซ้ำเติมให้คนเป็นโรคนี้เจ็บปวดหัวใจอีกเลย เพราะความเจ็บป่วยทางกายที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดก็ทรมานมากอยู่แล้ว”

ฉันต้องรักษาแผลที่ขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ ไปตามอาการ ต้องเสียค่าหมอค่ายาเป็นประจำ จนเกรงใจสามีที่เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวอยู่คนเดียว หลายครั้งฉันนึกเสียใจที่ไม่สามารถแบ่งเบาภาระของคนที่รักได้เลย ตั้งแต่แม่ พี่น้อง จนถึงสามี

 

โรคสะเก็ดเงิน

 

แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนสวรรค์มาโปรด

พี่สาวของฉันกลับมาพร้อมกับเศษกระดาษหนังสือพิมพ์ยับยู่ยี่ เธอมาหาฉันด้วยหน้าตาดีใจ และยื่นให้อ่านข่าวที่ว่า นายกเทศมนตรีเมืองท่าช้าง จังหวัดจันทบุรีเปิดรักษาโรคสะเก็ดเงินฟรีเนื้อข่าวเขียนว่า นายกเทศมนตรีคนนี้ใช้สมุนไพรรักษาผู้ป่วยสะเก็ดเงินจนหายมาหลายคนแล้ว

ข้อความในหน้ากระดาษนั้นทำให้ฉันมีความหวังฉันเก็บกระดาษหนังสือพิมพ์แผ่นนั้นไว้อย่างดี แม้จะต้องเดินทางข้ามจังหวัดกว่า 100 กิโลเมตร แต่ฉันก็ขอให้สามีพามา เมื่อมาที่นี่ครั้งแรก ฉันก็ได้พบกับนายกเทศมนตรีฯ (คุณเฉลิมพล ศักดิ์คำ) ที่คนอื่น ๆ เรียกอย่างสนิทว่า “ป๋าเหลิม” เขาเข้ามาดูแลแผลให้อย่างไม่รังเกียจ ฉันได้รับทั้งยากิน ยาทาสมุนไพรมาใช้รักษา พร้อมทั้งคำแนะนำในการดูแลตัวเอง

ฉันดูแลตัวเองตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องยา อาหารการกินและจิตใจที่ต้องไม่เครียดโดยมีลูกสาวเป็นกำลังใจสำคัญ ฉันเล่าให้ลูกฟังว่าฉันเป็นโรคอะไร ลูกอาจยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ แต่ก็อาสาทายาให้ฉันเสมอ พร้อมกับพูดปลอบใจแม่ว่า

“หนูอยากให้แม่หาย หนูอยากเป็นแทนแม่”

 

คลิกเลข 4 เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.